fbpx

อินโดนีเซียเพาะยุงมีแบคทีเรียสกัดไข้เลือดออก

ยอกยาการ์ตา 1 พ.ย.- คณะนักวิจัยในอินโดนีเซียพบวิธีต่อสู้กับโรคไข้เลือดออกเดงกี่ ด้วยการเพาะพันธุ์ยุงให้มีเชื้อแบคทีเรียที่สามารถสกัดไม่ให้เชื้อไวรัสเดงกี่เติบโตในตัวยุงได้ ชาวอินโดนีเซียที่ร่วมในโครงการยุงโลก ซึ่งเป็นโครงการไม่แสวงหากำไรเพื่อปกป้องประชาคมโลกจากโรคที่เกิดจากยุง เผยว่า หลักการคือการเพาะพันธุ์ยุงที่ดี ด้วยการนำยุงที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี่มาผสมพันธุ์กับยุงที่มีเชื้อแบคทีเรียโวลบาเกีย จนได้ยุงที่มีเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวที่จะไม่ทำให้คนถูกกัดติดเชื้อ ปกติแล้วเชื้อแบคทีเรียโวลบาเกียพบอยู่ตามธรรมชาติในแมลงชนิดต่าง ๆ ประมาณร้อยละ 60 เช่น ยุง แมลงวันผลไม้ ผีเสื้อ แต่ไม่เคยพบในยุงลายที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี่ มหาวิทยาลัยโมนาชในออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยกัดจาห์ มาดาในอินโดนีเซียที่ร่วมในโครงการยุงโลกได้นำยุงมีเชื้อแบคทีเรียโวลบาเกียที่เพาะในห้องทดลอง ไปปล่อยในบางพื้นที่ของเมืองยอกยาการ์ตาที่มีโรคไข้เลือดออกเดงกี่ระบาด โดยทำมาตั้งแต่ปี 2560 พบว่า จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี่ลดลงมากถึงร้อยละ 77 และจำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลลดลงมากถึงร้อยละ 86 ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ช่วงหลายสิบปีมานี้ ทั่วโลกมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี่เพิ่มขึ้นเร็วมาก และมีประชากรโลกถึงครึ่งหนึ่งเสี่ยงป่วยด้วยโรคนี้ โดยมีรายงานพบผู้ป่วยปีละ 100-400 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียปิดสนามบินเมืองยอกยาการ์ตา

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.- สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ระบุ ทางการอินโดนีเซียประกาศห้ามเข้าพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟในรัศมี 5 กม. และปิดท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองยอกยาการ์ตาแล้ว หลังเกิดเหตุปะทุของภูเขาไฟทางตอนกลางของเกาะชวา ขอให้ชาวไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ใกล้เคียง และติดตามข่าวสารใกล้ชิด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย โพสข้อความผ่านทาง เฟสบุ๊ค ระบุว่า ตามที่ได้เกิดเหตุปะทุของภูเขาไฟ Merapi ทางตอนกลางของเกาะชวา วันนี้ (11 พ.ค.) ส่งผลให้ทางการอินโดนีเซียประกาศห้ามเข้าพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟในรัศมี 5 กม. และปิดท่าอากาศยานนานาชาติ Adisutjipto ในเมืองยอกยาการ์ตา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญ คือ เทวสถานปรัมมานัม และใกล้กับเมืองที่ตั้งพุทธสถานมหาเจดีย์บูโรพุทโธ จึงทำให้ต้องระงับเที่ยวบินเป็นการชั่วคราว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอให้ชาวไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าว และขอให้ติดตามข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างสม่ำเสมอ และในกรณีที่คนไทย ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้  สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ  ได้ที่หมายเลข +62 811 186253.-สำนักข่าวไทย

...