รัสเซียสั่งแบนนักข่าวอังกฤษเข้าประเทศ

มอสโก 15 มิ.ย. – กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียประกาศห้ามนักข่าว 29 คนของอังกฤษเดินทางเข้าประเทศ โดยอ้างว่านักข่าวเหล่านี้แผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับรัสเซียและนำเสนอข่าวการสู้รบในยูเครนและภูมิภาคดอนบาสเพียงด้านเดียว กระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า รัสเซียได้สั่งห้ามนักข่าว 29 คนของอังกฤษเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากนักข่าวเหล่านี้เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับรัสเซียและนำเสนอข่าวการสู้รบในยูเครนและภูมิภาคดอนบาสเพียงด้านเดียว นอกจากนี้ รัสเซียยังได้สั่งห้ามบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานกลาโหมของอังกฤษ 20 คนเข้าประเทศ เช่น เจ้าหน้าที่กองทัพ เจ้าหน้าที่กำกับดูแลน่านฟ้า และ ส.ส. อังกฤษ ทั้งยังระบุว่า การใช้มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับรัสเซีย และท่าทีต่อต้านรัสเซียของรัฐบาลอังกฤษ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า รัสเซียได้สั่งแบนนักข่าวที่ทำงานให้สื่ออังกฤษหลายแห่ง เช่น เดอะการ์เดียน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ซันเดย์ไทมส์ เดลีเมล ดิอินดีเพนเดนต์ เดลีเทเลกราฟ และสกายนิวส์ ด้านโฆษกของเดอะการ์เดียนเผยว่า คำสั่งดังกล่าวของรัฐบาลรัสเซียเป็นเรื่องน่าผิดหวังและเป็นเรื่องน่าเศร้าต่อเสรีภาพของสื่อมวลชน ทั้งที่นักข่าวให้ความสำคัญกับความถูกต้องและความน่าเชื่อถือในการนำเสนอข่าวในช่วงนี้เหนือสิ่งอื่นใด แม้รัสเซียได้ใช้คำสั่งห้ามนักข่าวอังกฤษหลายคนเข้าประเทศ แต่สื่อมวลชนอังกฤษก็จะยังคงรายงานข่าวการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียอย่างตรงไปตรงมาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนคำสั่งห้ามเดินทางไม่ช่วยสกัดโอไมครอน

เจนีวา 1 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลกเตือนว่า การใช้มาตรการห้ามการเดินทางแบบปูพรมกว้างขวางไปทั่วจะไม่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายประเทศรีบประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมากขึ้น ในขณะที่ภูมิภาคลาตินอเมริกาพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกแล้ว องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า การใช้มาตรการห้ามการเดินทางที่ครอบคลุมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี หลังแคนาดาประกาศห้ามอีก 3 ประเทศจากทวีปแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศ ได้แก่ ไนจีเรีย มาลาวี และอียิปต์ องค์การอนามัยโลกยังระบุในประกาศคำแนะนำการเดินทางว่า การใช้มาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดอุปสรรคระหว่างประเทศต่าง ๆ ในด้านการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงและยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เขาเข้าใจว่าประเทศต่าง ๆ ต้องหาทางปกป้องพลเมืองของตนจากเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ยังไม่มีข้อมูลอธิบายอย่างชัดเจน แต่เขาขอให้ทั่วโลกอย่าตื่นตระหนก ให้ความร่วมมือ และทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการควบคุมเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างสมเหตุสมผล ในขณะเดียวกัน ภูมิภาคลาตินอเมริการะบุเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 รายแรกที่เดินทางจากแอฟริกาใต้ไปยังบราซิล ขณะที่ญี่ปุ่นเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวานนี้หลังใช้มาตรการห้ามผู้เดินทางต่างชาติเข้าประเทศได้เพียงวันเดียว ขณะนี้ มีหลายสิบประเทศและดินแดนทั่วโลกที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ […]

ญี่ปุ่นงดให้ต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่ 30 พ.ย.

โตเกียว 29 พ.ย.- ญี่ปุ่นนำมาตรการงดให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศกลับมาใช้อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน เพราะกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะแถลงในวันนี้ว่า ตัดสินใจใช้มาตรการจำกัดการเข้าประเทศกับชาวต่างชาติจากทุกประเทศทั่วโลกเริ่มตั้งแต่วันอังคารนี้ เป็นมาตรการฉุกเฉินเพื่อเลี่ยงไม่ให้ญี่ปุ่นเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด โดยจะใช้เป็นการชั่วคราว จนกว่าผู้เชี่ยวชาญจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรุนแรงของสายพันธุ์โอไมครอนมากขึ้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กำลังวิเคราะห์พันธุกรรมเชื้อไวรัสของผู้เดินทางมาจากนามิเบียคนหนึ่งว่าเป็นสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ และจะเข้มงวดมาตรการจำกัดชาวญี่ปุ่นกลับประเทศที่เดินทางมาจากประเทศที่ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ ด้วยการให้กักโรคในสถานที่ที่ทางการกำหนดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเพิ่งผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศให้แก่ชาวต่างชาติที่เป็นนักธุรกิจ นักศึกษา และผู้ฝึกงานทางเทคนิค สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติของญี่ปุ่นยกระดับเฝ้าระวังไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสหรัฐขอศาลฎีกาบังคับใช้คำสั่งห้ามเข้าเมืองทั้งหมด

รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ศาลฎีกาอนุมัติตามคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐกรณีห้ามเดินทางเข้าประเทศให้มีผลบังคับใช้ทั้งหมด

...