คลังแจงมาตรการรับมือ “โอไมครอน” ของบุคลากร

กรุงเทพฯ 25 ธ.ค.-คลัง แจงมาตรการรับมือ “โอไมครอน” ของบุคลากร พร้อมบริการประชาชน


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดระลอกต่างๆ ได้ดี มีทีมงานสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และท่านนายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา

ในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่ผ่านมาตนและผู้บริหารระดับสูงได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับ ปฏิบัติตนตามข้อแนะนำของทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม การสลับกันมาปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติงานนอกสถานที่ (WFH – Work from Home) การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อการบริการประชาชนบนพื้นฐานของการทำงานแบบ New Normal การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด 19 เป็นประจำทุกสัปดาห์ การรณรงค์ให้บุคลากรเข้ารับวัคซีน การจัดหาชุดตรวจ ATK เพื่อคัดกรองบุคลากรที่มีความเสี่ยง และ การให้ความรู้บุคลากรในการดูแลตัวเอง ทั้งการปฏิบัติงานและการดูแลเรื่องส่วนตัว ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาด นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำรายงานสถานการณ์ผู้มีความเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นประจำทุกวัน เพื่อใช้ในการติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของบุคลากรกระทรวงการคลัง


สำหรับปัจจุบัน เมื่อมีสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอไมครอน” เข้ามาในประเทศ กระทรวงการคลังก็ได้ยกระดับการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน D-M-H-T-T ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำล่าสุด

“ผมอยากให้ประชาชนทุกท่านเชื่อมั่นในการให้บริการของกระทรวงการคลัง โรคระบาดแม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันได้ เราให้ความสำคัญกับการดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามาโดยตลอด พร้อมๆ กับการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามข้อกำหนดทางด้านสาธารณสุข ทั้งในขณะปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิตนอกเวลางาน รวมถึงการเตรียมเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้พร้อมในการให้บริการ เตรียมแผนบริหารความเสี่ยงที่จำเป็น เตรียมการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ที่ต้องให้บริการประชาชนในส่วนหน้า ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานต่างๆ เพื่อการให้บริการประชาชนของเราจะยังคงมีประสิทธิภาพ และแม้จะมีการระบาดของโรคมากน้อยเพียงใด แต่ประชาชนจะต้องได้รับบริการที่รวดเร็วและมีมาตรฐานจากกระทรวงการคลังเช่นเดิม”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย