ช่วยเหลือ

วอชิงตัน 2 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศมาตรการช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครนรอบใหม่มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,060 ล้านบาท) โดยมีเครื่องยิงจรวดล้ำสมัยรวมอยู่ด้วย ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวระหว่างประกาศมาตรการนี้ว่า สหรัฐจะเคียงข้างยูเครน จะจัดส่งอาวุธและอุปกรณ์ให้แก่ยูเครนต่อไปเพื่อใช้ในการปกป้องตนเอง ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า การประกาศมาตรการช่วยหลือรอบใหม่จะทำให้สหรัฐจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนแล้วราว 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 158,088 ล้านบาท) นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยว่า มาตรการช่วยเหลือรอบใหม่จะมีเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ยูเครนสามารถโจมตีเป้าหมายในระยะ 80 กิโลเมตรได้ โดยจะจัดส่งให้ทั้งหมด 4 ชุด พร้อมเครื่องกระสุนเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง นายโคลิน คาห์ล ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่รับผิดชอบด้านนโยบายกล่าวว่า แม้สหรัฐไม่มีเจตนาจะเข้าไปพัวพันความขัดแย้งกับรัสเซียโดยตรง แต่รัสเซียก็ไม่มีสิทธิยับยั้งสิ่งที่สหรัฐส่งไปช่วยเหลือชาวยูเครน เนื่องจากชาวยูเครนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นสงคราม ขณะที่ชาวรัสเซียเป็นฝ่ายเริ่มต้น จึงสามารถยุติสงครามได้ทุกเมื่อที่ต้องการ สหรัฐตระหนักดีถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น แต่มุ่งให้ความสำคัญกับสิ่งที่ชาวยูเครนจำเป็นต้องใช้ในการสู้รบขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 23 พ.ค.- เรือข้ามฟากในฟิลิปปินส์ไฟไหม้ขณะบรรทุกผู้โดยสารมากกว่า 130 คน ในเช้าวันนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน ที่เหลือส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือ และยังมีผู้สูญหายอยู่ 4 คน หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์แจ้งว่า เรือข้ามฟากเอ็มวีเมอร์คราฟต์ 2 เกิดไฟลุกท่วมขณะแล่นใกล้ถึงท่าเรือในเมืองเรียล จังหวัดเกซอน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ บนเรือมีผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 134 คน ส่วนใหญ่ต้องกระโดดลงน้ำเอาชีวิตรอดและได้รับการช่วยเหลือจากเรือที่แล่นอยู่ในบริเวณนั้น จนถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน และยังสูญหายอยู่ 4 คน เจ้าหน้าที่คาดว่า ต้นเพลิงมาจากห้องเครื่องยนต์ และได้ลากซากเรือมายังฝั่งแล้ว ภาพชุดที่หน่วยยามฝั่งเผยแพร่เห็นภาพเรือไฟลุกท่วมและมีกลุ่มควันดำโขมงพวยพุ่งออกมา ภาพผู้รอดชีวิตบนเปลหามถูกนำตัวไปยังรถพยาบาลฉุกเฉิน และภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามกู้ชีพคนหมดสติ.-สำนักข่าวไทย

เบอร์ลิน 15 พ.ค.- นายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเผยว่า ได้พบสนทนากับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่เยอรมนีในวันนี้ และว่าสหรัฐกำลังจัดส่งยุทโธปกรณ์รวมทั้งความช่วยเหลืออื่น ๆ มาให้ยูเครน นายคูเลบามีกำหนดเข้าร่วมการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกหรือนาโตที่กรุงเบอร์ลินในวันนี้ เพื่อสรุปสถานการณ์ในยูเครน และสิ่งที่นาโตสามารถเดินหน้าช่วยเหลือยูเครนที่กำลังสู้รบกับกองกำลังรัสเซียเข้าสู่สัปดาห์ที่ 12 แล้ว เขาทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า เห็นพ้องกับนายบลิงเคนเรื่องจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างหลักประกันว่าอาหารส่งออกของยูเครนจะไปถึงผู้บริโภคในเอเชียและแอฟริกา ต้องขอขอบคุณนายบลิงเคนและสหรัฐที่แสดงความเป็นผู้นำและให้การช่วยเหลือยูเครนอย่างแน่วแน่ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายบลิงเคนและนายคูเลบาหารือกันเรื่องผลกระทบจากการที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ หนึ่งในนั้นคือ ความมั่นคงด้านอาหารโลก นายบลิงเคนยังได้แจกแจงรายละเอียดเรื่องความช่วยเหลือด้านความมั่นคงล่าสุดที่สหรัฐจะใช้สร้างเสริมการปกป้องประเทศให้แก่ยูเครนด้วย.-สำนักข่าวไทย

โซล 11 พ.ค.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า แผนการของประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ที่จะเสนอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้แก่เกาหลีเหนือ แลกกับการปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี อาจเผชิญความท้าทาย ขณะที่มีสัญญาณว่าเกาหลีเหนือเตรียมทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งเมื่อวานนี้ว่า จะใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จูงใจเกาหลีเหนือ แต่ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดว่า จะจูงใจเกาหลีเหนือให้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาได้อย่างไร โดยกล่าวเพียงว่า สถานการณ์ความมั่นคงขณะนี้ตึงเครียด เพราะเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐและเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบในเดือนนี้เป็นอย่างเร็วที่สุด หลังจากฉีกประกาศพักการทดสอบขีปนาวุธที่ประกาศเองในปี 2561 ด้วยการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ และจะเป็นการทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกหลังจากทดลองครั้งหลังสุดในปี 2560 ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในกรุงโซลให้ความเห็นว่า สุนทรพจน์ของผู้นำใหม่เกาหลีใต้มีความประนีประนอม แต่เกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมรับการอ้างเหตุผลว่า เกาหลีใต้จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ หากเกาหลีเหนือยอมปลดนิวเคลียร์ เพราะเท่ากับเป็นการไม่ยอมรับระบอบของตนเอง ด้านอาจารย์มหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซลตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีลี มยองบักของเกาหลีใต้เคยยื่นข้อเสนอนี้ในปี 2550 ด้วย “วิสัยทัศน์ 3000” เสนอช่วยให้เกาหลีเหนือมีรายได้ต่อหัวประชากร 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 104,000 บาท) ภายใน 10 ปี หากละทิ้งโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมทั้งเปิดประเทศให้แก่โลกภายนอก แต่ถูกเกาหลีเหนือบอกปัดโดยมองว่าเป็นแผนหวังล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย