ญี่ปุ่น 19 ก.ค.-เหลืออีกเพียงแค่ 4 วัน มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ถูกเลื่อนจากปีที่แล้วจากปัญหาโควิด-19 จะเปิดฉากขึ้นอย่างอย่างเป็นทางการ วันศุกร์นี้ ไปนับถอยหลัง “เชียร์ไทยสุดใจ โตเกียวเกมส์ 2020”
เหลืออีก 4 วันสำหรับการรอคอยของทัพนักกีฬาจากทั่วโลกที่จะร่วมชิงชัยในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 “โตเกียวเกมส์ 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น จะเปิดฉากขึ้นวันที่ 23 กรกฏาคม–8 สิงหาคมนี้ ร่วมชิงชัย 33 ชนิดกีฬา หลังจากเลื่อนการแข่งขันมาจากปีที่แล้วท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด
แม้ว่าจะมีกระแสต่อต้านการประท้วงของชาวญี่ปุ่นบางส่วนให้ยกเลิกการแข่งขันหรือเลื่อนออกไปจากปัญหาโควิด แต่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี และรัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมเดินหน้าจัดแข่งขันหลังทุ่มงบมหาศาลกว่า 1.35 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 389,699 ล้านบาท เพื่อจัดโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ให้ดีที่สุดในโลก แต่ต้องผิดหวังจากการระบาดของโควิด-19 จึงต้องปรับการจัดมาเป็นรูปแบบ New Normal ห้ามแฟนกีฬาเข้าชมในสนาม นักกีฬาเจ้าหน้าที่ต้องตรวจเข้มโควิด-19 พร้อมติด GPS ติดตามตัวเพื่อไม่ออกนอกเส้นทาง นอกจากหมู่บ้านนักกีฬา สนามซ้อม และสนามแข่งขันเท่านั้น
โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้จะเน้นการเสมอภาคทางเพศ และใช้คำขวัญ “United by Emotion” ความรู้สึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ส่วนสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแข่งขันใช้ศิลปะแบบดั้งเดิม ในรูปแบบตาหมากรุก ที่เรียกลายว่า “อิชิมัตสึ มาโย” สื่อถึงวิถีของคนญี่ปุ่น ด้านสัตว์นำโชคเป็น “มิไรโตะวะ” เป็นตัวแทนวัฒนธรรม และนวัตกรรม เพื่อนำมาพัฒนาเข้าด้วยกันให้เกิดสิ่งใหม่
ส่วนคบเพลิง โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ประจำชาติอย่าง “ดอกซากุระ” ภายใต้แนวคิด “Hope Lights Our Way” เส้นทางแห่งความหวัง ส่วนแท่งถือทำมาจากอลูมิเนียมที่ถูกทิ้งจากซากของบ้านพักชั่วคราวของผู้ประสบภัยพิบัติหลังเกิดแผ่นดินไหวสึนามิเมื่อปี 2011 เหรียญรางวัลทำมาจากการรวบรวมอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กจากมือถือที่ใช้แล้วนำมารีไซเคิลสกัดเอาโลหะมาทำเหรียญรางวัล
สำหรับทัพนักกีฬาไทยที่ได้โควตาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ 13 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย มวยสากล, เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ, เรือพาย, ว่ายน้ำ, กรีฑา, เทควันโด, ยูโด, ยิงปืน-ยิงเป้าบิน, เทเบิลเทนนิส, กอล์ฟ, แบดมินตัน, จักรยาน และขี่ม้า มีจำนวน 41 คน หลังจาก ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักมวยสากลถอนตัวจากอาการบาดเจ็บเอ็นเข่าฉีกล่าสุด โดยไม่มีกีฬายกน้ำหนัก ที่เป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทย หลังจากโดนตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขัน ทำให้ความหวังลุ้นเหรียญทองอยู่ที่กีฬาเทควันโด และมวยสากล
“น้องกัปตัน” อิสรานุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักกีฬายิงปืนวัยเพียง 17 ปี ชาวโคราช กลายเป็นนักกีฬาไทยอายุน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนนักกีฬาอายุมากที่สุดของไทยเป็น เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชาย อายุ 58 ปี และเป็นคนแรกของนักกีฬาไทยที่ได้โควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ขณะที่ทัพนักกีฬาไทยที่ได้เข้าร่วมมากที่สุดเป็นกีฬาแบดมินตันถึง 7 คน
โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้จะไม่เหมือนโอลิมปิกเกมส์ทุกครั้งที่ผ่านทั้งบรรยากาศการแข่งขัน ความกังวลเรื่องโควิด-19 จะต้องพิสูจน์กันอีกครั้งว่าทัพนักกีฬาไทยจะทำผลงานได้เหมือนเมื่อปี 5 ปีที่แล้วหรือไม่ที่คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง อย่าลืมช่วยส่งแรงใจให้กับทัพนักกีฬาไทยในเชียร์ไทยสุดใจ…โตเกียวเกมส์ 2020.-สำนักข่าวไทย
