![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2022/12/16/1077491/1671197500_596146-tnamcot-685x360.jpg)
ดินถล่มในมาเลเซีย ตายเพิ่มเป็น 16 คน
มาเลเซีย 16 ธ.ค. – เหตุดินถล่มบริเวณเป็นพื้นที่กางเต็นท์ในมาเลเซีย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 16 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 17 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังเดินหน้าค้นหา
มาเลเซีย 16 ธ.ค. – เหตุดินถล่มบริเวณเป็นพื้นที่กางเต็นท์ในมาเลเซีย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 16 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 17 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังเดินหน้าค้นหา
กัวลาลัมเปอร์ 16 ธ.ค. – เหตุดินถล่มบริเวณสถานที่ตั้งแคมป์แห่งหนึ่งในรัฐสลังงอร์ของมาเลเซียเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 12 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายใต้กองดินถล่มอีกกว่า 20 คน สำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยของรัฐสลังงอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า เกิดเหตุดินถล่มสถานที่ตั้งแคมป์ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบาตังกาลีนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ในรัฐสลังงอร์ เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 02.00 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 12 คน ผู้บาดเจ็บ 8 คนที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และยังคงมีผู้สูญหายอีก 22 คน ขณะที่หัวหน้าตำรวจของเขตบาตังกาลีเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย และมีเด็กอายุ 4 ขวบรวมอยู่ด้วย ขณะนี้ เขาได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเกือบ 400 นายลงพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ชีวิตผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ พญ. ซาลิฮา มุสตาฟา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวว่า ในบรรดาผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่ถูกส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาล มีหญิงตั้งครรภ์ 1 คนรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บตั้งแต่บาดแผลเล็กน้อยไปจนถึงกระดูกสันหลังหัก ด้านนายนิก นาซมี นิก อาหมัด รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ […]
กัวลาลัมเปอร์ 16 ธ.ค. – เกิดเหตุดินถล่มบริเวณสถานที่ตั้งแคมป์แห่งหนึ่งในรัฐสลังงอร์ของมาเลเซียเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และผู้บาดเจ็บ 7 คน สำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยของรัฐสลังงอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า เกิดเหตุดินถล่มสถานที่ตั้งแคมป์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอกของกรุงกัวลาลัมเปอร์ในรัฐสลังงอร์ เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 02.00 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้ถูกกลบฝังอยู่ใต้กองดินถล่ม 79 คน เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาและช่วยผู้รอดชีวิตได้ 53 คน พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และผู้บาดเจ็บ 7 คน ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงและกู้ภัยของรัฐสลังงอร์ระบุว่า ดินที่ถล่มตกลงมาจากภูเขาสูงราว 30 เมตรเหนือสถานที่ตั้งแคมป์ และปกคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างราว 2.5 ไร่ สถานที่ตั้งแคมป์ดังกล่าวตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ‘เกนติ้ง ไฮแลนด์ส’ (Genting Highlands) ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ภูเขาในย่านชนบทที่เขตบาตังกาลี ทางตอนเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านรีสอร์ตและธรรมชาติที่งดงาม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐสลังงอร์ถือเป็นรัฐที่ร่ำรวยที่สุดของมาเลเซีย และเคยเกิดเหตุดินถล่มมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการถางป่าและการจัดการที่ดิน ขณะนี้ รัฐสลังงอร์กำลังอยู่ในช่วงฤดูฝน […]
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้เกิดดินถล่มฝังกลบรถบัสโดยสาร 1 คัน และยานยนต์อื่นอีก 2 คัน บนทางหลวงทางภาคกลางของโคลอมเบีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 8 คน รวมอยู่ด้วย
โรม 3 ธ.ค.- ผู้เชี่ยวชาญและนักการเมืองในอิตาลีระบุว่า เหตุดินถล่มใหญ่บนเกาะอิสเกียที่มีผู้เสียชีวิต 11 คนเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากเป็นเรื่องของธรณีวิทยาและสภาพอากาศแล้ว ยังเป็นผลจากการก่อสร้างอย่างผิดกฎหมายด้วย คลื่นดินโคลนขนาดใหญ่ไหลท่วมเมืองกาซามิกโชลา แตร์เม หลังจากฝนตกหนักทั่วเกาะอิสเกียที่อยู่นอกชายฝั่งเมืองเนเปิลส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน สตรี 1 คนสูญหาย องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลหรือดับเบิลยูดับเบิลเอฟอิตาเลียระบุว่า เป็นโศกนาฏกรรมที่คาดการณ์ได้ เพราะมีสาเหตุและความรับผิดชอบที่เจาะจง การที่ทางการบริหารจัดการพื้นที่อย่างไร้ความผิดชอบซ้ำซาก และผลที่รุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้กลายเป็นระเบิดเวลาที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การก่อสร้างทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย และการตัดไม้ทำลายป่า ได้ทำให้ดินเสียความสามารถในการดูดซับมวลน้ำขนาดใหญ่ นายเนลโล มูซูเมชี รัฐมนตรีป้องกันภัยพลเรือนของอิตาลียอมรับเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ปัญหาการก่อสร้างผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเป็นประเด็นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงได้อีกต่อไป ขณะที่นายจิลแบร์โต ปิกเก็ตโต รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า เกาะอิสเกียก่อตัวขึ้นหลังจากภูเขาไฟระเบิดและเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 2560 พื้นที่ครึ่งหนึ่งถูกจัดให้มีความเสี่ยงดินถล่มสูงหรือสูงมาก และมีคนมากกว่า 13,000 คนอาศัยอยู่ในเขตความเสี่ยงเหล่านั้น รายงานล่าสุดของสถาบันวิจัยและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอิตาลีระบุว่า ชุมชนชาวอิตาลีมากถึงร้อยละ 93.9 เสี่ยงภัยจากดินถล่ม น้ำท่วม หรือชายฝั่งกัดเซาะ.-สำนักข่าวไทย
บราซิเลีย 1 ธ.ค. – เกิดเหตุดินถล่มทับถนนทางหลวงพิเศษในพื้นที่ทางตอนใต้ของบราซิล เนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และอาจมีผู้สูญหายราว 30-50 คน เจ้าหน้าที่ของรัฐปารานา ทางตอนใต้ของบราซิล ระบุว่า เกิดเหตุดินถล่มรุนแรงบนถนนทางหลวงพิเศษแห่งหนึ่งในรัฐปารานาในขณะที่มีรถยนต์อย่างน้อย 16 คันแล่นอยู่บนถนนและถูกดินถล่มทับ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า เหตุดินถล่มในครั้งนี้เกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ และปฏิบัติการช่วยชีวิตก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ส่วนทางการรัฐปารานา เผยว่า ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มอย่างน้อย 2 คน และคาดว่าอาจมีผู้สูญหายราว 30-50 คน ในขณะเดียวกัน หน่วยฉุกเฉินของรัฐปารานา ระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากเหตุดินถล่มได้ 6 คน ซึ่งรวมถึงนายกเทศมนตรีของเมืองกัวราตูบา ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งที่มีชื่อเสียงในรัฐปารานา โดยที่เขาระบุผ่านคลิปวิดีโอในสื่อโซเชียลมีเดียว่า เขารอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ากลัวมาก เพราะจู่ ๆ ดินบนภูเขาที่อยู่ริมถนนก็ถล่มลงมาใส่รถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา และพัดพารถหายไปกับกองดิน ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของบราซิล (INMET) รายงานว่า อาจเกิดเหตุดินถล่มขึ้นอีกหลายครั้งในบราซิล เนื่องจากได้ประกาศแจ้งเตือนฝนตกหนักในหลายรัฐของบราซิล.-สำนักข่าวไทย
เหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ในพื้นที่ทางเหนือของโคลอมเบีย มีบ้านเรือนพังเสียหายอย่างน้อย 70 หลัง หลุมศพในสุสานท้องถิ่น เสียหายหลายแห่ง
เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ของเวเนซุเอลา หลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย
เจ้าหน้าที่ด้านภัยพิบัติของฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อน “นัลแก” ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ และทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทั่วประเทศนั้น เพิ่มเป็น 150 รายแล้ว ในขณะที่เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจะเกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงอีก
กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์และเมืองที่อยู่รอบ ๆ กำลังเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อน ‘นัลแก’ (Nalgae) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปินส์แล้ว 45 ราย ส่วนใหญ่จากดดินถล่มในหลายจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศ
สำนักงานภัยพิบัติของฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า ยอดผู้เสียขีวิตจากพายุโซนร้อน ‘นัลแก’ (Nalgae) ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายจังหวัดในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 72 ราย
มะนิลา 28 ต.ค. – น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ตอนใต้ของฟิลิปปินส์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังลงพื้นที่ประสบภัยค้นหาผู้รอดชีวิต รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเขตปกครองตนเองบังซาโมโร บนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ เผยว่า เหตุฝนตกหนักที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ‘นัลแก’ (Nalgae) ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดมากินดาเนาบนเกาะมินดาเนา ขณะนี้ เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อค้นหาผู้สูญหาย แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ ส่วนสภาพอากาศของวันนี้มีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือผู้สูญหายเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย