นิวยอร์ก 14 พ.ค.- สภาพอากาศแปรปรวนจากภัยโลกร้อนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทวีปอเมริกาเหนือ โดยที่แคนาดาได้เกิดไฟป่าถี่ขึ้นแม้ยังไม่เข้าฤดูร้อน ขณะที่เม็กซิโกเกิดคลื่นความร้อนรุนแรง และสหรัฐยังเกิดพายุทอร์นาโดเพิ่มขึ้น ที่รัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐ พายุทอร์นาโดลูกหนี่งได้ทำลายอาคารบ้านเรือน หอบเอาเศษซากต่างๆขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ผู้คนในเมืองเวเนเชียต้องหลบเข้าหาที่กำบังจากอันตรายของพายุทอร์นาโดที่สร้างความปั่นป่วนในพื้นที่อยู่ราว 40 นาที เป็นหนึ่งในทอร์นาโดหลายร้อยลูกที่เกิดขึ้นในสหรัฐในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายรัฐโดยเฉพาะทางตอนกลางของประเทศต้องประกาศเตือนภัยทอร์นาโดรวมแล้วกว่า 600 ครั้ง ส่วนแคนาดาเพื่อนบ้านทางเหนือของสหรัฐ ต้องเผชิญกับไฟป่าซี่งเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติก่อนจะถึงฤดูร้อนในหลายพื้นที่ของ 5 รัฐทางตะวันตกของประเทศ โดยเฉพาะเมืองฟอร์ต เนลสัน ในรัฐบริติชโคลัมเบียยังคงเป็นพื้นที่ภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุด ไฟป่าทำลายพื้นที่ป่าเขาไปรวมแล้วกว่า 62,000 ไร่ กระแสลมแรงและอากาศที่ร้อนแห้งทำให้ไฟลุกโหมขยายวงออกไป รัฐบาลแคนาดายอมรับว่า สภาพอากาศเช่นนี้จะทำให้ไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำในฤดูร้อนกลายเป็นวิกฤติหนักได้ ด้านเม็กซิโกถูกคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ วัดอุณหภูมิได้สูงสุด 45.1 องศาเซลเซียส ครัวเรือนพากันเปิดเครื่องปรับอากาศจนการใช้ไฟฟ้าเกินขีดจำกัด ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างนานหลายชั่วโมง ผู้คนต้องหาทางดับร้อนด้วยวิธีต่าง ๆ ขณะที่ทางการสั่งงดการเรียนการสอนในเมืองที่มีอุณหภูมิสูง นอกจากนี้เม็กซิโกยังประสบกับภัยแล้งและขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงด้วย.-812(814).-สำนักข่าวไทย