น้ำท่วม

ปอร์โตแปรงซ์ 7 มิ.ย.- เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.9 ทางตะวันตกของเฮติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน บาดเจ็บ 36 คน และคาดว่ายังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกจำนวนหนึ่ง สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐหรือยูเอสจีเอส (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลังเวลา 05:00 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับหลังเวลา 16:00 น.วันเดียวกันตามเวลาในไทย ศูนย์กลางห่างจากชายฝั่งจังหวัดกร็องด็องส์เพียง 9 กิโลเมตร จังหวัดนี้อยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปทางตะวันตก 296 กิโลเมตร สภากาชาดเฮติแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากความเสียหาย ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในย่านยากจน ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนเผยว่า ผู้เสียชีวิต 3 ใน 4 คนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันที่บ้านพังถล่มเพราะแผ่นดินไหว โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็นแถลงว่า ยูเอ็นเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียที่เกิดจากแผ่นดินไหวในเฮติ โดยพร้อมจะร่วมกับเฮติและหุ้นส่วนต่าง ๆ ช่วยบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมดินถล่มที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะนี้โครงการอาหารโลกพร้อมจัดส่งอาหาร 350,000 ชุดและความช่วยเหลือด้านอาหารอื่น ๆ ให้แก่ผู้ประสบภัย แต่การบรรเทาทุกข์ติดขัดเรื่องความมั่นคงและสภาพถนนเสียหาย ซึ่งหมายถึงปัญหาแก๊งอาชญากรก่อความรุนแรงในเฮติ แผ่นดินไหวเมื่อวานนี้เกิดขึ้นหลังจากเฮติเพิ่งเผชิญพายุใหญ่หลายลูก คร่าชีวิตคนไปแล้ว 51 คน สูญหาย 18 […]

เคียฟ 6 มิ.ย.- ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวหากันว่า ทำให้เขื่อนใหญ่ทางตอนใต้ของยูเครนเสียหายบางส่วน ด้านยูเครนเตือนประชาชนท้ายเขื่อนให้อพยพเพราะเสี่ยงถูกน้ำท่วม กองบัญชาการภาคใต้ของกองทัพยูเครนแถลงวันนี้ว่า เขื่อนโนวา คาคอฟวา ที่เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในแคว้นเคอร์ซอนส่วนที่อยู่ในความยึดครองของรัสเซีย ถูกกองกำลังรัสเซียระเบิดเสียหาย ด้านนายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนทวีตผ่านทวิตเตอร์ประณามว่า รัสเซียทำลายเขื่อนนี้ เสี่ยงทำให้เกิดภัยพิบัติทางเทคนิคครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป และทำให้ชีวิตพลเรือนจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามชั่วร้าย หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายรายใหญ่ที่สุดของคริสต์ศตวรรษที่ 21 คือ ขับไล่รัสเซียออกไปจากยูเครน ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนในส่วนที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครนประกาศผ่านเทเลแกรมเมื่อเวลา 06:45 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 10:45 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำจะสูงถึงระดับวิกฤตภายใน 5 ชั่วโมง และได้เริ่มอพยพคนที่อยู่ใกล้แคว้นคาคอฟวาแล้ว ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียอ้างสำนักงานเหตุฉุกเฉินว่า ชุมชนในพื้นที่ประมาณ 80 แห่งน่าจะได้รับผลกระทบจากการที่เขื่อนเสียหาย ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่อยู่ใกล้เคียงยังไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด ด้านนายกเทศมนตรีเมืองโนวา คาคอฟวาที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียเผยว่า เขื่อนตกเป็นเป้าโจมตีหลายครั้งตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้วาล์วประตูเขื่อนเสียหาย จนน้ำทะลักออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เขื่อนโนวา คาคอฟวา สร้างขึ้นกั้นแม่น้ำดนิโปรตั้งแต่ปี 2499 ในสมัยสหภาพโซเวียต โครงสร้างบางส่วนเป็นดิน บางส่วนเป็นคอนกรีต ถูกรัสเซียยึดตั้งแต่ช่วงต้นสงครามที่เริ่มเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ผันน้ำส่วนใหญ่ให้แก่คาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557.-สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า เกิดฝนตกอย่างหนักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศและทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย สูญหาย 2 รายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน โดยทางการญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนภัยให้ประชาชนหลายพันคนให้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย

ลอสแอนเจลิส 25 พ.ค.- ไต้ฝุ่นมาวาร์ (Mawar) กำลังเคลื่อนตัวออกจากเกาะกวม ที่เป็นดินแดนของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิกในวันนี้ หลังจากสร้างความเสียหายหนัก ทำให้ไฟฟ้าดับและน้ำท่วม สำนักงานผู้ว่าการดินแดนกวมแถลงว่า ผู้ว่าการและกลุ่มป้องกันภัยพลเรือนจะออกไปสำรวจความเสียหายและถนนที่ถูกกีดขวางเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐแจ้งว่า ไต้ฝุ่นทำให้เกิดลมความเร็วสูงสุดถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคลื่นสูงถึง 9 เมตร ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต พนักงานโรงแรมดุสิตธานี กวม รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมความสูง 30 ชั้น มีผู้เข้าพักประมาณ 300 คนเผยว่า ล็อบบี้โรงแรมมีน้ำไหลเข้ามาท่วมสูงประมาณ 1 ฟุต ทั้งที่ได้ทำที่กั้นน้ำบริเวณประตูใหญ่แล้ว เธอได้ยินเสียงกำแพงเขย่าจากลมพายุ ภาพถ่ายในสื่อสังคมออนไลน์เห็นซากความเสียหายเกลื่อนเกาะกวม ต้นไม้ถูกโค่นเสียหาย ยวดยานถูกพัดกระจัดกระจาย หลังคาถูกพัดปลิว การไฟฟ้ากวมแจ้งว่า หลายหมื่นครัวเรือนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันนี้ แต่ยังไม่ถึงขั้นไฟฟ้าดับทั้งดินแดน สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นมาวาร์ที่ทวีกำลังกลับขึ้นมาเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นอีกครั้งกำลังมุ่งหน้าไปยังไต้หวันหรือฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ดี เกาะกวมยังคงอยู่ภายใต้คำเตือนไต้ฝุ่น คลื่นลมในมหาสมุทรแปซิฟิกยังคงแปรปรวนและมีลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนอยู่ในที่พักที่ปลอดภัยไปก่อน ด้านทำเนียบขาวแจ้งว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับทราบรายงานสถานการณ์ที่กวมแล้ว รัฐบาลกลางกำลังประสานงานกับทางการกวมอย่างใกล้ชิดและได้เสนอให้ความช่วยเหลือตามที่ต้องการ.-สำนักข่าวไทย

ชาวเมืองโอนติญเญนต์ ในแคว้นบาเลนเซียของสเปน ออกสำรวจความเสียหาย หลังฝนตกหนักช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรีอิตาลี เตรียมเดินทางกลับก่อนกำหนด หลังร่วมประชุมจี 7 ที่ญี่ปุ่น เพื่อสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ

โรม 20 พ.ค.- นักวิจัยชี้ว่า อุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษที่แคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา ทางตอนเหนือของอิตาลีซึ่งคร่าชีวิตคนไปแล้ว 14 คน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศกำลังรุนแรงขึ้น นักวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการปกป้องทางธรณีอุทกของอิตาลีแถลงข่าวเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ภัยแล้งทวีความรุนแรงเพราะทำให้ดินยิ่งแห้งและแน่นขึ้น ทำให้น้ำซึมผ่านได้น้อยลง ดังนั้นเมื่อมีฝนตกหนักในช่วงเวลาสั้น ๆ ดินจึงไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ น้ำส่วนเกินจึงไหลลงสู่แม่น้ำจนน้ำล้นตลิ่ง  สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนอิตาลีแจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีว่า แม่น้ำในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญามีน้ำล้นตลิ่งมากกว่า 20 สาย ส่งผลให้เกิดดินถล่มตามมาเป็นระลอกถึง 280 แห่ง ประชาชนมากถึง 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และไม่มีไฟฟ้าใช้ 27,000 คน ขณะที่สมาคมการเกษตรแห่งหนึ่งเผยว่า มีไร่นามากกว่า 5,000 แห่งจมน้ำ รวมถึงพื้นที่ที่เป็นแหล่งปลูกผลไม้ ข้าวโพดและธัญพืช และมีรายงานปศุสัตว์จมน้ำตาย นักสิ่งแวดล้อมบางคนตำหนิรัฐบาลอิตาลีว่า ขาดการเตรียมพร้อม ทั้งที่วิกฤตสภาพภูมิอากาศมีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ อิตาลีมีสภาพภูมิประเทศที่เสี่ยงภัยอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายมีความรุนแรงขึ้นและเกิดถี่ขึ้น  โดยเสี่ยงเกิดดินถล่มและเสี่ยงได้รับผลกระทบจากพายุรุนแรงเนื่องจากล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียน.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมหนักแคว้นเอมิเลีย โรมานญา ทางตอนเหนือของอิตาลี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน เร่งอพยพประชาชนหลายพันคน

เวลลิงตัน 10 พ.ค.- ตำรวจนิวซีแลนด์แจ้งวันนี้ว่า พบศพวัยรุ่นชายที่สูญหายไประหว่างไปเที่ยวถ้ำกับโรงเรียน ขณะที่สังคมพากันตั้งคำถามว่าเหตุใดครูจึงพาเด็กไปทัศนศึกษาในพื้นที่ที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เหตุเกิดขณะที่วัยรุ่นชายรายนี้และเพื่อนในชั้นเรียนไปทัศนศึกษาที่ถ้ำแอบบี ทางเหนือของเมืองออกแลนด์เมื่อวันอังคาร แล้วมีฝนตกหนัก ก่อนที่เขาจะสูญหายไป ตำรวจได้ค้นหาท่ามกลางสภาพอากาศไม่ดี จนกระทั่งพบศพในเย็นวันเดียวกัน ส่วนในวันนี้มีคนนำดอกไม้มาวางไว้อาลัยหน้าถ้ำที่ตำรวจยังคงปิดพื้นที่อยู่ นายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ของนิวซีแลนด์กล่าวแสดงความเสียใจว่า เป็นฝันร้ายของผู้ปกครองทุกคนที่ส่งลูกไปโรงเรียนในตอนเช้า แล้วลูกไม่ได้กลับมาอย่างปลอดภัยในตอนเย็น สังคมนิวซีแลนด์ตั้งคำถามว่า เหตุใดครู 2 คนของโรงเรียนมัธยมชายวังกาเรจึงพานักเรียนวัย 15-16 ปี จำนวน 14 คนไปทัศนศึกษาในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน วันที่เกิดเหตุมีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 5 นิ้ว และเกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ครูใหญ่ของโรงเรียนกล่าวในวันนี้ว่า โรงเรียนและชุมชนรู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียเด็กผู้เป็นที่รักและล้ำค่า เธอตระหนักดีว่าทุกคนมีคำถาม แต่เธอยังไม่สามารถให้คำตอบใด ๆ ได้ในเวลานี้ เนื่องจากต้องรอให้ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ด้านตำรวจไม่ขอให้ข้อมูลว่าสันนิษฐานว่าเกิดอะไรขึ้นภายในถ้ำ และขอให้สื่อมวลชนงดการคาดเดาไปเอง.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์น้ำท่วม-ดินถล่ม ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของรวันดา ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ถนนหลายสายถูกตัดขาด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 127 คน