ประชาชนในตัวเมืองบ้านกรวด อพยพแล้วเกือบ 100%

บุรีรัมย์ 25 ก.ค. – โรงพยาบาล สถานที่ราชการ ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าในตัวเมืองบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ปิดให้บริการ ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่เกือบ 100% หลังมีกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชาตกในพื้นที่กว่า 70 ลูก เจ็บ 2 ราย และยังมีเสียงปืนดังต่อเนื่อง บรรยากาศที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอำเภอติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารไทย และทหารกัมพูชา พบว่าทั้งโรงพยาบาล สถานที่ราชการ ธนาคาร สถานีบริการน้ำมัน สถานประกอบการ ร้านค้าในตัวอำเภอบ้านกรวด ซึ่งมีระยะห่างจากแนวชายแดนเพียงประมาณ 10 กิโลเมตร ปิดให้บริการชั่วคราว และอพยพออกจากพื้นที่แล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ป่วยในโรงพยาบาลบ้านกรวด ทยอยอพยพออกไปอยู่ตามโรงพยาบาลในอำเภอใกล้เคียงตั้งแต่เมื่อวานนี้ และมีคำสั่งให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรเจ้าหน้าที่ทุกคนภายในโรงพยาบาลออกจากพื้นที่ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากตลอดทั้งวันมีกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชนตามแนวชายแดน รวมถึงในตัวอำเภอบ้านกรวดมากถึง 74 ลูก ขณะที่ตลอดคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนดังมาจากชายแดนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด บางส่วนดังมาจากชายแดนฝั่งปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน […]

ประชาชนต้องอพยพกว่า 100,000 คนไปยังศูนย์พักพิง 295 แห่ง

กทม. 25 ก.ค.-ปลัด มท. เผยมีประชาชนต้องอพยพจากเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา มากกว่า 100,000 คนไปยังศูนย์พักพิง 295 แห่ง กำชับผู้ว่าฯ นายอำเภอ บูรณาการทุกภาคส่วนดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ถูกสุขลักษณะ พร้อมสร้างขวัญกำลังใจประชาชนควบคู่การบำรุงขวัญกำลังพลตามแนวพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากการลักลอบยิงอาวุธของกัมพูชาเข้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทยจนส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่พักอาศัยพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบ ทั้งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงต้องอพยพย้ายที่พักชั่วคราว โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วน นำยานพาหนะของทุกหน่วยงานเร่งอพยพประชาชนเข้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยห่างจากแนวการปะทะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งให้ดูแลด้านการใช้ชีวิตครอบคลุมปัจจัยความจำเป็นพื้นฐาน ทั้งด้านอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ห้องน้ำ และที่พัก ให้ถูกสุขลักษณะ โดยเน้นย้ำเรื่อง “ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” “สำหรับจำนวนประชาชนผู้ที่ได้ทำการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัดข้างต้น ณ วันที่ 24 ก.ค. […]

คืนแรกอพยพชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลฯ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลราชธานี อพยพออกจากบ้านเรือนใกล้แนวปะทะ มายังพื้นที่ปลอดภัยในศูนย์อพยพ อ.เดชอุดม ที่ทางจังหวัดจัดให้ ขณะที่เสียงปืนใหญ่สงบลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วงบ่ายทีมข่าวเดินทางไปยังพื้นที่ อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นจุดแนวปะทะ ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย 3 หลัง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านกุดเชียงมุน 2 หลัง บ้านโพนทอง 1 หลัง โดยมีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิด 1 คน และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 3 คน หลังจากเกิดเหตุในช่วงเช้า ทาง อ.น้ำยืน ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที บรรยากาศในศูนย์อพยพของ อ.เดชอุดม เป็นพื้นที่อพยพ ปลอดภัย ทางจังหวัดทำแผนไว้นานกว่า 2 เดือน จึงบริหารจัดได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ เป็นความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งการทำข้อมูลผู้เข้าพัก แจกอาหารและสิ่งของที่จำเป็น ถือว่าเป็นการบริหารจัดการที่รวดเร็ว โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจาก อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นแนวปะทะ ขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัย ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ช่วงเช้าตื่นนอนมาได้ยินเสียงปืนจึงรีบออกจากบ้าน คว้าเสื้อผ้าและสิ่งของที่จำเป็นออกเดินทางมายังศูนย์อพยพโดยรถส่วนตัว และเดินทางมาพร้อมญาติอีกทั้งยังอยากให้เหตุการณ์นี้จบลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเสียงปืนใหญ่เงียบสงบลงแล้ว […]

อพยพผู้ป่วยติดเตียง 50 คน ไปยังที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ผู้ป่วยติดเตียงกว่า 50 คน เดินทางจาก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มาถึงจุดปลอดภัยบริเวณโรงพยาบาลสนาม อ.เดชอุดม เรียบร้อยแล้ว โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งให้ดำเนินการจัดทำโรงพยาบาลสนามฉุกเฉินตามคำสั่งของนายอำเภอ ซึ่งเป็นแผนอพยพผู้ที่อยู่ติดแนวชายแดนให้เคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งโรงเรียนบ้านแขมเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ถูกจัดให้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยติดเตียง โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีนักเรียนจิตอาสาช่วยดูแลเบื้องต้น โดยมีเตียงสนามจำนวน 50 เตียง และคาดว่าต้องเพิ่มปริมาณขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ผู้ป่วยติดเตียงกำลังเดินทางมาเพิ่มอีก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงมีญาติคอยประกบอยู่ไม่ห่าง.-สำนักข่าวไทย

มท.ยันพร้อมอพยพประชาชนแนวชายแดน

กทม. 24 ก.ค.- มหาดไทย ยันมีความพร้อมอพยพประชาชนตามแนวชายแดน ย้ำ เหตุชาวบ้านเสียชีวิตไม่ใช่ความล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขนคนออกจากพื้นที่เสี่ยง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อสั่งการภายหลังจากที่มีการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ที่เป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันว่าให้อพยพผู้คนทันที เช่น อำเภอพนมดงรัก ที่อยู่ติดกับชายแดนมายังพื้นที่อำเภอปราสาทที่อยู่ไกลจากชายแดนเข้ามาหน่อย ส่วนคนที่ยังอยู่ในพื้นที่ได้ให้อยู่ในหลุมหลบภัย ตามที่นายอำเภอได้มีการเตรียมการไว้ ซึ่งในการอพยพมีทั้งหน่วยแพทย์ พยาบาล ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงการตั้งโรงครัว เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตนจึงได้มีการกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดูแลพื้นที่ส่วนหลัง รวมถึงพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดน และให้อพยพเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ตามที่ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการตั้งแต่เช้าว่าตอนนี้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดแล้ว นอกจากนี้ นายอรรษิษฐ์ ยังกล่าวต่อว่าเหตุการณ์ที่มีประชาชนเสียชีวิต ไม่ได้เกิดจากการล่าช้าในการอพยพ หรือ ประชาชนไม่ยอมออกจากพื้นที่ แต่อยู่ในขณะกำลังเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ส่วนอีก 3 จังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดน ประกอบด้วย […]

อ.น้ำยืน อพยพชาวบ้าน ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดการปะทะตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้อพยพออกจากบ้าน เตรียมเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 10.00 น. ทีมข่าวเดินทางติดตามชาวบ้านในอำเภอน้ำยืน อพยพออกจากบ้านมายังจุดรวมพล ที่โรงเรียนน้ำยืนวิทยา ตามแผนฉุกเฉินที่เคยซักซ้อมไว้ โดยจุดรวมพลแห่งนี้เป็นส่วนกลางรับผิดชอบของเทศบาลตำบลน้ำยืนให้ข้อมูลว่ามีประชาชนที่พร้อมอพยพประมาณ 4500 คนโดยจะแยกเป็นหมู่บ้านซึ่งจุดรวมแห่งนี้มีทั้งหมด 10 หมู่บ้าน รวมไปถึงหมู่บ้านข้างเคียงอย่างตำบลสีวิเชียร จากนั้นจะมีรถจากทางอำเภอในหน่วยงานที่รับผิดชอบมาขึ้นรถอพยพไปยังอำเภอเดชอุดมยังที่ปลอดภัยเนื่องจากพ้นระยะแนวการยิงของปืนใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันอพยพกันมาด้วยความด้วยความโกลาหล ได้รับแจ้งข่าวจากผู้นำชุมชนเมื่อเวลา 09.00 น. ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายโทรศัพท์แจ้งทางออนไลน์ทุกช่องทางจนทุกคนได้บอกต่อกันและมารวมพลกันตามแผนซ้อมอพยพเบื้องต้น ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ได้ยินชาวบ้านแจ้งกันผ่านเสียงตามสายโทรศัพท์ให้พากันอพยพโดยด่วน ซึ่งชาวบ้านบอกว่ารู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ตนเองเอาเฉพาะของที่จำเป็นแล้ววิ่งออกมาโดยไม่คิดชีวิต และยังอยากฝากให้ทั้งสองประเทศเจรจาสงบศึกให้เร็ว เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งการทำมาหากินทางเศรษฐกิจที่แย่และเป็นหนี้เป็นสิน อีกทั้งยังต้องมาวิ่งเอาชีวิตรอดหลบกระสุนปืน รู้สึกเครียดมากกับเหตุการณ์ในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาโจมตีร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันกันทรลักษ์ สั่งอพยพ 7 ตำบล

24 ก.ค. – อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สั่งอพยพประชาชน 7 ตำบล เข้าพื้นที่ปลอดภัยด่วน ขณะที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันถูกโจมตี มีรายงานพบผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หลังมีเสียงดังที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเสียงปืนหรือระเบิด ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ตอนนี้ ทางอำเภอกันทรลักษ์ สั่งการด่วนที่สุด ให้พื้นที่ 7 ตำบลคือ ต.ภูผาหมอก, ต.เสาธงชัย, ต.รุง, ต.ละลาย, ต.โนนสำราญ, ต.บึงมะลู ต.ชำ และ 80 หมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยให้ดำเนินการอพยพประชาชน และโรงเรียนต่างๆ ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเร่งด่วน ขณะที่เหตุโจมตีร้านสะดวกซื้อ ในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่าเป็นเหตุกระสุน bm21 จากฝ่ายกัมพูชาตกใส่ปั๊ม .-สำนักข่าวไทย

พายุไต้ฝุ่นวิภาเข้าใกล้เวียดนาม

ฮานอย 22 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทางตอนเหนือของเวียดนามได้เร่งให้ประชาชนตามแนวชายฝั่งอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นวิภา ซึ่งเป็นพายุลูกที่หกของปีนี้ กำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดนิงห์บิงห์ในวันอังคาร ตามการคาดการณ์ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนาม ขณะนี้ หลายจังหวัดของเวียดนาม เช่น นิงห์บิงห์ กว๋างนิงห์ และฮึงเอียน ได้ดำเนินมาตรการป้องกันพายุไต้ฝุ่นวิภาแล้ว โดยการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงสูง และระงับการเดินเรือ ผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งกล่าวว่่า ตามคำสั่งของทางการท้องถิ่น ทางโรงแรมได้ระงับบริการลูกค้าตั้งแต่เวลาเมื่อวานนี้จนกว่าพายุจะผ่านไป ส่วนนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากกรุงฮานอยของเวียดนามกล่าวว่า เนื่องจากไม่รู้ว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะมีความรุนแรงแค่ไหน นักท่องเที่ยวทุกคนจึงอยากกลับบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงและปกป้องทรัพย์สินของตนเอง.-813.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นเตรียมรับมือแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นแต่ปัดข่าวลือวันสิ้นโลก

โตเกียว 5 ก.ค. – รัฐบาลญี่ปุ่นออกคำเตือนในวันนี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นอีกในทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะหลัก แต่ก็เรียกร้องให้ประชาชนไม่หลงเชื่อคำทำนายที่ไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ เมื่อวันศุกร์ ทางการได้อพยพประชาชนบางส่วนออกจากเกาะห่างไกลใกล้กับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ซึ่งเกิดขึ้นนอกปลายสุดของเกาะคิวชู ซึ่งเป็นเกาะหลักที่อยู่ทางใต้สุด แผ่นดินไหวดังกล่าวที่เกิดชึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รุนแรงพอที่จะทำให้ยืนทรงตัวได้ยาก เป็นหนึ่งในเหตุการณ์แผ่นดินไหวมากกว่า 1,000 ครั้งในหมู่เกาะจังหวัดคาโกชิมะในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ช่วยโหมกระพือข่าวลือที่มาจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ ซึ่งทำนายว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม นายอายาทากะ เอบิตะ ผู้อำนวยการฝ่ายเฝ้าระวังแผ่นดินไหวและสึนามิของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น กล่าวหลังจากเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 5.4 ในพื้นที่เดียวกันเมื่อวันเสาร์ว่า ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์เวลา สถานที่ หรือขนาดที่แน่นอนของแผ่นดินไหว นายเอบิตะกล่าวในการแถลงข่าวด้วยว่า เขาอยากขอให้ประชาชนพิจารณาความเข้าใจของตนเองจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มังงะเรื่องนี้ ซึ่งบางคนตีความว่าเป็นการทำนายเหตุการณ์หายนะที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวบางรายหลีกเลี่ยงการเดินทางมาญี่ปุ่น โดยจากข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง ซึ่งเป็นแหล่งที่ข่าวลือแพร่สะพัดอย่างกว้างขวาง ลดลง 11ร้อยละ ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้มาเยือนมากเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยเดือนเมษายนสร้างสถิติสูงสุดรายเดือนที่ 3.9 ล้านคน เรียว ทัตสึกิ ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังมังงะเรื่อง “เดอะ ฟิวเจอร์ ไอ ซอว์” (The Future […]

ชาวญี่ปุ่นอพยพหนีแผ่นดินไหว

โตเกียว 4 ก.ค. – ชาวญี่ปุ่นบนเกาะเล็กๆ ทางภาคใต้เริ่มอพยพไปยังแผ่นดินใหญ่เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง หลังในช่วงหลายวันมานี้ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนนับพันครั้ง เช้าวันนี้ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่บนเกาะอาคุเซกิ ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งของหมู่เกาะโทชิมะทางตอนใต้ได้อพยพลงเรือเพื่อเดินทางมุ่งหน้าไปยังท่าเรือในเมืองคาโกชิมะและจะพักอาศัยเป็นการชั่วคราวอยู่ในเมืองดังกล่าว เนื่องจากกังวลว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงตามมา หลังจากเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนเป็นต้นมาพบว่าในบริเวณหมู่เกาะโทชิมะเกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกินกว่าระดับ 1 ตามมาตราของญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 1,000 ครั้ง ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ขึ้นนอกจากชายฝั่งหมู่เกาะโทคาระ ซึ่งตามมาตราวัดแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นกำหนดความระดับความรุนแรงเอาไว้ตั้งแต่ระดับ 0 จนถึง 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่าเรือขนส่งผู้อพยพมีกำหนดเดินทางถึงท่าเรือคาโกชิมะในเวลา 18 นาฬิกาเศษเย็นวันนี้ และคาดว่าการอพยพชาวบ้านจะกินเวลาราว 1 สัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนบนเกาะอื่นๆ อพยพออกไปด้วยเช่นกัน เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ทางการท้องถิ่นบนเกาะอาคุเซกิ ก็เคยอพยพชาวบ้านในลักษณะเดียวกันมาแล้ว หลังเกิดแผ่นดินไหวระดับ 5 บริเวณเกาะดังกล่าว การอพยพชาวบ้านและการเกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่เกิดกระแสข่าวลือจากการ์ตูนมังงะเรื่อง “เดอะ ฟิวเจอร์ ไอ ซอว์” (The Future I Saw) ของ “เรียว ทัตสึกิ” ที่ทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเกิดสึนามิรุนแรงในวันที่ 5 กรกฎาคมปีนี้ […]

damaged building in north Gaza from Israeli attack 27 June 2025

เผยอิสราเอลเล็งอพยพคนในกาซาครั้งใหญ่ที่สุด

เยรูซาเล็ม 29 มิ.ย.- สื่ออิสราเอลอ้างแหล่งข่าวทางทหารว่า อิสราเอลกำลังพิจารณาเรื่องสั่งอพยพคนในกาซาครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เริ่มทำสงครามในกาซาเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน เพื่อใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินกินพื้นที่กว้างขวาง เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์รายงานว่า แหล่งข่าวทางทหารของอิสราเอลได้เปิดเผยกับวัลลา (Walla) ซึ่งเป็นเว็บท่าของอิสราเอลว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูจะประชุมในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นกับนายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมและ พล.ท.เอยัล ซามีร์ หัวหน้าคณะเสนาธิการ กองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือไอดีเอฟ (IDF) เพื่อประเมินขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไปในฉนวนกาซา รวมถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหารที่แตกต่างจากที่ผ่านมา คาดว่าหากการเจรจาเรื่องปล่อยตัวประกันไม่ได้ผลในเร็ววัน ไอดีเอฟจะใช้ปฏิบัติการทางทหารที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในไอดีเอฟกำลังถกเถียงกันว่า จะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป หรือจะประกาศว่าบรรลุเป้าหลักของการทำสงครามแล้ว ซึ่งหมายถึงการทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของฮามาส การสังหารผู้บัญชาการทหารระดับสูง การทำลายเครือข่ายอุโมงค์และอาวุธ และการยึดดินแดนในฉนวนกาซาได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง ไอดีเอฟประเมินว่า ฮามาสตกอยู่ในจุดที่อ่อนแอที่สุดแล้วนับตั้งแต่ยึดครองกาซาในปี 2550 อย่างไรก็ตาม  เจ้าหน้าที่ระดับสูงบางนายเชื่อว่า ยังจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินที่กินพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งหมายถึงว่าจะต้องมีการอพยพชาวกาซาครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เปิดฉากทำสงครามตอบโต้ที่ฮามาสบุกข้ามพรมแดนเข้าไปก่อการร้ายในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เพราะการรบในเขตเมืองที่กลุ่มฮามาสมีการป้องกันแน่นหนาและมีอุโมงค์ให้หลบซ่อนจะทำให้ไอดีเอฟต้องสูญเสียกำลังคน แต่การอพยพครั้งใหญ่เพื่อขยายพื้นที่ปฏิบัติการอาจจุดกระแสต่อต้านจากชาวกาซา.-814.-สำนักข่าวไทย  

ภาคใต้จีนเผชิญน้ำท่วมหนัก

ยูนนาน 23 มิ.ย. – จีนระดมกำลังหน่วยกู้ภัยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนจากเหตุน้ำท่วมในหลายภูมิภาคทางใต้.กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนเผยว่า ภาวะฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายภูมิภาคทางใต้ของจีน ระดับน้ำในแม่น้ำ 27 สายล้วนเพิ่มสูงเกินขีดอันตราย ประชาชนหลายพันคนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดรวมถึงเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลกุ้ยโจว และยูนนาน เมื่อแม่น้ำขนาดเล็ก 4 สายต่างมีระดับน้ำเพิ่มสูงกว่าระดับควบคุมน้ำท่วมถึง 2.51 เมตร ขณะที่แม่น้ำเหมิงถงของมณพลยูนนาน เผชิญภาวะน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดนับแต่ปี 2522 สถานการณ์ในเขตปกครองตนเองซานตู๋สุ่ย มณฑลกุ้ยโจว เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงระดับเอวรวมทั้งช่วยเหลือแม่และทารกแรกคลอด ส่วนในเขตปกครองตนเองเฉียนตงหนานที่อยู่ติดกัน หน่วยดับเพลิงฝ่าลุยกระแสน้ำไหลเชี่ยวไปอพยพชาวบ้านและเก็บข้าวของในครัวเรือน โดยใช้เรือยางเข้าอพยพประชาชนจากหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม บางพื้นที่ระดับน้ำท่วมสูงถึง 6 เมตรและเสี่ยงเกิดดินถล่ม พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์บินไปช่วยภารกิจอพยพกู้ภัยในเมืองจางเจี่ยเจี้ย มณฑลหูหนาน ทางตอนกลาง ที่มีชาวบ้าน 2 คน ติดค้างบนเกาะกลางน้ำ หลังระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นกะทันหันจนออกมาไม่ทัน ขณะนี้ หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างปฏิบัติการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในภูมิภาคระดับมณฑลรวม 6 มณฑล เนื่องจากคาดการณ์ฝนตกหนักจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์หน้าที่ และเตือนประชาชนให้เลี่ยงแหล่งน้ำหรือแม่น้ำระหว่างช่วงฤดูฝนนี้.-815.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 54
...