
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกคืบหน้าตึก สตง. ถล่ม กำชับสืบสวนใกล้ชิด
“นายกฯ แพทองธาร” นั่งหัวโต๊ะตามความคืบหน้าตึก สตง. ถล่ม กำชับสืบสวนใกล้ชิด ลั่นใช้กฎหมายดำเนินการเด็ดขาด ชี้ต้องตอบให้ได้
“นายกฯ แพทองธาร” นั่งหัวโต๊ะตามความคืบหน้าตึก สตง. ถล่ม กำชับสืบสวนใกล้ชิด ลั่นใช้กฎหมายดำเนินการเด็ดขาด ชี้ต้องตอบให้ได้
นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกไล่บี้แก้ไขปัญหา SMS เตือนภัยช้า ชี้ เป็นช่องทางแจ้งเตือนเชิงรุก ขณะที่ หน่วยงานรัฐ-ค่ายมือถือ โยนกันไปมาต้นเหตุความช้า
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่
นายกฯ เผยได้รับรายงานการประชุมฉุกเฉินอาเซียนต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาและไทย ขอบคุณมาเลเซียที่จัดประชุม รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนที่ให้กำลังใจและการสนับสนุนแก่ไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ
นายกฯ ขอบคุณ ครม.และทุกส่วนราชการ ร่วมเแจงอภิปรายฯ พร้อมนำข้อแนะนำของฝ่ายค้านมาแก้ไขปัญหา สั่งการ ครม. เร่งแก้เศรษฐกิจ ปากท้อง ปัญหาทุกมิติของประเทศและ ปชช.
ภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก ข้อมูลฝ่ายค้าน การตอบคำถามของนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างไร จะมีผลอย่างไรทางการเมือง ไปฟังมุมมองการวิเคราะห์จาก ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
โซล 24 มี.ค.- ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีมติไม่ถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีตามที่ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าไม่ยอมคัดค้านการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี เช้าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีมติ 7 ต่อ 1 เสียง ไม่ถอดถอนนายฮัน ด็อก ซู ออกจากตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี หลังจากที่เขาถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการคัดค้านการประกาศกฏอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล และอีกทั้งยังปฏิเสธการแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทนตำแหน่งที่ว่างลง 3 คน ทำให้เขาถูกสภานิติบัญญัติลงมติให้ถอดถอนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 5 เสียงระบุว่า คำร้องให้ถอดถอนนายฮันถูกต้อง แต่ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะถอดถอนเพราะนายฮันไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกหรือการก่อกบฏ ขณะที่อีก 2 เสียงตัดสินว่า การยื่นถอดถอนนายฮันซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีในขณะนั้นถือเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้น คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ถือเป็นจุดพลิกผันล่าสุดของการเมืองเกาหลีใต้ที่อยู่ในความปั่นป่วนตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา นายฮัน ให้สัมภาษณ์หลังศาลมีคำตัดสินโดยกล่าวขอบคุณศาลที่ตัดสินคืนอำนาจให้ซึ่งจะมีผลให้เขาได้กลับเข้าทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีอีกครั้งโดยทันที นายฮัน วัย 75 ปี ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลเกาหลีใต้มานานกว่า 3 ทศวรรษ ภายใต้ประธานาธิบดี 5 คน ทั้งสายอนุรักษนิยมและเสรีนิยม.-816(814).-สำนักข่าวไทย
ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า จะตัดสินเรื่องการถอดถอนนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อค-ซู ในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น ตอบคำถามที่สมาชิกรัฐสภาพรรคฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสดในสภา เกี่ยวกับเรื่องที่เขาแจกบัตรกำนัลให้กับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส.
ออตตาวา 15 มี.ค.- นายมาร์ค คาร์นีย์ อดีตประธานธนาคารกลางแคนาดาและอังกฤษ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดาแล้ว หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาล การสาบานตนของนายคาร์นีย์ วัย 59 ปี มีขึ้นเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายจัสติน ทรูโดที่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2556 และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2558 นายคาร์นีย์แถลงข่าวทันทีที่เข้ารับตำแหน่งว่า สามารถทำงานร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐได้ ผู้นำคนใหม่ของแคนาดากล่าวว่า นับถือประธานาธิบดีทรัมป์ และเคยร่วมงานกับนายทรัมป์มาก่อนในการประชุมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ประสบการณ์บางส่วนของเขายังมีความคล้ายคลึงกับของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของชาติ เขาคิดว่าแคนาดาและสหรัฐสามารถจะหาทางออกร่วมกันได้ในแนวทางที่จะเกิดประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย คณะรัฐบาลชุดใหม่ของนายคาร์นีย์ได้ปรับโครงสร้างให้เล็กลงเหลือเพียง 24 ตำแหน่ง น้อยกว่าคณะรัฐมนตรีของนายทรูโดเกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ดี นายคาร์นีย์ยังไม่มีแผนจะเจรจากับนายทรัมป์ และพูดชัดเจนว่า การที่รัฐบาลนายทรัมป์พูดเรื่องจะผนวกแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะแคนาดาจะไม่มีวันยอมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม.-816(814).-สำนักข่าวไทย