เผยสหรัฐจะคว่ำบาตรธนาคารของทางการเมียนมาครั้งใหม่
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวและสื่อในไทยว่า สหรัฐมีแผนการจะใช้มาตรการจำกัดครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงทางการเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวและสื่อในไทยว่า สหรัฐมีแผนการจะใช้มาตรการจำกัดครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงทางการเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา
วอชิงตัน 2 พ.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย อันเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน แต่เตือนว่ามีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงและตลาดโลกผันผวนเพราะปัญหาภาคการธนาคารในโลกตะวันตก ไอเอ็มเอฟออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในวันนี้ว่า การที่จีนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจะมีผลสำคัญต่อเอเชียในแง่ของผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคและความต้องการภาคบริการมากกว่าที่จะเกิดจากการลงทุน เอเชียและแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตรมากที่สุดของโลกในปี 2566 โดยเกิดจากการขับเคลื่อนของจีนและอินเดียเป็นหลัก และจะยังคงมีการบริโภคในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนใหญ่ที่สุดต่อไป เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.8 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 4.6 ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากที่ประมาณการในรายงานเดือนตุลาคม 2565 เฉพาะจีนและอินเดียจะขยายตัวร้อยละ 5.2 และ 5.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในปี 2567 ลงร้อยละ 0.2 เหลือร้อยละ 4.4 และเตือนว่าเอเชียเสี่ยงได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อยาวนานกว่าที่คาด ความต้องการของโลกชะลอตัว และผลกระทบจากปัญหาภาคการธนาคารในสหรัฐและยุโรป ไอเอ็มเอฟเตือนว่า แม้เอเชียมีเงินทุนและสภาพคล่องสูงมากพอที่จะรองรับผลกระทบจากตลาดภายนอก แต่ภาคธุรกิจและครัวเรือนที่มีหนี้สินสูงกำลังเสี่ยงมากขึ้นกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเอ็มเอฟยังขอให้ธนาคารกลางในเอเชีย ยกเว้นจีนและญี่ปุ่น คงนโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไปเพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง เพราะอัตราเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อไปส่วนหนึ่งเพราะมีความต้องการบริโภคในประเทศอย่างคึกคัก.-สำนักข่าวไทย
แคลิฟอร์เนีย 1 พ.ค.- หน่วยงานด้านการเงินของสหรัฐเข้ายึดธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ (First Republic Bank) แล้ว และจะให้เจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase) ผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนรายใหญ่เข้าดูแลต่อ บรรษัทคุ้มครองเงินฝากกลางหรือเอฟดีไอซี (FDIC) ของสหรัฐแถลงในวันนี้ว่า เพื่อปกป้องผู้ฝากเงิน เอฟดีไอซีจึงทำข้อตกลงซื้อและครอบครองสินทรัพย์กับธนาคารเจพีมอร์แกนเชสแบงก์ เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ เพื่อรับเอาเงินฝากทั้งหมดและสินทรัพย์เกือบทั้งหมดของธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ ด้านสำนักงานคุ้มครองและนวัตกรรมทางการเงินของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่ตั้งของธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์แถลงว่า เจพีมอร์แกนจะรับเอาเงินฝากทั้งหมด รวมถึงเงินฝากที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง และสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ ธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ถูกยึดหลังจากไม่สามารถเสนอแผนกอบกู้กิจการที่เป็นไปได้ และได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สูญเสียเงินฝากมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 3.42 ล้านล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ทำให้ราคาหุ้นร่วงหนัก แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้เข้าแทรกแซงด้วยการให้เอฟดีไอซีและกระทรวงคลังติดต่อธนาคาร 6 แห่งว่าสนใจจะซื้อสินทรัพย์ของธนาคารหรือไม่ ซึ่งมีทั้งหมด 233,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.97 ล้านล้านบาท) นับจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม.-สำนักข่าวไทย
เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงผู้คนภายในธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกีของสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีก 9 คน ส่วนมือปืนเสียชีวิตหลังยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วอชิงตัน 8 เม.ย.- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะเดินหน้าขยายตัวต่อไป แม้ตลาดมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากภาคการธนาคารเกิดความโกลาหลเมื่อไม่นานมานี้ นางเยลเลนให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า เธอยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต ตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อจะลดลง ส่วนเรื่องที่นักวิเคราะห์เตือนว่า ความไร้เสถียรภาพในภาคการธนาคารอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องแม้ว่าสถานการณ์สงบลงแล้ว เนื่องจากธนาคารได้เข้มงวดมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ครัวเรือนและธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น และเรื่องที่นายเจมส์ ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเจพีมอร์แกนเชสเตือนว่า วิกฤตในขณะนี้ยังไม่จบและจะส่งผลกระทบไปอีกหลายปีนั้น นางเยลเลนยืนยันว่า ขอให้ความมั่นใจว่าเงินฝากทั้งหมดปลอดภัย ทางการพร้อมใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่สำหรับสถาบันการเงินทุกขนาดเพื่อให้ระบบการธนาคารมั่นคงและปลอดภัย การปิดกิจการของธนาคารซิลลิคอนวัลลีย์แบงก์หรือเอสวีบี (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์แบงก์ในสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคม สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่อุตสาหกรรมการธนาคารไปทั่วโลก เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) และกระทรวงคลังสหรัฐต้องเข้ามาแทรกแซงด้วยการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ฝากเงินของทั้ง 2 ธนาคารว่า เงินฝากทั้งหมดได้รับความคุ้มครอง จากปกติที่มีวงเงินคุ้มครองสูงสุด และร่วมกับธนาคารรายใหญ่เพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธนาคารขนาดเล็ก.-สำนักข่าวไทย
ซูริก 2 เม.ย.- สื่อสวิตเซอร์แลนด์รายงานว่า อาจมีคนตกงานมากถึง 36,000 คนทั่วโลก หลังจากยูบีเอส (UBS) วาณิชธนกิจใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ควบรวมกิจการเครดิตสวิส (Credit Suisse) วาณิชธนกิจใหญ่อันดับ 2 หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ซอนน์ท้ากไซทุงรายงานอ้างแหล่งข่าวภายในว่า คณะบริหารของยูบีเอสกำลังพิจารณาเรื่องลดจำนวนคนทำงานลงร้อยละ 20-30 คิดเป็น 25,000-36,000 คน ในจำนวนนี้จะอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์มากถึง 11,000 คน ทั้งนี้ก่อนการควบรวมเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เป็นคนกลางเพื่อเร่งสกัดผลกระทบจากธนาคารล้มในสหรัฐ ยูบีเอสและเครดิตสวิสมีพนักงาน 72,000 คน และ 50,000 คนตามลำดับ ยูบีเอสประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะให้นายแซร์จีโอ แอร์มอตตี กลับมาทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ อีกครั้งเพื่อดูแลความเสี่ยงขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการเครดิตสวิสที่มีปัญหามากมาย และราคาหุ้นดิ่งหนักในวันที่ 15 มีนาคม เพราะนักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นจากเหตุธนาคาร 2 แห่งในสหรัฐต้องปิดกิจการติดต่อกัน.-สำนักข่าวไทย
ประธานของซาอุดีเนชันนัลแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเครดิตสวิส (Credit Suisse) ที่ซาอุดีเนชันนัลแบงก์เคยถือหุ้นใหญ่ ถูกธนาคารยูบีเอส (UBS) เข้าครอบงำกิจการหรือเทคโอเวอร์
สถาบันคุ้มครองเงินฝากของสหรัฐ หรือเอฟดีไอซี (FDIC) เผยว่า ธนาคารเฟิร์สต์ซิติเซนส์ (First Citizens) จะซื้อเงินฝากและสินเชื่อทั้งหมดของธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์ หรือเอสวีบี (SVB) ที่ล้มละลายเมื่อต้นเดือนมีนาคมและถูกสั่งปิดกิจการ
รองโฆษกรัฐบาลเผย 10 ธนาคารพาณิชย์ร่วมมือรัฐบาลตัดวงจรหลอกโอนเงิน ยกเลิกส่ง SMS แบบแนบลิงก์ ถ้าเจอเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ที่เหลือกำลังดำเนินการ
ลอนดอน 23 มี.ค.- ธนาคารกลางของหลายประเทศในยุโรปเตรียมประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในขณะที่ภาคกิจการธนาคารของโลกยังคงปั่นป่วน ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์จะขึ้นดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จะขึ้นร้อยละ 0.50 เท่ากับการขึ้นล่าสุดในเดือนธันวาคมที่ครั้งนั้นทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มสูงว่าจะขึ้นร้อยละ 0.25 หลังจากเมื่อวานนี้มีการเผยแพร่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าเกินความคาดหมาย และจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 11 ติดต่อกันนับจากสิ้นปี 2564 ที่ขณะนั้นอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 0.1 ส่วนธนาคารกลางนอร์เวย์คาดว่าจะขึ้นร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.0 หลังจากขึ้นมาแล้วครั้งที่ 5 ติดต่อกันจนถึงเดือนมกราคม เฟดออกแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า การเข้มงวดนโยบายเพิ่มเติมอาจเป็นเรื่องเหมาะสมเพื่อคงนโยบายการเงินที่จะสามารถกดอัตราเงินเฟ้อลงได้ ขณะที่สถานการณ์ในภาคการธนาคารเมื่อไม่นานมานี้อาจช่วยให้เฟดบรรลุเป้าหมายนี้ได้ เพราะน่าจะทำให้การปล่อยสินเชื่อครัวเรือนและธุรกิจมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น และน่าจะมีผลต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ.-สำนักข่าวไทย
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และส่อนัยว่าจะหยุดการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หลังจากธนาคารในสหรัฐต้องปิดกิจการไป 2 แห่ง เมื่อไม่นานมานี้
ซูริก 20 มี.ค.- หุ้นของยูบีเอส (UBS) วาณิชธนกิจและบริการการเงินข้ามชาติที่เป็นสถาบันการธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลงในการซื้อขายวันนี้ หลังจากเข้าครอบงำกิจการหรือเทคโอเวอร์เครดิตสวิส (Credit Suisse) วาณิชธนกิจและบริการการเงินข้ามชาติสัญชาติเดียวกัน รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า การที่ธนาคารใหญ่ที่สุดของประเทศเทคโอเวอร์ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของประเทศในวงเงิน 3,000 ล้านฟรังก์สวิส (ราว 110,093 ล้านบาท) เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ความโกลาหลทางเศรษฐกิจแพร่กระจายไปทั่วประเทศและนอกประเทศ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงมีความกังวล ทำให้ราคาหุ้นของยูบีเอสร่วงลงมากถึงร้อยละ 12 เมื่อเปิดการซื้อขายในวันนี้ ขณะที่ราคาหุ้นของเครดิตสวิสร่วงลงไปเกือบร้อยละ 64 เมื่อเปิดตลาด โดยเหลือเพียงหุ้นละ 0.68 ฟรังก์สวิส (ราว 24.95 บาท) ต่ำกว่าราคาเมื่อวันศุกร์ที่ปิดที่หุ้นละ 1.86 ฟรังก์สวิส (ราว 68.26 บาท) และต่ำกว่าราคาที่ยูบีเอสเผยว่าผู้ถือหุ้นเครดิตสวิสจะถือในราคาหุ้นละ 0.76 ฟรังก์สวิส (ราว 27.89 บาท) จากที่เคยซื้อขายที่หุ้นละ 12.78 ฟรังก์สวิส (ราว 469 บาท) […]