อาเซียน

วิกฤตการณ์ทางการเมืองในเมียนมาน่าจะบดบังประเด็นอื่น ๆ ที่อยู่ในวาระการประชุมสุดยอดของผู้นำอาเซียนที่อินโดนีเซียในสัปดาห์นี้ ในขณะที่สมาชิกอาเซียนออกมาเรียกร้องใหม่ให้ยุติการใช้ความรุนแรงในเมียนมา

รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า อินโดนีเซียกำลังใช้ ‘นโยบายการทูตเงียบ’ (Quiet Diplomacy) ในการพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเมียนมาและกระตุ้นให้เกิดความพยายามในการสร้างสันติภาพครั้งใหม่ในเมียนมา ที่ถูกรุมเร้าด้วยเหตุรุนแรง

สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ตำหนิเมียนมาอย่างรุนแรง จากกรณีที่กองทัพเมียนมาใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับกลุ่มต่อต้านที่มีรายงานว่า ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบคน

อาเซียนวอนรัฐบาลทหารเมียนมาผลักดันแผนสันติภาพที่เห็นพ้องต้องกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว

จาการ์ตา 4 ก.พ.- รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาปฏิบัติตามแผนสันติภาพฉันทามติ 5 ประการ เพื่อสร้างหนทางยุติวิกฤตการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่กองทัพรัฐประหารเมื่อ 2 ปีก่อน รัฐมนตรีต่างประเทศสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียในวันนี้ โดยไม่ได้เชิญรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาเข้าร่วม นางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียในฐานะประเทศประธานอาเซียนประจำปี 2566 แถลงกับสื่อว่า อินโดนีเซียได้เสนอแผนปฏิบัติการสำหรับฉันทามติที่อาเซียนบรรลุกับเมียนมาเมื่อเดือนเมษายน 2564 เรื่องยุติความรุนแรงและเปิดการเจรจาระหว่างกองทัพกับฝ่ายต่อต้าน แผนนี้ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกในที่ประชุมทุกประเทศอย่างกว้างขวาง เป็นแผนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำคัญสำหรับอาเซียน โดยเฉพาะประธานอาเซียน เพราะเป็นแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ในเมียนมาอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวอันแข็งแกร่งของอาเซียนที่จะปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ประการ อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะดำเนินการตามแผนเมื่อใดและอย่างไร ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียประกาศว่า จะตั้งสำนักงานผู้แทนพิเศษขึ้นภายในกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเปิดการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่กับเมียนมา.-สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 3 ก.พ.- อินโดนีเซียบอกประเทศมหาอำนาจอย่าใช้อาเซียนเป็นตัวแทนในการจัดการกับคู่แข่ง และเรียกร้องให้มีความเป็นหนึ่งเดียวและมีความคืบหน้าในการแก้ไขวิกฤตเมียนมา อินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนปี 2566 ของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน เปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในภูมิภาคเป็นเวลา 2 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ และจะเป็นประธานประชุมสุดยอดอาเซียนในปลายปี นางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเผยว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียได้กล่าวกับรัฐมนตรีที่มาประชุมว่า อาเซียนไม่ควรเป็นตัวแทนให้แก่ฝ่ายใด ตอกย้ำสิ่งที่เขาเคยพูดในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชาเมื่อปลายปีก่อน และได้ย้ำว่า ฉันทามติ 5 ประการที่ผู้นำอาเซียนเห็นชอบควรเป็นข้อตกลงหลักที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในเมียนมา ผู้นำอินโดนีเซียเรียกร้องดังกล่าวเนื่องจากสมาชิกอาเซียนบางประเทศจากทั้งหมด 10 ประเทศมีข้อพิพาทกับจีนเรื่องการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ จึงเห็นด้วยกับสหรัฐที่คัดค้านการแผ่อิทธิพลของจีน ขณะที่สมาชิกบางประเทศแสดงท่าสนับสนุนจีน ส่วนเมียนมาที่เกิดวิกฤตตั้งแต่กองทัพรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 อาเซียนไม่เชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเพราะไม่มีความคืบหน้าเรื่องการปฏิบัติตามฉันทามติเดือนเมษายน 2564 เพื่อยุติการหยุดยิงโดยทันทีและเปิดการเจรจากับกลุ่มต่อต้าน และไม่เชิญนายตัน ฉ่วย รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาคนใหม่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในวันนี้ อาเซียนขอให้ส่งผู้ที่ไม่ใช่ตัวแทนทางการเมือง แต่ถูกรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธ.-สำนักข่าวไทย