กรมราชทัณฑ์จับมือ สปสช. ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการเรือนจำกลางบางขวาง
กรมราชทัณฑ์MOU สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการเรือนจำกลางบางขวาง เพิ่มหลักประกันสุขภาพผู้ต้องขัง
กรมราชทัณฑ์MOU สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการเรือนจำกลางบางขวาง เพิ่มหลักประกันสุขภาพผู้ต้องขัง
กรมราชทัณฑ์ พักการลงโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาด และนักโทษที่ผ่านหลักสูตรเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย รวม 674 ราย พร้อมโอนตัวนักโทษเด็ดขาดชาวต่างประเทศ กลับประเทศ 50 ราย
อธิบดีราชทัณฑ์สั่งเรือนจำจังหวัดเลยประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งลาวช่วยติดตามตัวนักโทษที่สะเดาะโซ่ตรวนหลบหนีจาก รพ.เลย 2 วันก่อน เชื่อหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ
กรมราชทัณฑ์ พักโทษและลดวันผู้ต้องโทษ 3,066 ราย ยืนยันเป็นไปตามระเบียบโดยมีการคุมประพฤติ ต้องมารายงานตัว หากฝ่าฝืนหรือผิดเงื่อนไขจะถูกนำตัวมารับโทษหนัก
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงข่าวปล่อยตัวนักโทษ 38,000 คน ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นข่าวเก่าของปี 2558
กรมราชทัณฑ์ มีมติลงโทษข้าราชการ กระทำผิดวินัยรวม 11 ราย ไล่ออก 8 รายและปลดออก 3 ราย พฤติกรรมมิชอบ
กรมราชทัณฑ์ เตรียมปล่อยตัว ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ผู้ต้องขังคดีแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จหลังครบกำหนดโทษจำคุก 1 เดือน วันเสาร์ที่ 21ก.ค.นี้
กรมราชทัณฑ์ จัดโครงการจิตอาสาให้นักโทษร่วมบำเพ็ญประโยชน์ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสร้างจิตสำนึกที่ดีก่อนกลับสู่สังคม
“ชูวิทย์”นอนเรือนจำคืนแรก ไม่เครียด กินข้าว ทำกิจกรรมได้ตามปกติ เช่นเดียวกับอดีตพระก็ปรับตัวได้แล้ว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยัน โทษประหารทำตามกฎหมาย พร้อมงดแสดงความคิดเห็นกรณีเกิดกระแสวิจารณ์ในสังคม
กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นวงกว้าง เมื่อกรมราชทัณฑ์ประหารชีวิตนักโทษด้วยการฉีดสารพิษ หลังทิ้งช่วงไปนานถึง 9 ปี ทำให้เกิดคำถามว่า สังคมไทยยังควรมีบทลงโทษสูงสุดประหารชีวิต สำหรับผู้กระทำผิดร้ายแรงหรือไม่ ยืนยันเสียงแข็งชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษสูงสุดประหารชีวิต โดยนักสิทธิมนุษยชนจากแอมเนสตี้ฯ ไปรวมตัวแต่งชุดดำ ชูป้ายข้อความไว้อาลัย แสดงความผิดหวังและเสียใจกับการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ปล่อยให้มีการประหารเกิดขึ้น ที่หน้าเรือนจำบางขวาง ที่ที่ปลิดชีวิตนักโทษประหารรายล่าสุด หลังบทลงโทษนี้ทิ้งช่วงหายไปนานกว่า 9 ปี พร้อมย้ำว่า ถ้าสังคมไม่ต้องการเห็นความรุนแรง หรือการเข่นฆ่า ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา ผลจากการประหารชีวิตครั้งนี้ หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ เพราะรัฐบาลไทยเคยลงนามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เมื่อเดือนสิงหาคม 2552 หากไทยไม่มีการลงโทษประหารชีวิตภายใน 10 ปี หรือเดือนสิงหาคม 2562 ซึ่งการประหารชีวิตครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ให้ถือว่าไทยได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตไปโดยปริยาย แต่จากลงโทษในครั้งนี้ ทำให้ข้อตกลงในปฏิญญาสากลฯ ต้องตกไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่า ไทยต้องเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ หากจะเป็นประเทศที่ไม่มีการประหารชีวิต เว้นแต่มีการแก้ไขกฎหมายเอง ประเด็นนี้นักกฎหมายมองว่า เป็นเรื่องดีที่จะไม่มีโทษประหาร แม้แต่ประเทศพัฒนามหาอำนาจอย่างอเมริกา หรือจีน ก็ยังคงมีโทษประหาร […]
ราชทัณฑ์เตรียมส่ง “อดีตพระพุทธะอิสระ”ส่องกล้อง ตรวจพบเลือดออกระบบทางเดินอาหาร 7 มิ.ย.อาการปวดหลังดีขึ้น ส่วนศิษย์ทยอยเข้าเยี่ยมอีกครั้ง