ประชุมสุดยอด

ปักกิ่ง 30 พ.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเผยว่า จีนต้องการทำงานร่วมกับประเทศอาหรับในการแก้ไขประเด็นร้อนด้วยหนทางที่จะคงไว้ซึ่งความเป็นธรรม ความยุติธรรม และจะนำมาซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพระยะยาว สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 10 ของฟอรัมความร่วมมือจีน-ประเทศอาหรับที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ โดยมีประมุขจากบาห์เรน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตูนิเซียเข้าร่วม และมีรัฐมนตรีต่างประเทศจากสมาชิกสันนิบาตอาหรับอีกหลายประเทศ ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า สงครามในกาซาไม่สามารถดำเนินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความยุติธรรมไม่สามารถขาดหายไปอย่างถาวร และทางออก 2 รัฐจะต้องได้รับการปกป้องไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับระบุว่า การให้เกียรติกันคือหนทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ในโลกที่ปั่นป่วน ความเป็นธรรมและความยุติธรรมคือรากฐานของความมั่นคงที่ยั่งยืน ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า จีนจะเดินหน้าสนับสนุนการบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรม และการฟื้นฟูหลังสงครามในกาซา โดยรับปากจะจัดสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินอีก 500 ล้านหยวน (ราว 2,590 ล้านบาท) และจะบริจาคเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 110 ล้านบาท) ให้แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้หรืออันวา (UNRWA) เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่กาซา ผู้นำจีนกล่าวด้วยว่า จีนจะร่วมมือกับประเทศอาหรับต่อไปในหลายด้าน เช่น แหล่งน้ำมันและก๊าซ การลงทุนขนาดใหญ่ จะสนับสนุนให้บริษัทพลังงานและสถาบันการเงินของจีนมีส่วนร่วมในโครงการพลังงานหมุนเวียนที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันมากกว่า 3 ล้านกิโลวัตต์ในประเทศอาหรับ และจะจัดการประชุมสุดยอดจีน-อาหรับครั้งที่ 2 ในปี […]

โซล 27 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีน และประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้ย้ำว่า ทั้ง 3 ประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกันเรื่องปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศแถลงเป็นภาษาของประเทศตนเอง หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดไตรภาคีครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวว่า ขอย้ำว่าการปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือและเสถียรภาพของคาบสมุทรเกาหลีคือผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 3 ประเทศ นอกจากนี้เขายังได้ขอให้ผู้นำจีนและเกาหลีใต้สานต่อการให้ความสนับสนุนเพื่อให้มีทางออกโดยทันทีในประเด็นชาวญี่ปุ่นถูกเกาหลีเหนือลักพาตัว ส่วนเรื่องรัสเซียรุกรานยูเครน เขาได้ย้ำจุดยืนของญี่ปุ่นที่ว่า การพยายามแต่ฝ่ายเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันโดยใช้กำลัง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดในโลก เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างเด็ดขาด ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวว่า จีนมีความยึดมั่นอยู่เสมอต่อการคงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลีและการส่งเสริมกระบวนการแก้ปัญหาด้วยวิถีทางการเมืองบนคาบสมุทรเกาหลี และหวังด้วยว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะอดกลั้นและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จีนจะกระชับการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจและการค้า จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมภูมิภาคและห่วงโซ่อุปทาน และจะส่งเสริมการฟื้นการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ที่ชะงักไปตั้งแต่การประชุมสุดยอดไตรภาคีครั้งหลังสุดเมื่อปี 2562 ด้านประธานาธิบดียุนกล่าวว่า การปล่อยดาวเทียมที่เกาหลีเหนือประกาศวันนี้เป็นการฝ่าฝืนอย่างชัดเจนต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประชาคมโลกจึงควรตอบโต้อย่างจริงจัง.-814.-สำนักข่าวไทย

โซล 26 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้รับปากในการประชุมสุดยอดทวิภาคีที่เกาหลีใต้ในวันนี้ว่า จะร่วมกันทำให้เกิดผลที่เป็นประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่ายแม้ว่าเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน นายกรัฐมนตรีหลี่และคณะประชุมพร้อมกับประธานาธิบดียุนและคณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หลังจากเดินทางมาถึงกรุงโซลในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวในที่ประชุมว่า จีนขอย้ำเรื่องการเปิดกว้างและการยอมรับโดยไม่แบ่งแยก จีนพยายามแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง เพื่อคงไว้ซึ่งบรรยากาศอันดีต่อความร่วมมือระหว่างกัน นอกจากนี้จีนยังได้ย้ำเรื่องประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย และได้เสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและการบูรณาการผลประโยชน์ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและความรุ่งเรืองร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ควรยั่งยืนต่อไปในระยะยาว ด้านประธานาธิบดียุนกล่าวตอบว่า เกาหลีใต้และจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายร้ายแรงร่วมกันบนเวทีโลก ทั้งสงครามยูเครนและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาสที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจโลกเกิดความไม่แน่นอน อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้และจีนสามารถเอาชนะความยากลำบากหลากหลายตลอด 30 ปีที่ผ่านมา และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาและเติบโตของแต่ละฝ่าย เกาหลีใต้จึงหวังว่าจะสานต่อการกระชับความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศต่อไปท่ามกลางวิกฤตซับซ้อนระดับโลกในเวลานี้ รอยเตอร์ระบุว่า ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศตึงเครียดนับตั้งแต่เกาหลีใต้ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศในบรรยากาศชั้นสูงหรือ ธาด (THAAD) ของสหรัฐในปี 2560 เพื่อรับมือกับภัยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ.-814.-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ร้องขอให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครน ที่สวิตเซอร์แลนด์จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เดินทางถึงกรุงโซลของเกาหลีใต้แล้วในวันนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดไตรภาคีจีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี

กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า นายโช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศจะเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์หน้าระหว่างวันจันทร์ถึงวันอังคารตามคำเชิญชองนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน

มะนิลา 18 เม.ย.- ฟิลิปปินส์ระบุว่า การตัดสินใจกระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นและสหรัฐในการประชุมสุดยอดเมื่อไม่นานมานี้คือทางเลือกอธิปไตยเพื่อประเทศ ถือเป็นการตอบโต้จีนที่แสดงความเห็นคัดค้านการประชุมสุดยอดไตรภาคีดังกล่าว กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า การประชุมสุดยอดไตรภาคีจะส่งเสริมสันติภาพและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก จึงไม่ควรถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่ในขณะเดียวกันการที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ทางทะเลอย่างเกินเลยและมีพฤติกรรมก้าวร้าวกำลังบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ต้นตอของความตึงเครียดในภูมิภาคนี้เป็นสิ่งที่ทุกประเทศในภูมิภาคทราบดี จีนควรพิจารณาทบทวนสิ่งที่ได้กระทำในทะเลจีนใต้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อน และผู้นำทั้ง 3 คนได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการเคลื่อนไหวของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า จีนคัดค้านการรวมกลุ่มเฉพาะในภูมิภาค และการกระทำใด ๆ ที่จะทำให้เกิดและเพิ่มความตึงเครียด โฆษกจีนกล่าวหาสหรัฐว่า ติดอยู่กับความคิดสมัยสงครามเย็นเรื่องการข่มขู่คู่แข่งด้วยการจับกลุ่มกับพันธมิตรในภูมิภาค ด้านรัฐบาลฟิลิปปินส์ตอบโต้ถ้อยแถลงของจีนว่า การอ้างถึงสงครามเย็นอย่างเลื่อนลอยได้ทำให้สถานการณ์เลยเถิดและบิดเบือนจุดประสงค์เชิงสันติของความร่วมมือไตรภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

เมลเบิร์น 4 มี.ค.- ออสเตรเลียระบุว่า ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและอาเซียนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามด้านกลาโหมร้ายแรง และเพิ่มเงินสนับสนุนโครงการความมั่นคงทางทะเลกับสมาชิกอาเซียน นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียกล่าวในวันแรกของการประชุมสุดยอดออสเตรเลีย-อาเซียน สมัยพิเศษที่นครเมลเบิร์นในวันนี้ว่า ทุกคนกำลังเผชิญกับการกระทำที่สั่นคลอนเสถียรภาพ ยั่วยุ และคุกคาม ซึ่งครอบคลุมถึงพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทางทะเลและทางอากาศ สิ่งที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ช่องแคบไต้หวัน อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง และทั่วอินโด-แปซิฟิกล้วนมีผลกระทบต่อทุกคน นางหว่องซึ่งไม่ได้ระบุชื่อจีนอย่างชัดเจนประกาศว่า ออสเตรเลียได้จัดสรรเงิน 286.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 6,690 ล้านบาท) สนับสนุนโครงการของอาเซียนในหลายด้าน รวมถึงความมั่นคงทางทะเล ในช่วงที่จีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่องการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ทับซ้อนกับหลายประเทศในอาเซียน ด้านนายเอ็นรีเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวในการประชุมเดียวกันว่า ทะเลจีนใต้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และมีอนาคตที่มีความหวัง ตราบใดที่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคยืนหยัดว่าจะใช้ความร่วมมือมากกว่าการเผชิญหน้า ฟิลิปปินส์และออสเตรเลียได้ลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศร่วมกันในทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566.-814.-สำนักข่าวไทย

เมลเบิร์น 4 มี.ค.- ออสเตรเลียคุมเข้มความปลอดภัยในนครเมลเบิร์นซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดออสเตรเลีย – อาเซียน สมัยพิเศษ การประชุมจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการในนครเมลเบิร์นระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม โดยมีนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพ นับเป็นการรวมตัวของบรรดานักการทูตครั้งใหญ่สุดอีกครั้งหนึ่งในออสเตรเลีย ผู้นำจากประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนกำลังทยอยเดินทางมาถึง จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือการกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงให้แนบแน่นยิ่งขึ้น และในปีนี้ยังเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับอาเซียนด้วย ขณะเดียวกันมีกลุ่มผู้ประท้วงชาวเมียนมาและชาวกัมพูชามาชุมนุมหน้าสถานที่จัดการประชุม เรียกร้องให้อาเซียนและออสเตรเลียรับรองรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา ซึ่งเป็นรัฐบาลลี้ภัยตั้งขึ้นโดยกลุ่ม ส.ส.เมียนมาที่ถูกปลดเมื่อกองทัพเมียนมารัฐประหารในปี 2564 เรียกร้องให้สนับสนุนชาวเมียนมาที่ทนทุกข์กับระบอบเผด็จการมานานกว่า 70 ปี และขอให้ลงมือดำเนินการ อย่ารอแผนฉันทามติ 5 ประการที่เมียนมาตกลงกับอาเซียน เพราะไร้ประโยชน์.-816(814).-สำนักข่าวไทย