55 โฆษกรัฐบาล เผยผลการศึกษาของซูเปอร์โพล พบประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นและรอคอยเงินดิจิทัลวอลเล็ต
60 “ภูมิธรรม” ย้ำดิจิทัลวอลเล็ต เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทำให้ประเทศที่วิกฤตได้รับการแก้ไข เหน็บคนบอกไม่วิกฤต หากเกิดเหตุการณ์ต้มยำกุ้งอีก ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่แค่วิจารณ์
87 “เผ่าภูมิ” ยอมรับขยับไทม์ไลน์ดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะทำให้เร็วที่สุด ยัน ฃไม่ปรับลดวงเงินกู้ บอกรอความเห็นทางการ จาก ป.ป.ช. ก่อน
42 รัฐสภา 30 ม.ค.- สว.ชำแหละนโยบายประชานิยม คิดแค่สร้างวาทะกรรม ให้ได้คะแนนเสียง หากทำไม่ได้หลอกลวงประชาชนหรือไม่ สงสัยแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พรรคการเมืองไหนได้ประโยชน์
48 นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ ระบุสิ่งที่รัฐบาลทำจะเป็นโอกาสที่ดีให้คนไทยในอนาคต บอกหากดิจิทัลวอลเล็ตเกิด อุตสาหกรรมเดินหน้า เงินในกระเป๋าประชาชนเพิ่ม
51 กรุงเทพฯ 22 ม.ค.- “พิชิต” ระบุ คนอ้างเป็น ป.ป.ช. รีบเสนอความเห็นปมดิจิทัลวอลเล็ตมาไม่ถูกจังหวะ ขวางตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร หวั่นเป็นอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน วอนผู้มีอำนาจเหลียวมองปชช.
78 “จุลพันธ์” เผย รัฐบาลยังไม่ได้รับหนังสือผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้แจ้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยัน พร้อมแจงรายละเอียด ชี้รอความเห็น ป.ป.ช. ก่อนนัดประชุม
73 “ภูมิธรรม” วอนทุกฝ่ายใจกว้างให้รัฐบาลเดินหน้าทำดิจิทัลวอลเล็ต ติง ป.ป.ช. อย่าทำเกินหน้าที่ เลิกสงสัย หยุดใช้จินตนาการว่าจะมีทุจริต ชี้ข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. เป็นข้อพึงสังวร ไม่ต้องปฏิบัติตาม
64 “เลขา กกต.” ไม่ขอออกความเห็นฟันถูกผิด แหล่งที่มาเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ตรงปก หลังรายงาน ป.ป.ช. หลุด ชี้ทุกรัฐบาลไม่ทำครบตามนโยบายหาเสียงไว้ บอกมีอำนาจพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย
71 ผู้ตรวจการแผ่นดิน 19 ม.ค.-ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยสาเหตุตรวจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่คืบ เหตุรัฐยังไร้ข้อสรุปดำเนินโครงการ แนะขอขยายเวลาแจงได้
55 โฆษกรัฐบาล ยืนยัน รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกคำแนะนำ ความเห็น ย้ำ ดำเนินการตามความตั้งใจและกฎหมาย มุ่งช่วยเหลือประชาชน และแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งระบบ
69 กรุงเทพฯ 18 ม.ค.-ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุแม้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะมีหรือไม่มีเศรษฐกิจไทยปีนี้โตแน่ร้อยละ 3.2 แต่หากมีสามารถดันเศรษฐกิจเติบโตได้ร้อยละ 4.2-4.5 แนะรัฐใช้วิธีแบ่งงบ 5 แสนล้านบาทเป็น 2 งวดไว้ในปีงบ 67 จำนวน 1.6 แสนล้านบาทช่วยกลุ่มเปาะบาง 16 ล้านคนก่อนที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านบาทใส่ไว้ในงบปี 68 เพื่อกระจ่ายที่เหลือและเริ่มนับอีกที 1 ต.ค.67 ในงบปี 68 แทน ชี้เศรษฐกิจไทยผลกระทบเกิดจากปัจจัยภายนอกทั้งสิ้น
