IAEA เรียกร้องให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเขตปลอดภัย

เคียฟ 7 ก.ย. – รายงานของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า การระดมยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชียอาจทำให้สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลอย่างไร้ขีดจำกัด และอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัย รายงานของไอเออีเอที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารระบุว่า เจ้าหน้าที่ชาวยูเครน 907 คนที่ทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียต้องเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างหนักขณะทำงานภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ควรมีสิทธิได้พบปะกับครอบครัวและทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ขณะที่การระดมยิงต่อเนื่องของรัสเซียกับยูเครนยังไม่ได้ถึงขั้นทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน แต่ก็ทำให้เป็นภัยต่อความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่หายนะด้านกัมมันตภาพรังสีอย่างมีนัยสำคัญ ไอเออีเอยังเรียกร้องให้มีการจัดทำข้อตกลงชั่วคราวโดยด่วนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการทางทหาร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเห็นพ้องในข้อตกลงที่กำหนดให้โรงไฟฟ้าซาปอริชเชียเป็นเขตปลอดภัยทางนิวเคลียร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งยังเตือนว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในเขตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และการสู้รบในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นภัยต่อระบบป้องกันของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และเรียกร้องให้กองทัพรัสเซียเคลื่อนย้ายยานพาหนะทางทหารที่อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัยออกจากเขตโรงไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขารู้สึกพอใจกับรายงานดังกล่าวของไอเออีเอที่ระบุถึงประเด็นเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียในเขตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย การกดดันเจ้าหน้าที่ชาวยูเครน และการยึดครองทางทหารของรัสเซียอย่างชัดเจน ทั้งยังระบุว่า เขาจะสนับสนุนเรื่องการกำหนดให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นพื้นที่ปลอดภัย ถ้าการทำเช่นนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียคาดเศรษฐกิจจะกลับมาโตเร็วกว่าที่คาด

รัสเซียคาดว่า เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวต่อไตรมาสได้อย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้ และจะหดตัวต่อปีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

เผยรัสเซียซื้อกระสุนปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือ

สื่อในสหรัฐรายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐได้ประเมินไว้ว่า รัสเซียกำลังซื้อกระสุนปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า รัสเซียได้เริ่มใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่ผลิตโดยอิหร่านแล้ว

ยูเครนว่าภารกิจของ ‘IAEA’ ไร้ประสิทธิภาพ

เคียฟ 5 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนระบุว่า รัฐบาลยูเครนกำลังรอรายงานจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ เกี่ยวกับสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครอง ทั้งยังกล่าวว่า ภารกิจของไอเออีเอไม่มีประสิทธิภาพ นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ยูเครนไม่ทราบเลยว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ไอเออีเอเข้าไปตรวจสอบมีความปกติหรือไม่ ทั้งในด้านความปลอดภัย ระบบระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์ สวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนในโรงไฟฟ้า และขั้นตอนการทำงาน เพราะยูเครนยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าภารกิจของไอเออีเอไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง นายโปโดเลียกยังกล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียควรเป็นการตรวจสอบด้านนิวเคลียร์ที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์และเทคโนโลยีวิศวกรรมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ยูเครนที่ทำงานอยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซีย ซึ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ไม่มีทางประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องแน่นอน ก่อนหน้านี้ นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการของไอเออีเอ เผยเมื่อวันศุกร์ว่า ไอเออีเอได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้มากขึ้นหลังลงพื้นที่ตรวจโรงไฟฟ้า และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบยังคงอยู่ที่โรงไฟฟ้าต่อไป. -สำนักข่าวไทย

“มิน อ่อง หล่าย”เยือนรัสเซียอีกครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน

เนปิดอว์ 5 ก.ย. – พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน สื่อของทางการเมียนมารายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้เดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในวันนี้ โดยมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเศรษฐกิจ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญ มหาวิทยาลัย และโรงงานต่าง ๆ ส่วนคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเมียนมาก็จะเดินทางไปพบปะกับคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซียเพื่อกระชับความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ถูกประชาคมนานาชาติปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการประชุมส่วนใหญ่ในนามตัวแทนของเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ก่อนหน้านี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เคยเดินทางเยือนกรุงมอสโกในฐานะผู้นำประเทศเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีก่อน ครั้งนั้นได้ประกาศความร่วมมือทางทหารร่วมกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนรัสเซียเป็นการส่วนตัวในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทั้งนี้ รัสเซีย ซึ่งป็นแหล่งนำเข้าอาวุธรายสำคัญของเมียนมา เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาหลังเกิดเหตุรัฐประหาร ในขณะที่ประชาคมโลกต่างประณามรัฐบาลทหารเมียนมาเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารสังหารฝ่ายตรงข้าม. -สำนักข่าวไทย

นักปีนเขาเสียชีวิต 8 รายบนภูเขาไฟในรัสเซีย

มอสโก 5 ก.ย. – สื่อรัสเซียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 8 รายขณะปีนภูเขาไฟคลูเชฟสกายา โซปกา (Klyuchevskaya Sopka) ในดินแดนคัมชัตคาของรัสเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเดินทางเข้าไปช่วยเหลือได้ เนื่องจากประสบปัญหาลมพายุพัดแรง สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดนายโรมัน วิซิเลฟสกี รองนายกรัฐมนตรีของดินแดนคัมชัตคา ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองทางตะวันออกของรัสเซีย ที่ระบุว่า เขาได้รับรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 8 รายขณะปีนภูเขาไฟคลูเชฟสกายา โซปกา และคาดว่ามีนักปีนเขา 6 คนติดอยู่บนภูเขาจากคณะเดินทางที่มีสมาชิก 12 คน ซึ่งรวมถึงมัคคุเทศก์ 2 คน ทั้งยังระบุว่า เขาได้รับแจ้งข้อมูลดังกล่าวจากมัคคุเทศก์คนหนึ่งที่โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมมาจากบนภูเขาไฟ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของดินแดนคัมชัตคาระบุว่า คณะนักปีนเขา 12 คนได้เริ่มภารกิจปีนภูเขาไฟคลูเชฟสกายา โซปกา ที่สูง 4,754 เมตรตั้งแต่เมื่อวันอังคารก่อน แต่ประสบปัญหายากลำบากเมื่อวันเสาร์ หลังมีสมาชิกบางส่วนตกเขาเสียชีวิตที่ระดับความสูง 4,200 เมตร และมีสมาชิกคนหนึ่งขาหัก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือคณะนักปีนเขาเมื่อวันอาทิตย์ แต่จำเป็นต้องยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากเผชิญกับลมแรงถึง 107 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้ […]

ผู้นำอันดับ 3 ของจีนจะเยือนรัสเซีย

ปักกิ่ง 4 ก.ย.- นายลี่ จ้านซู ประธานคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีนจะเยือนรัสเซียในสัปดาห์หน้า เขาเป็นผู้นำอันดับ 3 ของจีน และจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะไปเยือนรัสเซียตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายลี่จะเยือนรัสเซีย มองโกเลีย เนปาล และเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 6-17 กันยายน โดยในระหว่างที่เยือนรัสเซียเขาจะเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจตะวันออกครั้งที่ 7 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ทางตะวันออกไกลของรัสเซียด้วย นายลี่เป็นผู้นำอันดับ 3 ในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการประจำฯ นี้ประกอบด้วยผู้นำระดับสูงของพรรค ปัจจุบันมี 7 คน อันดับหนึ่งคือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง วัย 69 ปี อันดับ 2 คือ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง วัย 67 ปี และอันดับ 3 คือนายลี่ จ้านซู วัย 72 ปี คาดกันว่านายลี่จะเกษียณตัวเองในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 20 ซึ่งยังไม่มีการประกาศวันที่ที่ชัดเจน […]

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของยูเครนถูกตัดไฟ

เคียฟ 4 ก.ย.- โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนและใหญ่ที่สุดของยุโรปถูกตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายมาจากภายนอกอีกครั้ง และเป็นกระแสไฟฟ้าจากภายนอกที่เหลืออยู่เป็นแหล่งสุดท้าย ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) แจ้งเมื่อวันเสาร์ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียถูกตัดกระแสไฟฟ้าจ่ายมาจากภายนอกที่เหลืออยู่เป็นแหล่งสุดท้าย ขณะนี้มีเตาปฏิกรณ์เดินเครื่องอยู่เพียงเครื่องเดียวจากทั้งหมด 6 เครื่อง โดยต้องผลิตไฟฟ้าเพื่อให้การเดินเครื่องที่โรงไฟฟ้าเป็นไปอย่างปลอดภัย และเพื่อการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนและภาคธุรกิจ คณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี และมีบางคนยังคงอยู่ที่โรงไฟฟ้าเพื่อรอไอเออีเอออกรายงานในอีกไม่กี่วัน ด้านโรงไฟฟ้าแถลงว่า ปิดเตาปฏิกรณ์เครื่องที่ 5 เนื่องจากกองกำลังรัสเซียยังคงยิงถล่มโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และไฟฟ้าจากภายนอกที่เหลืออยู่เป็นแหล่งสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจ่ายให้แก่เตาปฏิกรณ์ 2 เครื่องพร้อมกัน รัสเซียยึดโรงไฟฟ้าแห่งนี้เมื่อต้นเดือนมีนาคมหลังจากเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยที่ยังให้บุคลากรชาวยูเครนดูแลการเดินเครื่อง และได้กลายเป็นจุดปะทะหลักของทั้งสองฝ่ายที่ต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่ายิงถล่มโรงไฟฟ้า สัปดาห์ที่แล้วโรงไฟฟ้าซาปอริชเชียถูกตัดออกจากระบบจ่ายไฟฟ้าระดับประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องครั้งแรกในปี 2528 ทำให้ไฟฟ้าดับทั่วยูเครน เนื่องจากผลิตไฟฟ้าได้ถึงครึ่งหนึ่งของไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วประเทศ และผลิตไฟฟ้าได้กว่า 1 ใน 5 ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ประชาชนเข้าคิวไว้อาลัย “กอร์บาชอฟ” เป็นครั้งสุดท้าย

ประชาชนชาวกรุงมอสโกหลายร้อยคนเข้าแถวรอเพื่อเข้าไว้อาลัยนายมิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตผู้นำสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการปฏิรูปอย่างพลิกโฉมที่ช่วยให้สงครามเย็นสิ้นสุดลง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลาย

“ปูติน” จะไม่เข้าร่วมพิธีศพ “กอร์บาชอฟ” ในวันเสาร์

มอสโก 2 ก.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะไม่เข้าร่วมพิธีศพของนายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียตในวันเสาร์ เพราะติดภารกิจที่ทำให้ไปร่วมงานศพไม่ได้ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า ประธานาธิบดีปูตินจะไม่เดินทางไปเข้าร่วมพิธีศพของนายกอร์บาชอฟในวันเสาร์ เนื่องจากผู้นำรัสเซียติดภารกิจ แต่ประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางไปแสดงความเคารพศพนายกอร์บาชอฟในวันพฤหัสบดีด้วยการวางกุหลาบสีแดงข้างโลงศพที่โรงพยาบาลในกรุงมอสโก ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายกอร์บาชอฟถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 91 ปีเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินยังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายกอร์บาชอฟผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัสเมื่อวันพุธว่า นายกอร์บาชอฟเป็นรัฐบุรุษและนักการเมืองที่มีอิทธิพลใหญ่หลวงต่อประวัติศาสตร์โลก บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ทางการรัสเซียจะจัดพิธีศพของนายกอร์บาชอฟที่ฮอลล์ ออฟ คอลัมน์ส (Hall of Columns) ในกรุงมอสโก และเปิดให้สาธารณชนเข้าร่วมงาน หลังจากนั้น ทางการจะนำศพของนายกอร์บาชอฟไปฝังที่สุสานในกรุงมอสโกข้างหลุมศพของนางไรซา ภริยาที่เสียชีวิตในปี 2542 บีบีซียังระบุว่า นอกจากประธานาธิบดีปูตินแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญจากต่างประเทศอีกหลายคนที่ไม่เข้าร่วมงานศพของนายกอร์บาชอฟ เนื่องจากถูกรัสเซียสั่งห้ามเข้าประเทศจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ รวมถึงนักการเมืองระดับสูงของสหรัฐ อังกฤษ สหภาพยุโรป หรืออียู […]

ไอเออีเอปักหลักตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน

เคียฟ 2 ก.ย. – คณะผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ลงพื้นที่ครั้งแรกเพื่อตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครองแล้ว และจะยังคงปักหลักอยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวต่อไป นายราฟาเอล กรอสซี หัวหน้าไอเออีเอ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ความสมบูรณ์ด้านกายภาพของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียถูก “ละเมิดหลายครั้ง” ทั้งยังกล่าวในขณะที่เดินทางกลับถึงดินแดนที่ยูเครนยึดครองว่า คณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอจะไม่เดินทางไปไหนทั้งนั้น และจะปักหลักอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเออยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวกี่คนและเป็นเวลานานเท่าใด ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอได้เดินทางไปถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียภายใต้การคุ้มกันของทหารรัสเซีย หลังเกิดเหตุโจมตีขึ้นจนทำให้การเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด โดยรัสเซียกับยูเครนต่างกล่าวโทษว่าต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานว่า มีคณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอราว 8-12 คนอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ขณะที่อีเนอร์โกอะตอม (Energoatom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของยูเครน ระบุว่า มีคณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอ 5 คนอยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวเพื่อประเมินสภาพของโรงไฟฟ้าและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนของโรงไฟฟ้าที่ตกอยู่ใต้การควบคุมของรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า เขาหวังว่าคณะผู้เชี่ยวชาญของไอเออีเอจะสรุปผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม แต่รู้สึกเสียใจที่ไม่มีนักข่าวต่างประเทศร่วมเดินทางไปกับคณะผู้เชี่ยวชาญในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย  

1 92 93 94 95 96 281
...