53 หน่วยงานร่วมประชุมแก้ปัญหาจราจรกรุง

กทม. 17 พ.ย.- 53 หน่วยงานร่วมประชุมแก้ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลครั้งที่ 4 ผลปฏิบัติพบการจราจรทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นดีขึ้นมาก เตรียมปิดสะพานรัชโยธินบางช่วงเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธ์ รักษาราชการแทน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุม คณะอนุกรรมการบูรณาการ การขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลครั้งที่ 4 มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 53 หน่วยงานเข้าร่วม ซึ่งจากรายงานการปฏิบัติพบว่า สภาพการจราจรมีความคล่องตัวมากขึ้นอ้างอิงจากโครงการ before and after ระหว่าง19 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเปิดการเรียนการสอนแล้ว โดยช่วงเช้าพบว่าการจราจรคลี่คลายลงและไปได้เร็วขึ้นเฉลี่ย 48 นาที ส่วนช่วงเย็นคลี่คลายลงไปได้เร็วขึ้นเฉลี่ย 1 ชั่วโมง 4 นาที และหลังจากจัดการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้การจราจรโดยรอบคลี่คลายเร็วขึ้น 58 นาที ส่วนช่วงเย็นลดลง 29 นาที หลังเปิดภาคเรียนวันแรกจนถึงปัจจุบัน พบว่า มีผลกระทบกับการจราจรในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1,4,5 และ 6 ได้รับผลกระทบมากที่สุด จึงมีมาตรการแก้ไขโดยจัดกำลังตำรวจ 1 นาย หน้าโรงเรียนและฝั่งตรงข้ามโรงเรียน 2 นาย พร้อมประสานโรงเรียน และผู้ปกครองในการกำหนดระยะเวลารับ-ส่งบุตรหลาน ต่างช่วงเวลากัน ทั้งนี้มีการหารือเกี่ยวกับมาตรการให้บุคคลทั่วไปสามารถถ่ายรูปบันทึกภาพผู้กระทำผิดเกี่ยวกับจราจรเพื่อนำไปสู่การจับกุมออกไปสั่ง และมีผลตอบแทนเป็นสินบนนำจับ แต่อยู่ระหว่างการศึกษาผลดีผลกระทบความเป็นไปได้ก่อน ส่วนกรณีตำรวจจะปิดสะพานรัชโยธิน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 – 15.00 น.เพื่อรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก่อนจะขยายเวลาการปิด เป็น 08.00-17.00 น. และวันที่ 24-25 พฤศจิกายนนี้ จะปิด 24 ชั่วโมง ที่จะให้เลี่ยงไปใช้ถนนตามซอยต่างๆนั้น เชื่อว่าไม่น่าเพียงพอต่อการใช้ถนนของประชาชน แต่ตำรวจได้วางแผนรับมือสภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวไว้ 3 แผน คือ จะปรับแผนในการให้สัญญานไฟจราจรบริเวณสี่แยกรัชโยธิน เพื่อให้เป็นจังหวะรองรับจำนวนรถที่อาจจะติดขัด ,จะห้ามรถไม่ให้เลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกรัชโยธิน และ อาจจะจัดรูปแบบเดินรถทางเดียว เบื้องต้นจะแก้ปัญหาโดยการใช้รูปแบบแรกก่อน จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์หากประชาชนไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว หรือเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้จะดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย

...