“พงศ์กวิน” ยันมีแผนรองรับสถานการณ์แรงงานกัมพูชากลับประเทศ

30 ก.ค. – นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า ไทยยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคในการดูแลแรงงานข้ามชาติ พร้อมมีแผนรองรับกรณีแรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางกลับประเทศ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของภาคเศรษฐกิจและตลาดแรงงานไทย กรณีที่ปรากฏภาพข่าวในเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการไตรภาคี เพื่อขับเคลื่อนแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ค.ศ. 2024–2028 ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการกล่าวอ้างถึงกรณีที่ประเทศไทยละเมิดสิทธิแรงงานและใช้ความรุนแรงต่อแรงงานชาวกัมพูชา นายพงศ์กวิน ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า ประเทศไทยในฐานะภาคีขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความเสมอภาคในการจ้างงาน กระทรวงแรงงานไม่มีนโยบายเลือกปฏิบัติต่อแรงงาน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือสัญชาติใด และการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามหลักกฎหมายและมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในบริบทที่แรงงานข้ามชาติมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ขณะนี้กระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับฟังข้อมูลจากภาคประชาสังคม เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติที่รัดกุมและเป็นธรรม โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนมีความตึงเครียด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแรงงานบางกลุ่ม สำหรับสถานการณ์แรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางกลับประเทศ กระทรวงฯ ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีแรงงานสัญชาติกัมพูชาบางส่วนเดินทางกลับประเทศจากสถานการณ์ความไม่สงบในบางพื้นที่บริเวณชายแดน โดยอยู่ระหว่างการสำรวจและรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจน ผ่านความร่วมมือกับกรมการจัดหางานและหน่วยงานความมั่นคง ขณะเดียวกันได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดลงพื้นที่สื่อสารสร้างความเข้าใจกับนายจ้างและสถานประกอบการ พร้อมรับฟังผลกระทบ เพื่อเตรียมแนวทางรองรับแรงงานอย่างเหมาะสม พร้อมเน้นย้ำว่า กระทรวงแรงงานมีแผนรองรับในกรณีที่แรงงานกัมพูชากลับประเทศจำนวนมาก โดยจะพิจารณาจัดหาแรงงานสำรองจากประเทศอื่นที่มีความพร้อม และขณะนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวที่รอการขึ้นทะเบียนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำเข้าสู่ระบบงานได้ทันที “ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ แม้จะมีแรงงานบางส่วนเดินทางกลับประเทศ แต่จะไม่กระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานมีแรงงานสำรองเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศอย่างแน่นอน” […]

“ภูมิธรรม” ยอมรับยังมีการปะทะชายแดนแต่ไม่ใช่อาวุธหนัก

บช.ปส. 30 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ยอมรับยังมีการปะทะชายแดนแต่ไม่ใช่อาวุธหนัก อยู่ระหว่างเก็บหลักฐานทหารรับจ้าง ไม่ให้น้ำหนักกองทัพมาเลเซียเยือนกัมพูชา ยันคุยกับ “อันวา อิบราฮิม” ประธานอาเซียนคนเดียว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้ยังมีการปะทะกันบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา แต่ไทยยังสามารถควบคุมได้ และไม่ได้เป็นการใช้อาวุธหนักใส่กัน ส่วนนี้เราต้องมีการรวบรวมหลักฐานว่าทางกัมพูชามีการละเมิดไทยอย่างไร ด้วยหลักฐานการใช้วิดีโอ เทป เทคโนโลยีและดาวเทียม ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ ส่วนที่มีกระแสว่า กัมพูชามีการใช้ทหารรับจ้าง เป็นผู้บงการยุทธการณ์ในการรบหรือไม่ เรื่องนี้ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานของการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างละเอียดทุกขั้นตอนที่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเพื่อเตรียมไว้ชี้แจงกับประชาคมโลกแล้ว ส่วนจะมีหลักฐานเกี่ยวข้องกับทหารรับจ้างหรือไม่นั้นขอไม่ชี้แจง เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่าทางการไทย รวมทั้งกองทัพจะมีการทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอธิปไตยไทย ส่วนที่มีภาพทางกองทัพมาเลเซียเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ มีผลกระทบต่อการปะทะของไทย-กัมพูชาหรือไม่นั้น เรื่องนี้ในนามของรัฐบาลไทยได้เจรจาระดับประธานอาเซียน ก็คือ นายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีความสำคัญสูงสุด ส่วนบุคคลจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร ตรงนั้นเป็นภารกิจของแต่ละประเทศ แต่ตนยึดมั่นในการคุยกับนายอันวาเป็นหลัก วันนี้ไม่ใช่เรื่องของการพูดหรือมาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแต่อยู่ในเรื่องของหลักฐานที่เป็นจริงเราเน้นเรื่องความสำคัญตรงนั้นมากกว่า ส่วนตอนนี้ยังไว้ใจประเทศกัมพูชาได้หรือไม่ หลังมีการเจรจายุติการยิงกัน แต่ยังมีการยิงต่อนั้น ตอบอย่างชัดเจนว่าเราไม่ได้ไว้วางใจเลย และไม่ได้ไว้วางใจกัมพูชามาตั้งแต่ต้นจากสิ่งที่ได้กระทำมา เรื่องนี้หากประชาคมโลกมาดูและตรวจสอบไม่สามารถหลีกหนีข้อเท็จจริงและความเป็นจริงได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็ให้ประชาคมโลกมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องและเรายินดีที่จะแสดงจุดยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราแสดงมาตลอดว่าเรารักษาสันติและพยายามที่จะหาทางออกโดยไม่ต้องกระทบกระเทือนหรือเสียเลือดเนื้อของประชาชน ส่วน […]

คลังเผยจีดีพี ปี 68 โตร้อยละ 2.2

ก.คลัง 30 ก.ค. – คลังมั่นใจจีดีพีปี 68 โตร้อยละ 2.2 รวมเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา น้ำท่วมภาคเหนือ ภาษีทรัมป์ หวังงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจชายแดน ต่างชาติเตือนนักท่องเที่ยวระวังเหตุชายแดน ไม่กระทบภาพรวม นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่า คลังคาดการณ์จีดีพีไทย ในปี 68 ขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อปี สอดรับกับกองทุนไอเอ็มเอฟ คาดการณ์จีดีพีไทย เติบโตร้อยละ 2 และเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 3 จากประมาณการณ์เศรษฐกิจเดิมร้อยละ 2.1 โดยรวมปัจจัยเหตุการณ์ความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาน้ำท่วมในภาคเหนือ มีแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการส่งออก คาดว่าขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี เนื่องจากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้า แต่การส่งออกสินค้าของไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 68 อาจ ชะลอตัวลงจากผลกระทบของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดว่าไทยได้รับข้อตกลงการผ่อนปรนภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ โดยคาดหวังไทยมีช่วงภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 15-36 ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ […]

ศรีสะเกษยังไม่น่าวางใจ ด้านผู้อพยพเริ่มมีปัญหาสุขภาพ

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-ที่ศรีสะเกษ สถานการณ์ยังไม่น่าวางใจ เมื่อช่วงเย็นวานนี้มีประชาชนเสียชีวิตอีก 1 ราย จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอยู่ตามศูนย์อพยพต่อไป ซึ่งผ่านมา 5 วันที่ประชาชนต้องออกมาอยู่ตามศูนย์อพยพ ล่าสุดหลายคนเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ.-สำนักข่าวไทย

วัดแห่งหนึ่ง อ.กันทรลักษ์ เตรียมชั้นใต้ดินอุโบสถ รองรับเหตุฉุกเฉิน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – พระสงฆ์วัดแห่งหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พาชมชั้นใต้ดินใต้พระอุโบสถ ซึ่งเตรียมไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ยอมรับเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้รุนแรงกว่าเมื่อครั้งปี 54 .-สำนักข่าวไทย

ตร.แนะคนไทยแยกแยะ กำชับดูแลทรัพย์สิน ปชช.ที่อพยพออกจากบ้าน

ตร. 25 ก.ค. – โฆษก ตร. เตือนคนไทยอย่าหัวร้อน แนะให้แยกแยะ สั่งกำชับดูแลทรัพย์สินประชาชนที่อพยพออกจากบ้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เชิญตำรวจทุกหน่วยงานเข้ามาประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา กำชับให้ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้ยกระดับมาตรการดูแลบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่ส่วนใหญ่พบว่าไม่มีผู้ดูแล เพราะอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง ส่วนพื้นที่รอบสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา หรือสถานที่มีสิทธิก่อความไม่สงบ ได้จัดกำลังตำรวจในพื้นที่และตำรวจสันติบาลเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ส่งกำลังใจไปให้กับประชาชน ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้า และตำรวจในพื้นที่ และพร้อมที่จะสนับสนุนทุกภารกิจหากมีการร้องขอเข้ามา ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปชาวกัมพูชาถูกทำร้ายร่างกายในประเทศไทยนั้น ทราบว่าคนไทยส่วนใหญ่อาจมีอารมณ์โกรธเคือง แต่หากไปก่อเหตุรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายคู่ขัดแย้งจะถูกดำเนินคดีทุกกรณี เพราะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย พร้อมขอให้ประชาชนระมัดระวังการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือไม่เหมาะสมในสื่อโซเชียล เพราะอาจกลายเป็นการจุดชนวนให้เหตุการณ์บานปลายจนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ.-416-สำนักข่าวไทย

จ่อยื่น IPU ข้อเท็จจริงปมปะทะชายแดน ประณาม “กัมพูชา”

รัฐสภา 25 ก.ค.-สหภาพรัฐสภาไทย ออกแถลงการณ์ประณาม “กัมพูชา” ใช้ความรุนแรง ทำ ปชช. ไทยเสียชีวิต เตรียมยื่นถึง IPU กว่า 181 ประเทศให้รับทราบข้อเท็จจริง พร้อมแสดงความวิตกต่อสถานการณ์ ชี้ เป็นช่องทางลดปัญหาความขัดแย้ง หวัง สองประเทศเจรจาบนโต๊ะภาคีอีกครั้ง นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา และกรรมการบริหารหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภา (IPU) ได้อ่านถ้อยแถลงประจำชาติไทยใน IPU ว่า หน่วยประจําชาติไทยในสหภาพรัฐสภา ขอแสดงความกังวลอย่างยิ่ง และขอประณามการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนโดยรัฐบาลกัมพูชาซึ่งส่งผลให้ เกิดความสูญเสียและบาดเจ็บต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ประเทศไทยขอยืนยันพันธกรณีอันแน่วแน่ของตนตามอนุสัญญาออตาวา และพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รวมถึง อนุสัญญาเจนีวา และกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและการโจมตีต่อพลเรือนและโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด ประเทศไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไทยมิได้เป็นฝ่ายเริ่มใช้กําลังหรือเผชิญหน้าก่อนแต่อย่างใด ประเทศไทยเป็นเหยื่อต่อการกระทําอันก้าวร้าวโดยไม่มีการ ยั่วยุ และการคุกคามต่อสันติภาพ ซึ่งรวมถึงการใช้กับระเบิด อาวุธหนักและการโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยไม่เลือกของกัมพูชา ประเทศไทยกระทําการเพื่อป้องกันตนเอง และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนตามสิทธิ์ที่ได้รับการรับรองในกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรง ระหว่างประเทศ และยุติการกระทําอันเป็นปรปักษ์ ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศ หน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภาขอเรียกร้องผ่านประชาคมระหว่างประเทศ และสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union […]

สธ.ประชุมสรุปผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต เหตุปะทะชายแดนล่าสุด

ก.สาธารณสุข 25 ก.ค. – สธ.ประชุมติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 31 ราย นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์เหตุ ปะทะชายแดน ไทย-กัมพูชา พร้อมรายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข สรุปข้อมูลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ตัวเลขล่าสุดวันที่ 25 กรกฏาคม 2568 เวลา 09.00 น. ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 45 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 14 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัสเคสสีแดง 7 ราย สีเหลือง 13 ราย สีเขียว 11 ราย โดยแบ่งเป็นรายจังหวัดดังนี้ ใน จ.อุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บกลุ่มอาการสีแดง 3 ราย /เหลือง 1 ราย, จังหวัดศรีสะเกษ มีผู้เสียชีวิต […]

หลั่งไหลบริจาคเลือด สำรองโลหิตคงคลังรับมือเหตุปะทะชายแดน

24 ก.ค.- คนไทยหลั่งไหลร่วมบริจาคเลือดแน่นสภากาชาดไทย หลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่วันนี้จำนวนเลือดทะลุเป้า เตรียมกระจายส่งไปยังโรงพยาบาลพื้นที่ชายแดน บรรยากาศที่สภากาชาดไทย มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาบริจาคเลือดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเที่ยง เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ปกติจะมีผู้มาบริจาคเลือดวันละไม่ถึง 500 คน แต่ ณ เวลา 19.14 น.ของวันนี้ มียอดผู้ลงทะเบียนบริจาคเลือด 1,647 คน ได้เลือด 1,352 ยูนิต และคาดว่าวันนี้ยอดผู้บริจาคเลือดจะแตะ 2,000 คน ขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจคัดกรองเลือด ใช้เวลาประมาณ 24 ชม. ก่อนส่งให้ผู้ป่วยตามสถานพยาบาลต่างๆ สามารถไปได้ที่หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ ในเขตกรุงเทพฯ 8 แห่ง ได้แก่ ส่วนภูมิภาค จะมีภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก […]

“แพทองธาร” รัวแชร์โพสต์ สวน “ฮุนเซน” ไม่ผิดคาด

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-“แพทองธาร” รัวแชร์โพสต์ สวน “ฮุนเซน” ไม่ผิดคาด ยิงก่อนบอกเราเริ่ม แต่ทำตัวเป็นเหยื่อ หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้กองทัพถูกยั่วยุมาตลอด ความอดทนย่อมมีที่สิ้นสุด ภายหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยกัมพูชาในหลายจังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แชร์ภาพบทสัมภาษณ์ของพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมข้อความที่ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาเป็นคนเปิดฉากยิงก่อน คงไม่คุยกันแล้วกองทัพไทยอดทนถึงที่สุดแล้ว ซึ่งนางสาวแพทองธาร ได้ระบุข้อความว่า “ที่สุดค่ะ ทุกท่านไม่ลงไปเล่นเกม ทุกท่านพยายามรักษาความสงบ อดทน อดกลั้น เป็นผู้ใหญ่กว่าในทุกเหตุการณ์ ทั้ง ๆ ที่ถูกยั่วยุมาตลอด ความอดทนย่อมมีที่สิ้นสุดส่ง กำลังใจให้กองทัพทีมทำงานทุกท่านค่ะ” นางสาวแพทองธาร ยังได้แชร์ภาพข่าวที่ระบุว่า โฆษกกลาโหมกัมพูชาอ้างไทยเป็นฝ่ายยิงก่อน โดยนางสาวแพทองธาร ระบุข้อความว่า ”ตามคาด! ยิงก่อนบอกเราเริ่ม!!!!“ ทั้งนี้ ยังแชร์ภาพข่าวของสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่โพสต์ว่า กัมพูชาไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กลับ โดยนางสาวแพทองธาร ระบุข้อความว่า ”ตามคาด!!! ทำตัวเป็นเหยื่อ!!!!“.-316.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

เสียงปืนสนั่นชายแดนพบพระ ผู้ปกครองไม่กล้าพาลูกไป รร.

ตาก 28 พ.ค. – เช้านี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตึงเครียดหนัก ทหารกะเหรี่ยงและทหารเมียนมายิงปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ปกครองไม่กล้าพาบุตรหลานมาโรงเรียนแนวชายแดน และบางส่วนพึ่งหลุมหลบภัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ( KNLA ) พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชน (PDF) จำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมาได้บุกโจมตีทหารเมียนมา จากกองบังคับการควบคุมยุทธการที่ 13 จำนวนกว่า 70 คน ที่กำลังเดินทัพไปเสริมกำลังที่ฐานบ้านทิบาโบ แต่ระหว่างทางถูกทหารกะเหรี่ยงเข้าสกัดจนเกิดการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่บริเวณสนามกีฬาบ้านส่งซี่เมี่ยน อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1กิโลเมตร รวมถึงทหารเมียนมาจากฐานทิบาโบ ซึ่งเป็นฐานขนาดใหญ่ ก็ได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าช่วยเหลือทหารเมียนมาด้วย เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้าน หมู่บ้านมอเกอไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านฝั่งไทยที่ติดกับพื้นที่ยิงปะทะ เตรียมความพร้อมไปอยู่ในหลุมหลบภัย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน มอเกอไทย เผยว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติแต่มีเด็กมาเรียนน้อย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงเรื่องความปลอดภัยจึงให้บุตรหลานหยุดเรียน โดยมีทหารชุดเฉพาะกิจราชมนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมอเกอ […]

1 2
...