รัสเซียยอมรับสถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดขึ้น
เคียฟ 19 ต.ค. – ผู้บัญชาการคนใหม่ของกองทัพรัสเซียในยูเครนยอมรับว่า รัสเซียกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากปฏิบัติการโต้กลับของยูเครนในพื้นที่ทางใต้และตะวันออกของยูเครนที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ซึ่งถือเป็นการยอมรับที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ นายเซอร์เก ซูโรไวกิน นายพลประจำกองทัพอากาศรัสเซียที่เพิ่งได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการคนใหม่ของกองทัพรัสเซียในยูเครน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์รอสซิยา 24 ของทางการรัสเซียว่า สถานการณ์ในพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น สถานการณ์ในแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เข้าขั้นยากลำบาก เนื่องจากยูเครนได้มุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและเขตอาคารที่พักอาศัยในแคว้นเคอร์ซอน ในขณะเดียวกัน นายวลาดีมีร์ โรกอฟ สมาชิกของทางการท้องถิ่นของแคว้นซาปอริชเชียที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซีย เผยวันนี้ว่า กองทัพยูเครนได้ยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองเอเนอร์โฮดาร์ที่ถูกรัสเซียยึดครองอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยที่เมืองดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังระบุว่า ยูเครนได้ยิงปืนใหญ่ตกใส่ย่านชานเมืองเอเนอร์โฮดาร์ รวมถึงปืนใหญ่อีก 10 ลูกที่ตกในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กองทัพรัสเซียถูกยูเครนใช้ปฏิบัติการรุกคืบจนทำให้รัสเซียต้องถอยร่นออกไปราว 20-30 กิโลเมตรในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเสี่ยงที่จะถอยร่นไปติดชายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปรที่มีความยาว 2,200 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย