ผู้ว่าฯ กกท. เร่งแก้ปัญหา “วาดา” แบนไทย

กรุงเทพฯ 8 ต.ค.-ผู้ว่าฯ กกท. เร่งแก้ปัญหา “วาดา” แบนไทย ทำผิดกฎเรื่องสารต้องห้ามเกี่ยวกับนักกีฬา ให้หน่วยงานตรวจโด๊ป เป็นอิสระจากภาครัฐ


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า องค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก หรือ วาดา ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ว่า ประเทศไทย, อินโดนีเซีย และเกาหลีเหนือ ทำผิดกฎของเรื่องสารต้องห้ามเกี่ยวกับนักกีฬา และมีโอกาสที่จะถูกลงโทษสูง

โดย ประเทศไทย ถูกวาดา ระบุความผิดไว้ว่า ไทยไม่ได้ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ สารกระตุ้นของวาดา ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย ในขณะที่ อินโดนีเซีย และเกาหลีเหนือ ผิดกฎในด้านของการไม่ส่งนักกีฬาเข้ารับการตรวจหาสารกระตุ้น ทั้ง 3 ชาติ จะต้องพบกับบทลงโทษจากวาดา อย่างร้ายแรง ประกอบไปด้วยการห้ามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับชาติ ทวีป และระดับโลก ทุกรายการและคณะกรรมการของทั้ง 3 ประเทศจะถูกสั่งให้ออกจากตำแหน่งคณะกรรมการของ วาดา เป็นการชั่วคราวอย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี หรือจนกว่าจะมีคำสั่งคืนตำแหน่ง


โดยผู้บริหารสหพันธ์กีฬาโลกทุกคนที่เป็นชาวไทย จะถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นอย่างน้อยหรือการแก้ปัญหาจะเเล้วเสร็จ ถึงแม้การแก้ปัญหาแล้วเสร็จเร็ว ก็โดนระงับเป็นระยะเวลา 1 ปี

อย่างไรก็ตาม นักกีฬาของทั้ง 3 ชาติ จะยังสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ แต่หากรายการไหนเป็นการแข่งขันที่มีวาดา และ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เป็นผู้ดูแลการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ ทั้ง 3 ชาติจะไม่สามารถใช้ธงชาติในนามประเทศลงแข่งขันได้ ทั้งนี้ทั้ง 3 ชาติ ยังมีเวลาในการชี้แจงหลังจากได้รับจดหมายประกาศอย่างเป็นทางการจาก วาดา

ในเรื่องนี้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกท. ได้ให้ความร่วมมือทำงานควบคู่กับทางวาดา มาเป็นอย่างดี ทั้งการแก้ไขกฎหมายลูก การอัพเดทสารต้องห้ามใหม่ ๆ ที่ถูกห้าม หรือแม้กระทั่งกระบวนการตรวจสารต้องห้าม ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังติดในประเด็น ที่หน่วยงานตรวจสารต้องห้าม จะต้องแยกออกจาก กกท. หน่วยงานภาครัฐ อย่างเป็นอิสระ


วาดา ต้องการให้หน่วยงานตรวจสารต้องห้ามของไทย คือ ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามมหาวิทยาลัยมหิดล แยกการทำงานออกมาเป็นเอกเทศ ทำงานด้วยความอิสระ ซึ่งในเรื่องนี้ ติดขัดตรงที่ต้องไปแก้ในกฎหมายใหญ่ คือ พระราชบัญญัติ สารต้องห้าม ซึ่งเมื่อทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รอช้า ได้เสนอให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลทราบ ซึ่งทาง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรี ก็ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เสนอใหัคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป ซึ่งเรื่องอยู่ที่กฤษฎีกา กกท. ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว โดยขั้นตอนจากนี้ ก็จะได้ออกมาเป็นพระราชกำหนด ไปก่อน เพื่อนำมาบังคับใช้ก่อน เป็นการเร่งด่วน

“ยอมรับว่า การแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลา โดยหากมองไปที่การเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬานานาชาติของไทย หรือแม้กระทั่งการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ ซึ่งรายการใหญ่ ๆ น่าจะเป็น เอเชียนเกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เดือนกันยายน ก็น่าจะทันเวลา ยกเว้นแค่เพียง โอลิมปิก ฤดูหนาว 2022 เดือนกุมภาพันธ์ ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่อาจจะไม่ทันเวลา เรื่องนี้กกท. ไม่ได้นิ่งเฉย จะเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด” ดร.ก้องศักด กล่าว

ขณะที่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา วาดา ได้ฝากให้เร่งแก้ปัญหา การทำงานของหน่วยงานตรวจสารต้องห้าม ให้เป็นอิสระ จากภาครัฐ มาตลอด โดยได้มีการเตือนมาเป็นระยะ ๆ แล้ว มาครั้งล่าสุด เป็นช่วงโอลิมปิก โตเกียว 2020 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่า การแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลา ซึ่งที่ผ่านมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานบอร์ดกกท. ก็ได้ช่วยดำเนินการให้อย่างเต็มที่แล้ว

“อย่างไรก็ตาม ปัทมา พร้อมจะช่วยประสานงานให้ โดยปัญหาสำคัญอยู่ที่เรื่องการแก้กฎหมาย พระราชบัญญัติสารต้องห้าม ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ส่วนการกระบวนการตรวจสารต้องห้าม เราทำทุกอย่างถูกต้องดีแล้ว” คุณหญิงปัทมา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน