เดโมแครต

วอชิงตัน 26 ก.ย.- คนทำงานภาครัฐของสหรัฐที่ใช้งบประมาณของรัฐบาลกลางกำลังนับถอยหลังว่า หน่วยงานจะต้องปิดตัวชั่วคราวหรือชัตดาวน์หรือไม่ หากรัฐสภาไม่ผ่านร่างงบประมาณภายในสิ้นเดือนกันยายน สหรัฐซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้อย่างเฉียดฉิวเมื่อ 4 เดือนก่อน และขณะนี้กำลังเสี่ยงจะต้องชัตดาวน์ครั้งใหม่ เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากยังไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายสำหรับปีงบประมาณ 2567 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ปัญหาเกิดขึ้นหลังจาก สส.รีพับลิกันไม่สนับสนุนตัวเลขงบประมาณรายจ่ายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตตกลงกับ สส.เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน ขณะที่กลุ่มแข็งกร้าวในพรรครีพับลิกันขู่จะขัดขวางการผ่านร่างงบประมาณ หากสภาผู้แทนราษฎรบรรจุร่างความช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 873,290 ล้านบาท) ไว้ในร่างงบประมาณด้วย หลังจากวุฒิสภาผ่านความเห็นชอบร่างความช่วยเหลือยูเครนไปแล้ว ทั้งนี้หากสภาผ่านร่างงบประมาณไม่ทันสิ้นเดือนนี้ หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลกลางจะต้องปิดตัวชั่วคราว เช่น อุทยานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ ข้าราชการในหน่วยงานที่ไม่จำเป็นจะต้องหยุดงานอยู่บ้านโดยไม่ได้รับค่าจ้าง รัฐบาลเตือนว่า ประชาชน 7 ล้านคนที่พึ่งพาโครงการอาหารช่วยเหลือสำหรับเด็กและสตรีจะได้รับผลกระทบด้วย ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐต้องจ่ายเงินข้าราชการมากกว่า 2 ล้านคน ทหารและลูกจ้างสัญญาจ้างอีกจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 27 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจากพรรคเดโมแครตและผู้เจรจาของพรรครีพับลิกันมีความคาดหวังในแง่ดีว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐขยายเส้นตายที่รัฐบาลจะผิดนัดชำระหนี้จาก 1 มิถุนายน 2566 เป็น 5 มิถุนายน 2566 ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับสื่อเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี ขณะที่ ส.ส.แพทริค แมคเฮนรี ที่อยู่ในคณะเจรจาของนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรเผยว่า มีความหวัง แต่ยังมีความท้าทายสำคัญรออยู่ เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีเงื่อนไขเรื่องภาษีและข้อตกลงที่ชัดเจน ทั้งคู่กล่าวเรื่องนี้หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันที่ 5 มิถุนายน จากเดิมที่เคยบอกว่าจะไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิถุนายนเป็นอย่างเร็วที่สุด คณะเจรจาของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเจรจากันมาหลายรอบเรื่องขยายเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,090 ล้านล้านบาท) ของรัฐบาลกลางออกไปเป็นเวลา 2 ปี ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อตกลงคร่าว ๆ แล้วเรื่องจะตัดลดงบประมาณรายจ่ายปี 2567 อย่างไร แต่ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องโครงการสวัสดิการสังคม รีพับลิกันต้องการให้คนวัยต่ำกว่า 56 ปีที่ไม่มีบุตรต้องแสดงหลักฐานว่ามีงานทำหรือกำลังหางานทำจึงจะได้เข้าโครงการประกันสุขภาพเมดิเคด (Medicaid) […]

วอชิงตัน 25 พ.ค.- บริษัทจัดอันดับเครดิตฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนสหรัฐว่า อันดับเครดิตที่ดีเยี่ยมของสหรัฐอาจถูกลดลง หากไม่สามารถผ่าทางตันเรื่องการขยายเพดานหนี้ให้ได้ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 มิถุนายน ฟิทช์คงอันดับเครดิตสหรัฐไว้ที่ทริปเปิ้ลเอ (AAA) เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ หมายถึงว่า มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่มีสัญญาณการปรับอันดับเครดิตเป็นลบ (rating watch negative) เพื่อสะท้อนว่าการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นกำลังขัดขวางการหาทางออกในการขยายหรืองดการใช้เพดานหนี้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน ฟิทช์ยังคงหวังว่า จะมีทางออกก่อนถึงเส้นตาย แต่ก็เชื่อว่ามีโอกาสมากขึ้นที่จะไม่มีการขยายหรืองดการใช้เพดานหนี้ก่อนถึงเส้นตาย และจะทำให้รัฐบาลสหรัฐเริ่มผิดนัดชำระหนี้ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า ควรถือว่าการเคลื่อนไหวของฟิทช์เป็นการเตือนว่า รัฐสภาควรรีบดำเนินการโดยทันทีเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจต้องเผชิญกับวิกฤตที่ถูกสร้างขึ้นมา ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสนับสนุนว่า การผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ทางเลือก และตอกย้ำให้รัฐสภาต้องเร่งผ่านข้อตกลงสองฝ่ายที่สมเหตุสมผล รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงเมื่อวันพุธก่อนที่ฟิทช์จะจัดอันดับเครดิตในคืนวันเดียวกันว่า ยังเห็นลู่ทางที่จะบรรลุข้อตกลง นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวในงานที่มีขึ้นในวันเดียวกันว่า ได้ยื่นขอเสนอเจรจาล่าสุดด้วยการเสนอให้คงงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เท่ากับปี 2566 ซึ่งจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.73 ล้านล้านบาท) ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ยื่นข้อเสนอประนีประนอมในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องคืนงบเยียวยาโควิด-19 แต่พรรครีพับลิกันยืนกรานไม่ยอมรับเรื่องที่รัฐบาลจะลดการขาดดุลงบประมาณด้วยการขึ้นภาษีชาวอเมริกันและบริษัทอเมริกันที่ร่ำรวย รีพับลิกันอ้างว่า ข้อเสนอของพรรคจะลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ […]

วอชิงตัน 20 พ.ค.- สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกเพิ่มขึ้นอีก เมื่อคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันพักการเจรจาขยายเพดานหนี้เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันกล่าวว่า จำเป็นต้องพักการเจรจา เพราะไม่สามารถให้งบประมาณปีหน้ามีรายจ่ายเพิ่มเติมได้ ทั้งที่เขาเพิ่งแสดงความเห็นในแง่ดีเมื่อวันก่อนว่า จะสามารถนำร่างขยายเพดานหนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ภายในสัปดาห์หน้า แต่ต้องมีข้อตกลงในหลักการให้ได้ภายในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ เว็บไซต์ข่าวการเมืองพันช์โบลว์นิวส์ (Punchbowl News) รายงานว่า แกนนำในคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันออกจากห้องเจรจาอย่างกะทันหันพร้อมกันกับ ส.ส.แมคคาร์ธี และไม่กลับเข้าไปอีก มีรายงานว่า ประเด็นหลักที่คณะเจรจาของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตตกลงกันไม่ได้คือ การลดงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เหลือเท่ากับปี 2565 ตามความต้องการของกลุ่มฟรีดอม คอคัส (Freedom Caucus) ที่มีสมาชิกราว 1 ใน 5 ของพรรครีพับลิกัน พรรครีพับลิกันตั้งเงื่อนไขว่า จะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้ ต่อเมื่อรัฐบาลลดงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานรัฐบาลกลางและโครงการต่าง ๆ ทั้งหมดลง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.46 ล้านล้านบาท) เร่งเดินหน้าโครงการผลิตพลังงานในประเทศ ลดขั้นตอนการขออนุญาตวางท่อขนส่งน้ำมันและตั้งโรงกลั่นน้ำมัน และเรียกคืนงบเยียวยาโควิด-19 ที่ไม่ได้ใช้.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 12 พ.ค.- การเจรจารอบใหม่ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกับสมาชิกสภาระดับสูงเรื่องขยายเพดานหนี้เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ถูกเลื่อนจากกำหนดในวันนี้ไปเป็นสัปดาห์หน้า โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าเตรียมงานการเจรจาต่อไป และผู้เข้าร่วมการเจรจาหลักทุกคนเห็นพ้องว่าจะพบกันในต้นสัปดาห์หน้า ขณะที่นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันเผยกับสื่อที่รัฐสภาว่า การเลื่อนเจรจาไม่ใช่สัญญาณว่าการเจรจามีปัญหา เขาคิดว่าเจ้าหน้าที่เตรียมงานต้องการหารือเพิ่มเติมต่อจากที่ได้หารือกันเมื่อวันพุธและพฤหัสบดี ก่อนที่ผู้เข้าร่วมการเจรจาหลักจะพบกันรอบใหม่ ผู้เข้าร่วมการเจรจาหลักประกอบด้วยประธานาธิบดีไบเดน นายแมคคาร์ธี นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาพรรคเดโมแครต นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน และนายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต แหล่งข่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยอมรับว่า รัฐบาลอาจต้องยอมรับการลดค่าใช้จ่ายบางอย่าง หรือจำกัดการใช้จ่ายในอนาคตอย่างเคร่งครัด หากต้องการบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ แต่จะยืนยันปกป้องกฎหมายสภาพภูมิอากาศที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาไปเมื่อปี 2565 กระทรวงคลังสหรัฐเตือนก่อนหน้านี้ว่า หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ รัฐบาลจะไม่มีเงินในวันที่ 1 มิถุนายนเป็นอย่างเร็วที่สุด พรรครีพับลิกันต้องการลดงบประมาณรายจ่ายรัฐบาลปี 2567 ลงเหลือเท่ากับปี 2565 จำกัดการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายให้ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ และยกเลิกมาตรการจูงใจให้แก่อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ระบุไว้ในกฎหมายสภาพภูมิอากาศของไบเดน รีพับลิกันต้องการลดงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานต่าง ๆ ลงร้อยละ 8 แต่เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมและทหารผ่านศึก ขณะที่รัฐบาลพรรคเดโมแครตต้องการขึ้นภาษีเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ และเสนอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายร้อยละ 5.-สำนักข่าวไทย

โรเบิร์ต เคเนดี จูเนียร์ หลานชายของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี ผู้นำสหรัฐคนที่ 35 ซึ่งถูกมือปืนลอบสังหาร ประกาศตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ว่า เขาจะลงสนามเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

วอชิงตัน 20 มี.ค.- สมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกันพากันแสดงความเห็นตอบรับตามที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อ้างว่าจะถูกจับกุมว่า เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ขณะที่พรรคเดโมแครตเตือนว่า อาจเกิดเหตุจลาจลหลังจากทรัมป์ชวนคนออกมาประท้วง ทรัมป์เผยเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า เขาคาดว่าจะถูกจับกุมในวันอังคารนี้ตามที่คณะลูกขุนไต่สวนกรณีที่เขาจ่ายเงินให้สตอร์มี แดเนียลส์ หรือชื่อจริงสเตฟานี คลิฟฟอร์ด นักแสดงหนังผู้ใหญ่ในปี 2549 เป็นค่าปิดปากเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวกันในอดีต จากนั้นในวันอาทิตย์ทรัมป์ได้ใช้ทรูธโซเชียล (Truth Social) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเองประณามการเคลื่อนไหวเพื่อจับกุมเขาว่า เป็นการล่าแม่มด ประณามอัยการแขวงแมนฮัตตันว่า ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ฟ้องร้องและดำเนินคดีอดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาที่ไม่ได้กระทำความผิด พร้อมกับชักชวนคนให้ออกมาประท้วงและยึดประเทศกลับคืน สมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกันหลายคนได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ นายไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสมัยทรัมป์เผยว่า แปลกใจอย่างมากที่มีการฟ้องร้องอดีตประธานาธิบดีในขณะที่นครนิวยอร์กกำลังเต็มไปด้วยการก่ออาชญากรรม ทำให้รู้สึกว่าเป็นการดำเนินคดีด้วยข้อหาทางการเมือง ส.ว.ลินซีย์ เกรแฮม ผู้สนับสนุนทรัมป์ตัวยงระบุว่า เป็นความพยายามอย่างไม่มีวันจบสิ้นที่จะทำลายทรัมป์และทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขา แม้แต่นายคริส ซานูนู ผู้ว่าการรัฐนิวแฮมป์เชอร์ที่มักวิจารณ์ทรัมป์ยังเตือนว่า ความพยายามนี้อาจส่งผลสะท้อนกลับด้วยการทำให้ทรัมป์ได้คะแนนเห็นใจในช่วงที่กำลังจะมีการเสนอชื่อผู้เป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 ด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตกังวลว่า การชักชวนของทรัมป์อาจปลุกความรุนแรงขึ้นอีก หลังจากที่เขาเคยใช้ถ้อยคำเผ็ดร้อนกระตุ้นผู้สนับสนุนให้ก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 มกราคม 2564 เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของโจ ไบเดน.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 16 ก.พ.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเตรียมตัวรับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างละเอียดในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ และจะมีความหมายอย่างยิ่งสำหรับผู้นำวัย 80 ปีที่คาดว่าจะประกาศตัวลงเลือกตั้งอีกสมัยในปี 2567 ทำเนียบขาวรับปากว่า แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีจะเปิดเผยรายงานผลการตรวจสุขภาพ ดังที่เคยทำมาเมื่อครั้งที่ไบเดนตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ครั้งนั้นเขาต้องดมยาสลบเพื่อตรวจอย่างละเอียด และมอบอำนาจให้แก่รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ผลการตรวจสุขภาพครั้งนี้จะเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพรรคเดโมแครตยังไม่มีใครประกาศเสนอตัวในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2567 ขณะที่พรรครีพับลิกันเริ่มมีคนประกาศตัวแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์พีบีเอส (PBS) เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ว่า ตั้งใจจะลงเลือกตั้งอีกสมัย แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างจริงจัง นพ.เควิน โอคอนเนอร์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีสหรัฐเผยผลการตรวจสุขภาพไบเดนเมื่อปี 2564 ว่า มีความแข็งแรงเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ประธานาธิบดี แต่ก็มีสัญญาณของความชราเล็กน้อย ส่วนเรื่องเดินไม่คล่องเป็นผลจากอาการทางระบบประสาทเล็กน้อย และเรื่องไอบ่อยเป็นผลจากอาการกรดไหลย้อน ไบเดนไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา เล่นกีฬา และไม่มีปัญหาสุขภาพน่าเป็นห่วงนับตั้งแต่รับการผ่าตัดสมองในปี 2541 เขาเคยติดโรคโควิด-19 ในเดือนกรกฎาคม 2565 แต่ไม่มีอาการรุนแรง นางนิกกี้ เฮลีย์ […]

วอชิงตัน 3 ก.พ.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะเยือนจีนในสัปดาห์หน้า ในขณะที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีตกต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จากการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในขณะนั้นไปเยือนไต้หวันเมื่อปีก่อน นายบลิงเคนจะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนแรกที่ไปเยือนจีน นับจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไปเยือนในเดือนตุลาคม 2561 เขาจะเดินทางไประหว่างวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์พร้อมกับนางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ มีกำหนดพบกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน และอาจได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน คาดว่านายบลิงเคนจะหยิบยกประเด็นที่เป็นความกังวลของสหรัฐขึ้นหารือ เช่น ความเป็นหุ้นส่วนไร้ขีดจำกัดที่จีนและรัสเซียประกาศร่วมกันก่อนรัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน การปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวในจีนอย่างไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลสหรัฐไม่คิดว่าการเยือนครั้งนี้จะได้ผลสำคัญในประเด็นข้างต้น รวมถึงประเด็นไต้หวัน การค้า และสิทธิมนุษชน เนื่องจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะรัฐสภาสหรัฐหันมาดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อจีนมากขึ้น นับตั้งแต่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากหลังจากชนะเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อปลายปีก่อน ขณะที่จีนต้องการให้สหรัฐอ่อนข้อในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ให้จีน แลกกับการที่จีนจะเพิ่มความร่วมมือในการสกัดการลอบส่งออกเฟนทานิลที่เป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรงจากจีนไปสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย