“นพดล” มั่นใจ “เศรษฐา” ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย-จริยธรรม
“นพดล” มั่นใจ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายและจริยธรรม ตามที่ “ชูวิทย์” กล่าวหา
“นพดล” มั่นใจ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายและจริยธรรม ตามที่ “ชูวิทย์” กล่าวหา
“กรมที่ดิน” ชี้แจงปมแบ่งขายที่ดินเป็นสิทธิเจ้าของโฉนด ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่การเลี่ยงภาษี
“ชูวิทย์” แฉหลักฐานการซื้อขายที่ดินมูลค่ากว่า 1,570 ล้านบาท เลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากว่า 521 ล้านบาท เชื่อ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ รู้เรื่องอย่างดี เพราะเข้าประชุมกรรมการบริษัท
ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่เขตเรียกรับเงินสินบนเลี่ยงจ่ายภาษี
ศาลฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า มาเรีย เรสซา นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ และนักเขียนชาวฟิลิปปินส์/อเมริกัน พ้นผิดในข้อกล่าวหาทั้งหมด 4 ข้อ ที่เกี่ยวกับคดีหลบเลี่ยงภาษี
โรม 27 ก.ย.- อดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลีกลับเข้าสู่รัฐสภาอีกครั้ง ก่อนจะมีอายุครบ 86 ปี ในวันพฤหัสบดีนี้ ด้วยการชนะเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลังจากถูกห้ามดำรงตำแหน่งราชการมาเกือบ 10 ปี จากความผิดคดีเลี่ยงภาษี นายแบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ได้รับคะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่งในการลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่เมืองมอนซา ทางตอนเหนือของประเทศ ที่ซึ่งเขาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลมอนซาที่เพิ่งได้เลื่อนชั้นเข้าเซเรีย อา ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของอิตาลีเป็นครั้งแรก นักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่า การได้กลับมาเป็น ส.ว.อีกครั้งเปรียบเสมือนการแก้แค้นส่วนตัวของนายแบร์ลุสโคนีที่ถูกวุฒิสภาขับพ้นจากสมาชิกภาพในปี 2546 เพราะถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีเลี่ยงภาษีจากการทำธุรกิจด้านสื่อ และถูกห้ามดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐเป็นเวลา 6 ปี เขารับโทษด้วยการทำงานบริการชุมชน และศาลมีคำสั่งให้เขาสามารถกลับมารับตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐบาลได้อีกครั้ง จึงลงสมัครรับเลือกสมาชิกรัฐสภายุโรป และคว้าชัยชนะในปี 2562 ขณะเดียวกันแฟนสาวรุ่นหลานของนายแบร์ลุสโคนีคือ มาร์ตา ฟาสชีนา วัย 32 ปี ก็ชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขตมาร์ซาลา บนเกาะซิซิลี แม้ว่าไม่เคยลงพื้นที่หาเสียงเลยก็ตาม เธอให้สัมภาษณ์ว่า เคยไปเที่ยวกับบิดาบ่อย ๆ เมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็ก ด้านพรรคฟอร์ซา อิตาเลีย […]
“ศักดิ์สยาม” โต้ฝ่ายค้าน อย่าเสียเวลายื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบซุกหุ้น-เลี่ยงภาษี ยันมีหลักฐานแจงชัด ระบุพรรคภูมิใจไทย โหวตไปในทิศทางเดียวกัน
ปักกิ่ง 22 ธ.ค.- ทางการท้องถิ่นจีนเตือนคนดังและนักถ่ายทอดสดออนไลน์หรือไลฟ์สตรีมเมอร์ ให้รายงานเรื่องกระทำผิดทางภาษีภายในสิ้นปี 2564 หลังจาก “ราชินีแห่งการไลฟ์สตรีม” ของจีนถูกปรับเงินไปแล้ว 1,340 ล้านหยวน (ราว 7,100 ล้านบาท) ฐานเลี่ยงภาษี เว็บไซต์สำนักงานสรรพากรในเมืองและมณฑลที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูของจีน เช่น กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง เจ้อเจียง เจียงซู โพสต์ประกาศฉบับเดียวกันในวันนี้ สั่งให้คนดังและไลฟ์สตรีมเมอร์ตรวจสอบการกระทำผิดทางภาษีของตนเองแล้วแก้ไขและแจ้งให้สรรพากรทราบก่อนสิ้นปีนี้ เพราะจะได้รับการลดหย่อน บรรเทา หรือยกเว้นโทษค่าปรับตามเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกสรรพากรดำเนินการอย่างจริงจังตามระเบียบและกฎหมาย ประกาศนี้มีขึ้นหลังจาก หวง เวย สาวจีนวัย 35 ปี ซึ่งเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์อันดับหนึ่งของประเทศที่รู้จักกันในชื่อ “เวย ย่า” ถูกสำนักงานสรรพากรในเมืองหางโจว ปรับเงินจำนวนมหาศาลเมื่อวันจันทร์ โทษฐานปกปิดรายได้ส่วนบุคคลและกระทำความผิดอื่น ๆ ระหว่างปี 2562-2563 คนดังและไลฟ์สตรีมเมอร์เป็นกลุ่มเป้าหมายล่าสุดของทางการจีนที่เริ่มจากการจัดการกับการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยี ก่อนขยายไปยังการศึกษาเอกชน แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ และอุตสาหกรรมที่รัฐบาลมองว่า เป็นอุปสรรคต่อการลดความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจ และบรรลุ “ความมั่งคั่งร่วมกัน” ซึ่งเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ต้องการลดช่องว่างทางรายได้ เพราะคุกคามการยกระดับเศรษฐกิจจีนและความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์.-สำนักข่าวไทย
กลุ่มคัดค้านการที่บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอสจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในปีหน้า จะร้องเรียนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งห้ามเขาลงสมัคร ด้วยการยกเรื่องที่เขาเคยต้องคดีเลี่ยงภาษี
จีนสั่งปรับเงิน เจิ้ง ส่วง ดาราสาวชื่อดังของจีน 299 ล้านหยวน (1.5 พันล้านบาท) จากความผิดฐานเลี่ยงภาษี ในขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับ จ้าว เหว่ย นักแสดงชื่อดังจากละครเรื่อง ‘องค์หญิงกำมะลอ’ ถูกลบออกจากเว็บไซต์วิดีโอสตรีมมิง เนื่องจากจีนกำลังเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านวัฒนธรรมคนดัง
อัยการเลื่อนฟ้องคดี น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ พนักงานห้างที่ถูกสรรพากรฟ้องเรียกเก็บภาษีย้อนหลังมูลค่า 3.2 ล้านบาท จากวันนี้ (13 ก.ค.) เป็นวันที่ 15 กรกฎาคม
กรณีสาวพนักงานขายสินค้าในห้างฯ ถูกกรมสรรพากรแจ้งความเลี่ยงภาษี 3.2 ล้านบาท เนื่องจากมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท บีอีเอ็มซี ซึ่งตอนแรกเธอเข้าใจผิดว่าเป็น 32 ล้านบาท ทั้งที่ไม่รู้จักบริษัทนี้ วันนี้ เธอและทนายความได้ขอให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือเลื่อนนัดส่งฟ้องศาล ซึ่งมีกำหนด 13 ก.ค.นี้