“อาคม” ชี้ยอดหนี้สูงเพราะต้องใช้เงินสู้วิกฤติโควิด
“อาคม” ชี้ยอดหนี้สูง เพราะต้องใช้เงินสู้วิกฤติโควิด ยืนยันรัฐบาลหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้สาธารณะมาโดยตลอด
“อาคม” ชี้ยอดหนี้สูง เพราะต้องใช้เงินสู้วิกฤติโควิด ยืนยันรัฐบาลหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้สาธารณะมาโดยตลอด
รมว.คลัง เผยโครงการคนละครึ่งเฟส 4 เริ่มลงทะเบียน 14 ก.พ.65 เริ่มใช้เงิน 21 ก.พ.65 ส่วนเรื่องกรอบวงเงินยังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยคนที่เคยได้รับสิทธิ แค่กดเข้าไปยืนยันรับสิทธิในแอปฯ เป๋าตัง ส่วนคนยังไม่เคยได้รับสิทธิต้องลงทะเบียนใหม่
คลัง แจงมาตรการรับมือ “โอไมครอน” ของบุคลากร พร้อมบริการประชาชน
กมธ.งบฯ 65 เลือก“อาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์” นั่งประธาน รวมกมธ.72 คน ประชุมจันทร์-ศุกร์ ขณะก้าวไกลปฏิเสธทุกตำแหน่ง
กรุงเทพฯ 24 มี.ค. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฝากการบ้าน ก.ล.ต. เร่งพัฒนาตลาดทุนสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ หวังประชาชนเข้าถึงตลาดทุนอย่างเท่าเทียม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษการพัฒนาตลาดทุนดิจิทัล ว่า ตลาดทุนไทยต้องยกระดับเป็นตลาดทุนดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งการออกหลักทรัพย์ การซื้อขายหลักทรัพย์ การนำเอกสารทั้งหมดเข้าอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งถ้าสามารถดำเนินการได้จะส่งผลให้ตลาดทุนไทยขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลกในด้านดิจิทัล รองจากสิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยในการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียนในวันที่ 30 มีนาคมนี้ จะมีการหารือเรื่องนี้ พร้อมเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมก่อนการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือ “เอเปค” ของไทยในปี 2565 (APEC 2022) ด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝากการบ้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) 5 ข้อ ประกอบด้วย 1. การใช้กลไกเครือข่ายตลาดทุน อำนวยความสะดวกช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้สามารถดำเนินการต่อได้ 2.สร้างระบบการเข้าถึงระบบการเงินและตลาดทุนที่เท่าเทียมกันของประชาชน และธุรกิจ SML 3. ยกระดับความเชื่อมั่น เร่งปรับปรุงกฎหมายต่างๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุน 4. การพัฒนาการเงินที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนการจัดสรรเงินทุนไปสู่กิจกรรมที่คำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และ มีธรรมาภิบาล […]
“อาคม” รมว.คลัง แจงมาตรการด้านการเงิน เพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
รัฐมนตรีคลังประชุมผู้บริหาร เตรียมเปิดประเทศรองรับการลงทุน และท่องเที่ยว ดูแลแรงงาน เร่งเดินเครื่องฟื้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อผ่าน ใช้จ่ายคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน เติมเงินบัตรสวัสดิการ สั่ง สศค. มอบของขวัญปีใหม่ท้ายปี
“อาคม” เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน และเตรียมเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลัง ก่อนประเดิมประชุม ครม.พรุ่งนี้
ทำเนียบฯ 6 ต.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ต.ค.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนใหม่ ยังไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง วานนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากยังไม่ได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อย จะมีการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการแบ่งงาน และการทำงานร่วมกัน ยืนยันว่าการทำงานร่วมกับนายอาคมจะเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะร่วมงานกันสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมาก่อน และย้ำว่า การที่นายปรีดี ดาวฉาย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลาออก ก็ไม่เกี่ยวกับตน พร้อมปฏิเสธว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีเรื่องเกมการเมืองภายในพรรคตามที่มีการตั้งข้อสังเกต ส่วนความคาดหวังของประชาขน นักธุรกิจ การลงทุน นายสันติ กล่าวว่า ให้รอดู แต่ในอนาคตจะเห็นการทำงานที่มากขึ้นแน่นอน .-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 5 ต.ค.- พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2562 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2563 และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2563 นั้น บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลาออกจากตำแหน่ง สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทนตาแหน่งที่ว่าง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อาศัยอานาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2563 เป็นปีที่ 5 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี […]
“อาคม”เหมาะสม
ศปถ.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันแรก เกิดอุบัติเหตุ 477ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 41 ราย เมาสุราเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ