fbpx

หมอกหนาทึบในจีนทำรถชนกันหลายสิบคันบนสะพาน ตาย 1

ปักกิ่ง 28 ธ.ค. – เกิดเหตุรถยนต์หลายสิบคันชนกันบนสะพานแห่งหนึ่งที่นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนานของจีน เนื่องจากสภาพอากาศที่มีหมอกหนาทึบจนทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นย่ำแย่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า เกิดเหตุรถยนต์หลายสิบคันชนกันบนสะพานเจิ้งซินหวงเหอที่นครเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน จนทำให้มีรถยนต์และรถบรรทุกหลายคันชนซ้อนกันและมีสภาพพังยับเยิน เหตุดังกล่าวยังทำให้มีประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บและติดอยู่ในจุดเกิดเหตุ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยจีนได้ส่งรถดับเพลิง 11 คันและเจ้าหน้าที่กู้ภัย 66 นายลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือประชาชนแล้ว รายงานเบื้องต้นระบุว่า มีรถยนต์กว่า 200 คันได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ก่อนหน้านี้ สำนักงานจราจรและขนส่งของนครเจิ้งโจวได้ประกาศคำสั่งห้ามประชาชนขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทผ่านสะพานดังกล่าว เนื่องจากสภาพอากาศที่มีหมอกหนาจัดเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุรถชนกันบนสะพานแห่งนี้ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนระบุว่า หลายพื้นที่ของจีน ซึ่งรวมถึงนครเจิ้งโจว มีทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ถึง 500 เมตร และในบางพื้นที่มีทัศนวิสัยเพียง 200 เมตรในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ สะพานเจิ้งซินหวงเหอถือเป็นเส้นทางสำคัญที่ใช้สัญจรข้ามผ่านแม่น้ำฮวงโห ซึ่งมีความยาวเป็นอันดับสองของจีน และยังเป็นสะพานเชื่อมต่อนครเจิ้งโจวกับเมืองซินเซียง.-สำนักข่าวไทย

จีนล็อกดาวน์นครเจิ้งโจวหลังเหตุประท้วงที่โรงงานผลิตไอโฟน

ปักกิ่ง 24 พ.ย. – นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนานของจีน สั่งล็อกดาวน์พื้นที่หลายเขต หลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงขึ้นที่โรงงานผลิตไอโฟนขนาดใหญ่ของฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทผู้รับช่วงผลิตให้แก่แอปเปิล อิงค์ ของสหรัฐ นครเจิ้งโจวระบุในประกาศเมื่อคืนวันพุธว่า ประชาชนในนครเจิ้งโจวจะไม่สามารถเดินทางออกนอกเมืองได้ ยกเว้นผู้ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบและได้รับอนุญาตจากทางการท้องถิ่น ทั้งยังระบุว่า นครเจิ้งโจวแนะนำให้ประชาชนงดออกนอกบ้าน ยกเว้นผู้ที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น โดยจะเริ่มใช้มาตรการนี้เป็นเวลา 5 วันเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งเมือง ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ นครเจิ้งโจวยังกำหนดให้ประชาชนในพื้นที่ 8 เขตเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 5 วันเช่นกัน ประกาศดังกล่าวของนครเจิ้งโจวมีขึ้นหลังจากพนักงานของฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีของไต้หวัน ได้รวมตัวกันก่อเหตุประท้วงรุนแรงที่โรงงานผลิตไอโฟนขนาดใหญ่ในนครเจิ้งโจว เนื่องจากไม่พอใจต่อการใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดที่เข้มงวดมาเป็นเวลานานหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในหอพักคนงาน ขณะที่ทางการนครเจิ้งโจวระบุเมื่อวันพุธว่า ขณะนี้ สถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในนครเจิ้งโจวยังคงรุนแรงและยากเกินควบคุม ทั้งนี้ นครเจิ้งโจวแจ้งวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 675 คนเมื่อวันพุธ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโควิดที่ไม่แสดงอาการ ขณะที่ทางการจีนรายงานว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศ 31,454 คนเมื่อวันพุธ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศเกือบ 3 ปี. -สำนักข่าวไทย

จีนสั่งล็อกดาวน์พื้นที่รอบโรงงานผลิตไอโฟนของ “ฟ็อกซ์คอนน์”

ปักกิ่ง 2 พ.ย. – จีนสั่งล็อกดาวน์พื้นที่รอบโรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทผู้รับช่วงผลิตให้แก่แอปเปิล อิงค์ ของสหรัฐ ที่นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน เป็นเวลา 7 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตไอโฟนของแอปเปิลอย่างหนัก นครเจิ้งโจวระบุในแถลงการณ์ผ่านวีแชต (WeChat) แอปพลิเคชั่นสมาร์ตโฟนยอดนิยมของจีน ในวันนี้ว่า ทางการจะสั่งล็อกดาวน์พื้นที่รอบโรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ในนครเจิ้งโจวจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐ รายงานว่า คำสั่งดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการใช้นโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ของจีนเพื่อควบคุมการระบาด และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในโรงงานสำคัญของฟ็อกซ์คอนน์อีกด้วย ขณะนี้ ฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของไต้หวัน กำลังเร่งควบคุมการระบาดของโรคโควิดที่โรงงานในนครเจิ้งโจวและสั่งให้พนักงานราว 200,000 คนกักตัวในที่พัก จนทำให้มีพนักงานจำนวนมากพากันแห่หนีออกมาจากโรงงานเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีข่าวลือในสื่อโซเชียลมีเดียที่ระบุว่ามีพนักงานบางคนติดเชื้อโควิดและเสียชีวิต อย่างไรก็ดี ฟ็อกซ์คอนน์ได้ประกาศเพิ่มเงินค่าจ้างพิเศษ 4 เท่าให้แก่พนักงานที่โรงงานในนครเจิ้งโจว เพื่อบรรเทาความไม่พอใจของพนักงานที่ตกอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิดอย่างเข้มงวด พร้อมวางแผนปฏิบัติงานสำรองที่โรงงานแห่งอื่น ๆ ในจีน หากโรงงานที่นครเจิ้งโจวไม่สามารถปฏิบัติงานได้.-สำนักข่าวไทย

จีนสั่งประชาชนเกือบ 100 ล้านตรวจโควิดทุก 2 วัน

ปักกิ่ง 23 พ.ค. – มณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน สั่งให้ประชาชนเกือบ 100 ล้านคน เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุก 2 วัน ซึ่งเป็นมาตรการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในขณะที่จีนกำลังรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทางการท้องถิ่นของมณฑลเหอหนาน ซึ่งมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน ประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาวมณฑลเหอหนานและผู้พำนักอาศัยควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทุก 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน โดยจะเริ่มต้นจากนครเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหอหนาน ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อค้นหาผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อโควิดได้อย่างรวดเร็ว ผู้ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวจะมีปัญหาในการสแกนรหัสที่จำเป็นต่อการเข้าสถานที่สาธารณะหรือใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ ในขณะเดียวกัน เมืองเอกของมณฑลอื่น ๆ ของจีน เช่น นครฉือเจียจวง เมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย์ ทางตอนเหนือของจีน ก็ได้ประกาศใช้มาตรการคล้ายกับมณฑลเหอหนาน โดยจะสั่งให้ประชาชน 11 ล้านคนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นประจำทุกสัปดาห์นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายรายได้ออกมาเตือนว่า การตรวจหาเชื้อโควิดเป็นวงกว้างบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายสูงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2563 จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 15,800 คน. […]

...