ยูกันดาเจออีโบลาในเมืองหลวงอีก

กัมปาลา 23 ต.ค.- กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาแจ้งว่า พบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลารายใหม่อีก 2 ราย ในหน่วยแยกกักโรคของโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงกัมปาลา ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้พบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วในขณะนี้ 5 ราย กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาซึ่งเป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออกแถลงวันนี้ว่า ผู้ป่วย 3 รายจากทั้งหมด 60 รายที่ถูกแยกกักโรคในโรงพยาบาลมูลาโกของกรุงปัมปาลามีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเมื่อวันก่อน ทั้ง 3 คนใกล้ชิดกับผู้ป่วยคนหนึ่งที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลเดียวกัน ส่วนเมื่อวานนี้พบผู้ป่วยที่ถูกแยกกักโรคอีก 2 คนที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตรายนี้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก ทั้งคู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป 41 กิโลเมตร กรุงกัมปาลาพบผู้ป่วยอีโบลาที่ได้รับการยืนยัน 5 ราย หลังจากกระทรวงสารสนเทศประกาศได้ไม่กี่วันว่า ยูกันดาใกล้จะควบคุมการระบาดของอีโบลาได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยคาดว่าการระบาดจะสิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้ รัฐบาลยูกันดาใช้มาตรการล็อกดาวน์นาน 3 สัปดาห์รอบพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน และแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 65 คน เสียชีวิต 27 คน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ารวมผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 รายหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

“โตโน่” ทำสำเร็จ ว่ายน้ำข้ามโขง ระดมเงินบริจาคช่วย รพ.นครพนม-สปป ลาว

ทำสำเร็จ “โตโน่” ว่ายน้ำข้ามโขง รวม 15 กิโลเมตร ระดมเงินบริจาคช่วยโรงพยาบาลนครพนมและ สปป ลาว

มดเป็นรังขึ้นเต็มตัวคุณตานอนรักษาตัว รพ.โร่ขอโทษ เตรียมเยียวยา 3 แสน

ญาติผู้ป่วยโพสต์คลิปมดแดงเป็นรัง รุมไต่ตามตัวคุณตาที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่พยาบาลบอกให้ญาติจัดการเอง ขณะที่โรงพยาบาลได้ขอโทษ เตรียมมอบเงินเยียวยา 300,000 บาท

แคนาดาขาดแคลนพยาบาลอย่างรุนแรง

ออตตาวา 11 ต.ค.- แคนาดากำลังเผชิญภาวะขาดแคลนพยาบาลอย่างรุนแรง ทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศมีคนไข้ล้นห้องฉุกเฉิน บางแห่งถึงขั้นต้องปิดให้บริการห้องฉุกเฉิน เพิ่มแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขระดับประเทศที่ตึงตัวอยู่แล้ว เอเอฟพีระบุว่า ความเหนื่อยล้าจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 การถูกคนไข้กดดัน และความไม่พอใจเรื่องเงินเดือนทำให้พยาบาลตบเท้าลาออกจากงานจนเกิดภาวะขาดแคลน ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิดให้บริการเป็นวัน เป็นสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น คนไข้ใช้เวลา 12-20 ชั่วโมงในการรอแพทย์ห้องฉุกเฉิน หลายคนไม่พอใจและระบายอารมณ์ถึงขั้นลงไม้ลงมือกับพยาบาลที่มีงานล้นมืออยู่แล้ว แม้แต่ในกรุงออตตาวาที่เป็นเมืองหลวง ตำรวจต้องขับรถส่งคนเจ็บถูกยิงไปโรงพยาบาลเอง เพราะนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์รอส่งคนไข้เข้าห้องฉุกเฉินที่เต็มจนล้น จึงไม่สามารถขับรถพยาบาลออกไปรับคนไข้ได้ เหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นมากกว่า 1,000 ครั้งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ผลสำรวจของสหภาพลูกจ้างภาครัฐแคนาดา ซึ่งเป็นสหภาพใหญ่ที่สุดของประเทศพบว่า พยาบาลร้อยละ 87 คิดเรื่องลาออกเพราะสภาพการทำงานที่คนไม่เห็นคุณค่าและเหนื่อยแสนสาหัส กระทรวงสาธารณสุขแคนาดาเคยประกาศว่า จะเปิดทางให้แพทย์และพยาบาลที่สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศประมาณ 11,000 คนสามารถทำงานในประเทศได้ แต่เอเอฟพีระบุว่า คงไม่เพียงพอเพราะขณะนี้มีตำแหน่งพยาบาลว่างถึง 34,400 ตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย

“มหาเธร์” ออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังติดโควิด

กัวลาลัมเปอร์ 4 ก.ย.- สำนักงานของ นพ.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแจ้งว่า มหาเธร์ออกจากโรงพยาบาลแล้วในวันนี้ หลังจากรับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 หรือโควิด-19 แถลงการณ์ของสำนักงานระบุว่า มหาเธร์วัย 97 ปี เข้าสถาบันโรคหัวใจแห่งชาติเมื่อวันพุธ เนื่องจากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก และหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วจะกักตัวที่บ้านพักจนถึงวันอังคารนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่รัฐบาลมาเลเซียเผยว่า มหาเธร์รับวัคซีนโควิดแล้ว 3 เข็ม เข็มสุดท้ายฉีดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 มหาเธร์รับการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วนที่สถาบันโรคหัวใจแห่งชาติเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ และเข้ารับการรักษาอีกครั้งในเดือนเดียวกัน สถาบันฯ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเรื่องการรักษา เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของประเทศเป็นเวลาติดต่อกันถึง 22 ปี ตั้งแต่ปี 2524-2546 จากนั้นกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 7 ในวัย 92 ปี ด้วยการนำพันธมิตรฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2561 แต่เกิดการแย่งชิงอำนาจภายในรัฐบาล ทำให้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี 2563.-สำนักข่าวไทย

รมว. หญิงโปรตุเกสลาออกจากเหตุสั่งปิดบริการสูติฉุกเฉิน

ลิสบอน 30 ส.ค.- นางมาร์ตา เตมิโด รัฐมนตรีสาธารณสุขของโปรตุเกสลาออกในวันนี้ หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องสั่งปิดบริการฉุกเฉินด้านสูติกรรม ทำให้สตรีมีครรภ์เสี่ยงอันตรายจากการถูกส่งตัวระหว่างโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขโปรตุเกสแถลงว่า เตมิโดวัย 48 ปี ตัดสินใจลาออก เพราะตระหนักว่า ตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป ด้านนายกรัฐมนตรีอันโตนีโอ กอสตาของโปรตุเกสแถลงว่า อนุมัติการลาออกของเธอแล้ว และขอขอบคุณในสิ่งที่ได้ทำมา รวมถึงความสำเร็จในการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เตมิโอตัดสินใจลาออกหลังจากมีข่าวได้ไม่กี่ชั่วโมงว่า สตรีมีครรภ์คนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ เพราะเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นในขณะที่รถฉุกเฉินกำลังส่งตัวเธอจากโรงพยาบาลซานตามาเรีย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในกรุงลิสบอน ไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง เนื่องจากโรงพยาบาลแรกไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการคลอดบุตร รัฐบาลโปรตุเกสตัดสินใจปิดบริการฉุกเฉินด้านสูติกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ตามโรงพยาบาลที่มีแพทย์ไม่เพียงพอในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ทำให้พรรคฝ่ายค้านและทางการท้องถิ่นวิจารณ์รัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะนโยบายนี้ทำให้สตรีมีครรภ์ต้องเสี่ยงเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ไกลออกไป.-สำนักข่าวไทย

“ซัลมาน รัชดี” ยังอยู่ รพ. ขณะคนร้ายให้การปฏิเสธ

นิวยอร์ก 14 ส.ค.- นายซัลมาน รัชดี นักเขียนนวนิยายชื่อดังยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระหน่ำแทงขณะไปปรากฏตัวต่อสาธารณะในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ ด้านผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธ ตัวแทนของนายรัชดียังไม่ตอบคำถามสื่อในวันเสาร์ที่สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของเขา แต่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์อ้างว่า ตัวแทนรายนี้เผยว่า นายรัชดีวัย 75 ปี สามารถพูดได้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ตัวแทนอีเมลแจ้งสื่อว่า นายรัชดีรับการผ่าตัดนานหลายชั่วโมง และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจโดยที่ยังไม่สามารถพูดได้เมื่อเย็นวันศุกร์ โดยมีแนวโน้มว่าจะสูญเสียดวงตาข้างหนึ่ง เส้นประสาทแขนเสียหาย และตับเป็นแผล ขณะเดียวกันทนายความของนายฮาดี มาตาร์ วัย 24 ปี ผู้ต้องสงสัยชาวเมืองแฟร์วิว รัฐนิวเจอร์ซีย์เผยว่า ลูกความให้การปฏิเสธต่อข้อหาพยายามฆ่าและข้อหาทำร้ายร่างกายในการขึ้นศาลเมื่อวันเสาร์ หลังจากขึ้นเวทีไปกระหน่ำแทงนายรัชดี นักเขียนสัญชาติอังกฤษและอเมริกันที่เกิดในอินเดีย ขณะที่นายรัชดีเตรียมตัวบรรยายเรื่องเสรีภาพศิลปินที่สถาบันเชอทอควาในเมืองเชอทอควา ทางตะวันตกของรัฐนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ยังไม่ระบุเรื่องมูลเหตุจูงใจของผู้ต้องสงสัย สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวยอร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของนายมาตาร์พบว่า มีความคิดเห็นเข้าข้างกลุ่มสุดโต่งชีอะห์และกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกันชัดเจน องค์กรในอิหร่านหลายแห่งได้ตั้งค่าหัวนายรัชดีไว้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะไม่พอใจที่เขาแต่งนวนิยายเรื่อง The Satanic Verses ที่ถูกมองว่าลบหลู่ศาสนาอิสลาม ด้านนายกเทศมนตรีเมืองยารอน ทางตอนใต้ของเลบานอนเผยว่า นายมาตาร์เกิดที่สหรัฐหลังจากบิดามารดาอพยพออกจากเมืองนี้ไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.1 ที่ฟิลิปปินส์

สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ หรือ ยูเอสจีเอส รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดความแรงที่ 7.1 ที่เกาะลูซอน ของฟิลิปปินส์ในวันพุธ สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและอาคารต่าง ๆ ที่จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศและแรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ถึงกรุงมะนิลา

ออสเตรเลียมีคนติดโควิดเข้าโรงพยาบาลมากเป็นประวัติการณ์

ซิดนีย์ 25 ก.ค.- ออสเตรเลียมีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้าโรงพยาบาลมากเป็นประวัติการณ์ราว 5,450 คนในวันนี้ เนื่องจากเชื้อไวรัสโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่แพร่ระบาดง่ายทำให้โรงพยาบาลตึงตัวทั่วประเทศ ผู้ติดเชื้อในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน เชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดหลัก เนื่องจากสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีนและการเคยติดเชื้อมาก่อน ยอดผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลขณะนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่ออสเตรเลียพบการระบาด และสูงกว่ายอดเดือนมกราคมปีนี้ที่มีคนเข้าโรงพยาบาล 5,390 คนในช่วงที่โอไมครอนระบาดระลอกแรก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตแตะ 100 คนเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียแจ้งว่า บ้านพักคนชรามากกว่า 1,000 แห่ง มีปัญหาโควิดระบาด ทำให้ขาดแคลนคนดูแล กระทรวงกลาโหมจึงจะขยายการส่งบุคลากรไปช่วยดูแลคนชราไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ขณะที่บุคลากรแนวหน้าตามโรงพยาบาลก็ติดเชื้อหรือกักตัวจำนวนมาก ทำให้ระบบสาธารณสุขตึงตัวยิ่งขึ้นไปอีก ทางการแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ปิด และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ พร้อมกับขอให้ภาคธุรกิจให้พนักงานทำงานจากบ้านหากสามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้ออสเตรเลียมีการระบาดทั้งโควิดและไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียขอให้ทำงานจากบ้านเพราะโอไมครอนระบาด

ซิดนีย์ 20 ก.ค.- ออสเตรเลียขอให้ภาคธุรกิจให้พนักงานทำงานจากบ้าน แนะนำประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ปิดและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยทันที เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนระบาดหนักจนผู้ป่วยใกล้เต็มโรงพยาบาลแล้ว เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนกำลังระบาดระลอก 3 ในออสเตรเลีย ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 300,000 คน ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เฉพาะวันอังคารวันเดียวพบมากถึง 50,000 คน มากที่สุดในรอบ 2 เดือน มีผู้ติดเชื้อรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 5,300 คน ใกล้แตะระดับสูงสุด 5,390 คนในเดือนมกราคมช่วงที่สายพันธุ์ย่อย BA.1 ระบาด พอล เคลลี นายแพทย์ใหญ่ของออสเตรเลียเผยกับสถานีวิทยุเอบีซี (ABC) ในวันนี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลจะแตะระดับสูงสุดในอีกไม่นาน จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง หนึ่งในนั้นคือการทำงานจากบ้าน เพราะจะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดในระดับมหภาคได้ อย่างไรก็ดี เขาไม่แนะนำให้ใช้มาตรการจำกัดอื่น ๆ หรือบังคับสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง ประชากรออสเตรเลียวัย 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วร้อยละ 95 และมีผู้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วร้อยละ […]

1 9 10 11 12 13 45
...