ปักกิ่ง 29 ธ.ค. – ตำรวจปราบจลาจลของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน นำตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 จำนวน 4 คน เดินประจานตามถนนต่าง ๆ ในวันนี้ แต่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับแนวทางรับมือการระบาดที่เข้มงวดจนเกินไป กว่างซีจ้วงนิวส์ สื่อของทางการจีน รายงานว่า ตำรวจของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงได้นำตัวผู้ที่ถูกระบุว่าละเมิดกฎควบคุมโควิด-19 จำนวน 4 คนที่สวมหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันเชื้อไวรัสเดินถือป้ายที่มีภาพถ่ายใบหน้าและชื่อของแต่ละคนไปตามท้องถนนเมื่อวันอังคารท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากในเมืองจิงซี ภาพถ่ายที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ตำรวจ 2 นาย ซึ่งสวมอุปกรณ์ป้องกันใบหน้า หน้ากากอนามัย และชุดป้องกันเชื้อไวรัส เดินคุมตัวผู้ต้องหาแต่ละคนไปบนถนน โดยที่มีตำรวจปราบจลาจลเดินล้อมรอบและมีตำรวจบางนายถือปืนด้วย ทั้งสี่คนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในข้อหาลักลอบขนส่งผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในขณะที่จีนยังคงปิดพรมแดนระหว่างประเทศ เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงมีชายแดนติดเวียดนาม กว่างซีจ้วงนิวส์ยังระบุว่า การนำตัวผู้ต้องหาเดินประจานความผิดตามถนนเป็นการแสดงให้ประชาชนเห็นถึงคำเตือนที่จริงจังและช่วยยับยั้งอาชญกรรมที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดน อย่างไรก็ดี บทลงโทษดังกล่าวกลับถูกตำหนิอย่างรุนแรงในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยชาวจีนหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าแนวทางดังกล่าวเข้มงวดจนเกินไป จีนได้สั่งห้ามการใช้วิธีประจานผู้ต้องสงสัยตั้งแต่ปี 2553 หลังจากที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนพยายามผลักดันเรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่วิธีการดังกล่าวกลับเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นพยายามอย่างหนักในการบังคับใช้โยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลกลางของจีน ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 101,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน.-สำนักข่าวไทย