ตำรวจปราบจลาจลปะทะผู้ประท้วงในเปรู
กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออกจากตำแหน่ง เปิดฉากปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่ยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชน หลังกลุ่มผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปในสนามบิน
กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออกจากตำแหน่ง เปิดฉากปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่ยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชน หลังกลุ่มผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปในสนามบิน
การชุมนุมประท้วงต่อต้านผู้นำเปรูยังคงเดินหน้าต่อไป ล่าสุดมีผู้ประท้วงเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมนับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา เพิ่มเป็น 43 รายแล้ว
ลิมา 16 ม.ค.- ชาวเปรูในกรุงลิมาและหลายพื้นที่ที่ทางการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเตรียมชุมนุมประท้วงใหญ่ครั้งใหม่ในวันนี้ รัฐบาลเปรูขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงลิมา แคว้นกุสโก แคว้นปูโน และเมืองท่ากายาโอที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวง อีก 30 วันเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์ ให้อำนาจกองทัพแทรกแซงเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และระงับสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญหลายอย่าง เช่น เสรีภาพในการเคลื่อนไหวและชุมนุม นอกจากนี้ยังขยายการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 20:00-04:00 น.ในแคว้นปูโนที่เป็นศูนย์กลางการประท้วงไปอีก 10 วัน อย่างไรก็ดี ผู้ชุมนุมเตรียมตัวเคลื่อนขบวนเข้าไปในกรุงลิมาตั้งแต่วันจันทร์เพื่อดำเนิน “ปฏิบัติการยึดเมือง” สถานีวิทยุในเปรูรายงานว่า ผู้ชุมนุมประมาณ 3,000 คนได้รวมตัวกันที่เมืองอันดาฮวยลาส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเปรูเพื่อขึ้นรถโดยสารและรถบรรทุกมุ่งหน้าเข้ากรุงลิมา ส่วนที่มหาวิหารแห่งลิมาเมื่อวานนี้ ชาวเปรูประมาณ 500 คน ในจำนวนนี้มีตำรวจรวมอยู่ด้วยหลายสิบนาย ได้เข้าร่วมพิธีมิสซาให้แก่ผู้ประท้วงที่เสียชีวิตและตำรวจนายหนึ่งที่ถูกผู้ประท้วงเผาทั้งเป็น อาร์กบิชอปแห่งลิมาเรียกร้องขอสันติภาพและยุติการทวีความรุนแรง.-สำนักข่าวไทย
ลิมา 15 ม.ค.- รัฐบาลเปรูประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเย็นวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงลิมาและอีก 3 พื้นที่ เนื่องจากมีการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ประกาศที่เผยแพร่กิจจานุเบกษาระบุว่า สถานการณ์ฉุกเฉินมีผลบังคับใช้ 30 วันในกรุงลิมา แคว้นกุสโก แคว้นปูโน และเมืองท่ากายาโอที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวง ให้อำนาจกองทัพแทรกแซงเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และระงับสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญหลายอย่าง เช่น เสรีภาพในการเคลื่อนไหวและชุมนุม การปิดกั้นถนนมีมากกว่า 100 จุด ส่วนใหญ่อยู่รอบกรุงลิมา และพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศที่เป็นศูนย์กลางการประท้วง กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเปโดร คาสติญโญเดินขบวนและปิดกั้นถนนทั่วเปรูตั้งแต่เดือนธันวาคม เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่และปลดนางดินา โบลัวร์เต รองประธานาธิบดีที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ หลังจากนายคาสติญโญพยายามชิงยุบสภาและถูกลงมติถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายคาสติญโญ วัย 53 ปี ซึ่งกำลังถูกสอบสวนในคดีฉ้อโกงระหว่างดำรงตำแหน่งหลายคดี ถูกสั่งคุมขังเป็นเวลา 18 เดือนระหว่างรอพิจารณาคดีข้อหาเป็นกบฏ ส่วนนางโบลัวร์เต วัย 60 ปี ประธานาธิบดีคนที่ 6 ในรอบ 5 ปี ยืนยันทางโทรทัศน์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า จะไม่ลาออก เพราะมีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ.-สำนักข่าวไทย
ลิมา 15 ม.ค.- เปรูเปิดให้บริการท่าอากาศยานในเมืองกุสโกที่เป็นเส้นทางไปยังมาชูปิกชู สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากปิดตั้งแต่วันพฤหัสบดีเพื่อสกัดผู้ประท้วงที่เคลื่อนไหวทั่วประเทศ กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเปโดร คาสติญโญเดินขบวนและปิดกั้นถนนทั่วเปรูตั้งแต่เดือนธันวาคม เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่และปลดนางดินา โบลัวร์เต รองประธานาธิบดีที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ หลังจากนายคาสติญโญพยายามชิงยุบสภาและถูกลงมติถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ทางการได้ปิดท่าอากาศยานในเมืองกุสโกที่มีการจราจรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของประเทศเพื่อป้องกันล่วงหน้าเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงพยายามเคลื่อนขบวนไปถึง แต่ได้เปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ หลังจากที่เคยปิดนาน 5 วันเมื่อเดือนธันวาคม ครั้งนั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวมาชูปิกชู ซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตกค้างอยู่ในเมืองกุสโกเป็นจำนวนมาก การประท้วงทั่วประเทศในเปรูมีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ขณะที่การปิดกั้นถนนเพิ่มขึ้นเป็น 100 จุด ส่วนใหญ่อยู่รอบกรุงลิมาที่เป็นเมืองหลวงของประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีเปรู แถลงยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง หลังกลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับกองกำลังฝ่ายความมั่นคงจนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 42 คน พร้อมปฏิเสธข้อเรียกร้องตั้งสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญ
ทางการเปรูประกาศเคอร์ฟิวในเขตปูโน ทางภาคใต้ หลังเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 18 คน
ชาวเปรูรวมตัวกันบนถนนอีกครั้ง เพื่อขับไล่นางดินา โบลูอาร์เต ประธานาธิบดี ทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ
โลกสูญเสีย “เปเล” ราชาลูกหนังโลกที่จากไปด้วยโรคมะเร็งในปี 2022 แต่ชื่อ “เปเล” จะยังคงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเปรู เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว ทารกเกิดใหม่กว่า 700 คน ถูกตั้งชื่อว่า “เปเล”
ประธานาธิบดีเปรูแต่งตั้งนายอัลเบอร์โต โอตาโรลา อดีตรัฐมนตรีกลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ลิมา 18 ธ.ค.- นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่ตกค้างอยู่ในเปรูเนื่องจากมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ ได้ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับบ้านแล้ว ขณะที่การประท้วงคลายความรุนแรง และประธานาธิบดีคนใหม่ยืนกรานไม่ลาออก นายลูอิส เฟอร์นันโด เอลเกโร รัฐมนตรีท่องเที่ยวและพาณิชย์ของเปรูเผยกับสื่อทางการว่า นักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่จะเดินทางออกจากเปรูครบหมดทุกคนภายในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นเป็นอย่างช้าที่สุด นักท่องเที่ยวประมาณ 4,500 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือรีบเร่งเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองกุสโก เพื่อขึ้นเครื่องบินออกจากเปรู หลังจากที่ต้องตกค้างหลายวันเพราะการประท้วงทางการเมือง ผู้ตรวจการแผ่นดินด้านมนุษยธรรมของเปรูรายงานว่า มีการปิดถนน 70 จุดทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 19 คน บาดเจ็บ 569 คน นายอัลแบร์โต โอตาโรลา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า แนวโน้มการประท้วงเริ่มลดลงแล้ว แต่ทางการยังคงเฝ้าระวังอยู่ สถานการณ์ความรุนแรงยังไม่ผ่านพ้นไป และวิกฤตยังคงดำเนินอยู่ การก่อเหตุรุนแรงที่มีการจัดตั้งมุ่งสร้างความเสียหายให้แก่ท่าอากาศยาน ทางหลวง ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ขณะที่ พล.อ.มานูเอล โกเมซ เดอ ลา ตอร์เร หัวหน้าคณะเสนาธิการร่วมเผยว่า ทหารกำลังทำให้สถานการณ์ตามท้องถนน ท่าอากาศยาน และในเมืองทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังไม่เรียบร้อยทั้งหมด ด้านประธานาธิบดีดินา โบลัวร์เต แถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศยืนกรานอีกครั้งว่า จะไม่ลาออกตามกระแสประท้วงเพราะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เธอจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่ารัฐสภาจะร่นการเลือกตั้งครั้งหน้าให้เร็วขึ้น […]
“ดินา โบลูอาร์เต” ประธานาธิบดีเปรู วอนสมาชิกรัฐสภาช่วยกันผ่านร่างกฎหมายให้มีการประกาศเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็ว เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ความสงบ