ชงรัฐบาลเปิดประชุมสภาฯ ผนึกพลัง สส.-สว. ตอบโต้กัมพูชา

รัฐสภา 8 มิ.ย. – วุฒิสภาออกโรงชงรัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภา ผนึกพลัง สส.-สว. ตอบโต้กัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภาออกแถลงการณ์วุฒิสภา ขอให้คณะรัฐมนตรีเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2568 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเป็นไปในทิศทางที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง แต่ข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนตามการให้สัมภาษณ์ของฝ่ายบริหารกลับยังไม่มีความชัดเจนถึงสาเหตุของปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ อันก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศ และการรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยเฉพาะกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีกองกำลังติดอาวุธของกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นระยะทางถึง 200 เมตร พร้อมทั้งขุดคูในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยยึดถือว่าเป็นอาณาเขตของประเทศไทย เมื่อพิจารณาถึงหน้าที่ของรัฐ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 5 มาตรา 52 วรรคหนึ่ง ว่า “รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน” แล้ว วุฒิสภาในฐานะที่เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และมีสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยเหนือผืนแผ่นดินไทย วุฒิสภาตระหนักถึงแนวทางในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทโดยสันติวิธี แต่ทั้งนี้ต้องยืนอยู่บนหลักการแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจและเท่าเทียมกันในฐานะมิตรประเทศ […]

ปิดด่านช่องจอมวันแรก บรรยากาศเงียบสงบ

สุรินทร์ 8 มิ.ย. – ปิดด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันแรก บรรยากาศเงียบสงบ ด้านกัมพูชาใช้แผงเหล็กกั้นตอบโต้ไทย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหน้าด่านช่องจอม ในพื้นที่บ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ สังเกตเห็นประตูเข้า-ออกด่านช่องจอมล็อกกุญแจ และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังสุรนารี เฝ้าระวังเพื่อไม่ให้กระทบความปลอดภัย และชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และให้ปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีการปะทะบริเวณตามแนวชายแดน ในเวลา 10.00 น. ขณะที่ทหารของกัมพูชา นำแผงเหล็กมาปิดประตูทางฝั่งของกัมพูชา พบว่าทหารกัมพูชาได้เฝ้าระวังเช่นกัน ทั้งนี้ ด่านช่องจอม จะเปิดให้ข้ามแดนเฉพาะวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น. และงดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์.-716-สำนักข่าวไทย

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ลงพื้นที่อุบลฯ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 8 มิ.ย. – “อนุทิน” นั่ง​ ฮ.ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี​ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจทหารแนวหน้า และสร้างขวัญเจ้าหน้าที่แนวหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้น​เฮลิคอปเตอร์​ปักเป้า พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง​ ลงพื้นที่​จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยจุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี​ เพื่อมอบสิ่งของให้ทหารแนวหน้า และ​ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ. กองอาสารักษาดินแดน หรือ​ อส. และหน่วยงานฝ่ายปกครอง​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่​ จากนั้น​จะไปยังหลุมหลบภัย​โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม​ และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ เพื่อให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้​เป็นการลงมาติดตามสถานการณ์ก่อน​ที่จะมีการเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน 7 จังหวัด​ ประกอบด้วย ​จังหวัด​ ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์​ ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้​ ที่จังหวัดอุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสำหรับแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชน และเป็นแนวหลังสนับสนุนการทำงานของทหาร.-319​-สำนักข่าวไทย

Hun Sen in Senate

“ฮุน เซน” เตือนอย่าให้เรื่องชายแดนลามไปเรื่องอื่น

พนมเปญ 8 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เตือนประชาชนอีกครั้งว่า อย่าทำให้ข้อพิพาทชายแดนกับไทยลุกลามไปยังเรื่องอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลุกลามไปเป็นการเกลียดชังทางเชื้อชาติ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนได้โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อคืนวันเสาร์ว่า ได้เห็นนายดวง ชัย ซึ่งเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ยุติการซื้อสินค้าไทย เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้ร้องขอหลายครั้งแล้วว่า อย่ายกระดับข้อพิพาทให้ไปถึงจุดที่ลุกลามไปยังเรื่องอื่น ๆ และจุดชนวนความเกลียดชังทางเชื้อชาติ นายฮุน เซน โพสต์ด้วยว่า กองทัพไทยปิดจุดผ่านแดนปอยเปตเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ดังนั้นไทยต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบทั้งหมดต่อการกระทำดังกล่าว ส่วนชาวกัมพูชาขอให้มีวุฒิภาวะ ใจเย็น และงดการยั่วยุใด ๆ เขาเพียงอยากจะเตือนประชาชนทั้งกัมพูชาและไทยว่า หากสินค้าไทยขาดหายไปจากตลาดกัมพูชา นั่นไม่ใช่เพราะชาวกัมพูชาพร้อมใจกันคว่ำบาตร แต่เป็นผลจากการปิดจุดผ่านแดน เพราะเมื่อประชาชนถูกปิดกั้น สินค้าก็จะถูกปิดกั้นเช่นเดียวกัน ประชาชนชาวไทยควรแก้ปัญหานี้กับรัฐบาลโดยตรง เพราะจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนมากที่สุด ขณะที่ประชาชนชาวกัมพูชาไม่ควรโทษรัฐบาลกัมพูชา เพราะเป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจของไทยที่จะปิดจุดผ่านแดน สถิติการค้าปี 2567 กัมพูชาส่งออกสินค้ามายังไทยมูลค่ามากกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,000 ล้านบาท) ขณะที่ไทยส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชามากกว่า 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 170,450 ล้านบาท).-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำกัมพูชายืนยันจุดยืนไม่ได้ริเริ่มข้อขัดแย้ง แต่ป้องกันตนเอง

พนมเปญ 7 มิ.ย. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าววันนี้ว่า จุดยืนของกัมพูชาคือไม่เริ่มต้นความขัดแย้ง แต่ป้องกันตนเอง ฮุน มาเน็ต กล่าวว่า หลักการชี้นำของกัมพูชาคือ การเคารพกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ กลยุทธ์ที่ยึดมั่นเหล่านี้คือหัวใจสำคัญในการปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมกล่าวเสริมว่ากองทัพของกัมพูชาพร้อมที่จะป้องกันการรุกราน หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ รายงานวันนี้ว่า ฮุน มาเนต ได้กล่าวต่อสาธารณชนที่เมืองรัตนคีรีในวันนี้ว่า  กัมพูชา แสดงความตั้งใจที่จะใช้กลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือ ไอซีเจ ในการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องดินแดนล่าสุด ซึ่งไม่ว่าไอซีเจ จะตัดสินอย่างไร กัมพูชาจะยอมรับ กัมพูชานำเรื่องนี้เสนอให้ไอซีเจ พิจารณาไม่ได้มีเจตนาในการยุยงให้เกิดสงคราม แต่เพื่อแก้ปัญหาและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ฮุน มาเนต ยังเรียกร้องให้ประชาชนทั้งสองประเทศอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลายและเลวร้ายลงกว่าเดิม.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา จบที่ “ศาลโลก” ได้จริงหรือ?

6 มิ.ย. – กัมพูชามุ่งหมายนำข้อพิพาทกับไทยไปยังศาลโลก รายงาน 9 ทันโลก ของฝ่ายข่าวต่างประเทศ วันนี้ พาไปติดตามบทบาทหน้าที่ของศาลโลก และเงื่อนปมต่างๆ ที่เกี่ยวกับความขัดแย้งตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กป้อม” ฟาดแรง อย่าอ่อนข้อบนเวทีอธิปไตย

กทม. 6 มิ.ย.-“บิ๊กป้อม” ฟาดแรง อย่าอ่อนข้อบนเวทีอธิปไตย เกมการเมืองต้องเดินอย่างรู้ทัน​ แสดงจุดยืนหนักแน่น ไทยต้องตอบโต้กรณีกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยอย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่ประนีประนอม​ พร้อมให้กำลังใจทหารแนวหน้า เตือนอย่าให้ใครตีความอดทนเป็นความอ่อนแอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา พร้อมสะท้อนประสบการณ์ตลอดหลายทศวรรษที่เคยปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน โดยย้ำว่าความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง​ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเด็ดขาด ไม่ยอมให้การรุกล้ำอธิปไตยถูกมองข้าม และให้ความสำคัญกับมาตรการตอบโต้ที่สมเหตุสมผล ทั้งด้านการทูต เศรษฐกิจ กฎหมาย และศักยภาพทางทหาร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไทยยึดหลักสันติวิธี ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่หากอีกฝ่ายไม่มีความจริงใจ ไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ กลับปลุกปั่น ป้ายสี และยกระดับปัญหาไปสู่เวทีโลก ไทยก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือในทุกมิติ เพราะการประนีประนอมแบบไม่ลึกซึ้งจะยิ่งทำให้คู่เจรจาไม่เกรงใจและไม่เกรงกลัว พล.อ.ประวิตร​ ย้ำว่ากติกาสากลมีไว้ใช้กับ “สุภาพบุรุษ” และเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเจรจาด้วยความจริงใจ ก็ต้องเตรียมมาตรการเชิงรุกที่สร้างแต้มต่อให้ฝ่ายไทยได้เปรียบ ไม่หลงกล ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ พร้อมเรียกร้องให้มีการสื่อสารกับประชาชนและมิตรประเทศอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในเวทีระหว่างประเทศ พล.อ.ประวิตร​ ขอส่งสารไปถึงกำลังพลในพื้นที่ชายแดน โดยขอชื่นชมกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ […]

“ภูมิธรรม” ยันหากเกิดการปะทะ มีมาตรการรับมือหมดแล้ว

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ยัน มีมาตรการรับมือหมดแล้ว หากเกิดการปะทะ ไทย – กัมพูชา ขอสื่ออย่านำเสนอคลาดเคลื่อนอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ชี้ อย่าไปขยายประเด็น ยัน ไทยไม่ได้นอบน้อม หรือ ถนอมคำพูด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์มาตรการเบื้องต้นในการรับมือสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า มีหมดแล้ว แต่ขอไม่ชี้แจงในรายละเอียด แต่จะมีข่าวประชาสัมพันธ์จากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่วนเรื่องการปิดด่านมีการพูดในที่ประชุมวันนี้( 6 มิ.ย.) หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า มีการพิจารณาทุกมาตรการ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาวะที่เห็นแล้วว่าควรดำเนินการอย่างไร แต่ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่ามีเส้นไหนที่จะออกมาตรการการปิดด่าน หรือห้ามข้ามชายแดนไปเล่นกาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน นายภูมิธรรม ระบุว่า มีอยู่ในมาตรการแล้ว แต่เชื่อว่าในขณะนี้ไม่สามารถพูดเรื่องเหล่านี้ได้ รอให้เกิดสถานการณ์แต่ละขั้น แล้วเราสามารถหยิบใช้ได้ ซึ่งได้ตกลงในกลไกแล้ว ว่ากองทัพหน้างานเป็นอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศยืนยันหลักแบบไหนในการดำเนินการ ซึ่งวันนี้คุยกันทุกหน่วยงานแล้ว เมื่อถามว่าได้มีการระบุระยะเวลาหรือไม่ภายหลังจากพบกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาให้ถอนกำลังออกไป นายภูมิธรรม ระบุว่า […]

“กมธ.ทหาร สว.” กระตุกนายกฯ​ รักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

รัฐสภา 6 มิ.ย. – “กมธ.ทหาร สว.” เตรียมลงพื้นที่แจกพระเป็นขวัญกำลังใจให้ทหาร ชี้ รัฐบาลไทย ตามหลัง “กัมพูชา” ก่อนอ่านแถลงการณ์ประณาม “เขมร” ไม่จริงใจ เอารัดเอาเปรียบ กระตุกนายกฯ​ รักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำคณะ กมธ. ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเหตุกระทบกระทั่งหรือความตึงเครียดจากการปะทะกันระหว่างกำลังทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวพบว่าเหมือนการดำเนินการของเราจะตามหลังฝ่ายกัมพูชา พลเอกสวัสดิ์ ได้อ่านแถลงการณ์ ว่า จากกรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการทหารรู้สึกไม่สบายใจและรับรู้ถึงความไม่พอใจของประชาชนทั่วไป จึงขอประกาศจุดยืนของคณะกรรมาธิการต่อสถานการณ์แนวชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชน คนไทยผู้รักชาติและฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เปรียบประเทศไทย ขอประณามการกระทำอันไร้ความจริงใจและความพยายามเอารัดเอาเปรียบของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งจากการติดตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้วยความห่วงใยและต่อเนื่อง จึงมีความคิดเห็นดังนี้ รัฐบาลต้องดำเนินการทุกหนทางเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักและควรแสดงความไม่พอใจใน เหตุการณ์ต่างๆที่ฝ่ายกัมพูชากระทำแทนพี่น้องประชาชนคนไทยให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อหาทาง โดยคณะกรรมการสนับสนุนให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและใช้กลไกทวิภาคี และให้ความสำคัญต่อการปกป้องผลประโยชน์ของชาติใน ทุกมิติอีกครั้งติดตามและตรวจสอบความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมขอยกย่องและให้กำลังใจทหารทุกนายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ในความเสียสละ อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ ยึดมั่นในหลักสันติวิธี เพื่อปกป้องอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และขอแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย กัมพูชา […]

“กัณวีร์” ชี้ท่าทียังเบาตอบโต้กัมพูชา ควรใช้สัมพันธ์การฑูต

รัฐสภา​ 6 มิ.ย.- “กัณวีร์” ชี้ ท่าทีรัฐตอบโต้กัมพูชายังเบาไป บอกควรใช้ความสัมพันธ์การฑูตมากกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว​ จี้ วางโรดแมปคุยให้ชัดเจน มองกระแสวิเคราะห์ “ทักษิณ” หลังวันที่ 13 มิ.ย.เป็นไปได้ ทำไทยยังเงียบไม่กล้าตอบโต้ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า ตอนนี้ต้องดูการตอบสนองของทางกัมพูชา เพราะตอนแรกเรารับทราบว่าเขาจะไม่เข้าร่วมการเจรจาในกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ แต่เขาก็เปลี่ยนใจเข้าร่วม แต่จะไม่พูดหรือหารือ เรื่องข้อพิพาทตรงช่องบก เพราะสภาของเขาได้มีการตัดสินใจยื่นฟ้องศาลโลก ด้วยมติ 182 เสียง จึงต้องรู้ว่าทางการไทยจะมีการเตรียมความพร้อม ในการประชุม JBC จะไปพูดอะไรกับเขา และมีการเตรียมความพร้อมในเรื่อง 30 จุดที่เป็นกรณีข้อพิพาทชายแดนไทยมากน้อยแค่ไหน ส่วนทางกัมพูชาจะยอมอ่อนข้อให้ไทยหรือไม่หลังการพูดคุย นายกัณวีร์ กล่าวว่าถ้าดูการจัดการในฝ่ายบริหารและทางสภานิติบัญญัติค่อนข้างจะแรงพอสมควร ซึ่งครั้งนี้น่าแปลกใจ สำหรับตนที่ติดตามงานชายแดนมาโดยตลอด แสดงให้เห็นว่าครั้งนี้กัมพูชาให้ความสำคัญมากๆ เร่งรัดกระบวนการค่อนข้างจะรวดเร็ว แล้วไปถึงศาลโลกโดยทันทีทั้งที่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับไทย และใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ทำให้สถานการณ์ขึ้นจากระดับ 0 ไปถึง 80, 90 […]

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]

1 37 38 39 40 41 114
...