13 ก.ย.67-มหกรรมมวยไทยเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชา มวยไทยเยาวชนสมัครเล่นชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 “อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” ที่พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 13-19 กันยายน แฟนมวยเข้าชมฟรี โดยรายการดังกล่าวสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกับ สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (AMTAT) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดการแข่งขันเพื่อเป็นการต่อยอดขยายฐานกีฬามวยไทยไปทั่วโลก อีกทั้งยังสนองนโยบายรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการผลักดัน “กีฬามวยไทย” ไปสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ โดยมีนักมวยไทยเยาวชนจากทั่วโลกสมาชิกของ IFMA เข้าร่วมชิงชัยกว่า 100 ชาติ มีนักกีฬาประมาณ 2,000 คน และผู้เกี่ยวข้องอีก 1,500 คน ทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 3,500 คน ซึ่งคาดว่ารายการดังกล่าวจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย 500-1,000 ล้านบาท ในส่วนนักกีฬามวยไทยเยาวชนไทยส่งเข้าร่วมแข่งขัน 26 คน แบ่งเป็นชาย 13 คน หญิง 13 คน
มวยไทยเยาวชนสมัครเล่นชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 “อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” ได้เริ่มต้นการชิงชัยเป็นวันแรกท่ามกลางบรรยากาศสุดคึกคัก ซึ่งบรรดานักกีฬามวยไทยเยาวชนจากทั่วทั้งโลกต่างตบเท้าขึ้นสังเวียนในวันแรกทั้งหมด 153 คู่ ใน 4 เวที และประชันฝีมือแม้ไม้มวยไทยกันอย่างเต็มที่ ในส่วนของนักกีฬามวยไทยเยาวชนทีมชาติไทยประเดิมขึ้นชกทั้งหมด 6 คน
เริ่มต้นที่รุ่น 40 กก.หญิง อายุ 12-13 ปี รอบแรก ลักษณาพร มูสิโก หรือฉายามวยไทย “เพชรมินตรา ท.ย่านดินแดง” ขึ้นสังเวียนดวลกับ มิเชียล่า ดอสตาโลว่า จากเช็ก ซึ่งผลปรากฏว่า ลักษณาพร เดินหน้าออกอาวุธใส่ก่อนเป็นฝ่ายเฉือนชนะคะแนนไปได้ 29-28 ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายเข้าไปพบ คารีน่า เยเซียเนวิช นักกีฬาบุคคลชาติเป็นกลาง (Individual Neutral Athlete – AIN) ต่อไป โดยจะแข่งขันในวันที่ 15 กันยายน
ถัดในรุ่น 48 กก.หญิง อายุ 16-17 ปี รอบแรก ธิดารัตน์ กันย์บุรี เจ้าของฉายามวยไทย “ธิดาพลอย ศิษย์ผู้ใหญ่จุก” ซึ่งมี สแตมป์ แฟร์เท็กซ์ เป็นไอดอล ขึ้นเวทีพบกับ อาลียา ซาลเยว่า จากคีร์กีซสถาน โดยตลอดการชกเป็นทางฝ่ายของธิดารัตน์ที่ออกหมัดสาดแข้งได้จะแจ้งกว่า ก่อนครบ 3 ยกเป็นฝ่ายชนะคะแนน 30-27 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายเข้าไปดวลกับ ออซเก้ โซยุนคู จากตุรกี โดยจะแข่งขันกันในวันที่ 16 กันยายน
หลังการชก “น้องตุ๊กตา” ธิดารัตน์ กันย์บุรี เปิดเผยว่า ยังไม่พอใจฟอร์มของตัวเองเท่าไรนักในวันนี้ เพราะยังมีผิดพลาดนิดหน่อยในจังหวะที่การ์ดตก และต้องกลับไปแก้ไข การชกรอบต่อไปมีความมั่นใจมาก เพราะซ้อมมาดีเก็บตัวมานานพอสมควร สำหรับในรายการนี้ตั้งเป้าอยากผ่านเข้าไปให้ไกลที่สุด อยากได้เหรียญทอง ส่วนอนาคตก็อยากที่จะก้าวไปในระดับต่อไปๆ ให้ไกลได้มากกว่านี้ อยากจะไปในถึงแชมป์โลก
ขณะที่รุ่น 54 กก.ชาย อายุ 16-17 ปี รอบแรก (สาย 32 คน) วิวิธวินท์ เลนทำมี กำปั้นหนุ่มฉายามวยไทย “ฟีโน่ ช.เกตุวีณา” พบกับ กาโล่ กอนซาเลซ รามิเรซ จากเม็กซิโก โดยรูปเกมเป็นทางวิวิธวินท์อาศัยชั้นเชิงมวยไทยที่เหนือกว่า ไล่ต้อนเอาชนะคะแนนไปได้แบบไม่ยาก 30-27 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ โดยจะแข่งขันรอบต่อไปในวันที่ 14 กันยายน
รุ่น 48 กก.ชาย อายุ 16-17 ปี รอบแรก ตัสนิม โคตรภักดี เจ้าของฉายามวยไทย “ดีเซลเล็ก ศ.ศรีทอง” เจอกับ คาร์ราร์ อัล ไบดาห์นี่ จากอิรัก ซึ่งคู่นี้การชกค่อนข้างสูสี และผลัดกันออกอาวุธทำแต้มใส่กัน ก่อนครบ 3 ยกเป็นทางตัสนิมเฉือนชนะคะแนนไป 29-28 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายเข้าไปพบ มิมูร์ ชราเนอร์ นักกีฬาบุคคลชาติเป็นกลาง (Individual Neutral Athlete – AIN) ซึ่งจะชกกันในวันที่ 16 กันยายน
ส่วนในรุ่น 57 กก.หญิง อายุ 16-17 ปี รอบแรก เอวิตรา สอนฤทธิ์ ฉายามวยไทย “ยอดขวัญใจ รร.พญาแล” ขึ้นชกทำผลงานได้อย่างเต็มที่แล้ว ก่อนเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนให้กับ เซตาเรห์ มอร์เชดี้ จากอิหร่าน ด้วยคะแนน 27-30 ทำให้ต้องยุติเส้นทางไว้เพียงแค่รอบแรกอย่างน่าเสียดาย
ปิดท้ายที่รุ่น 60 กก.ชาย อายุ 16-17 ปี รอบแรก โจเดิ้น ดูทอยท์ นักชกหนุ่มที่มีเชื้อสายไทย-เยอรมัน-ฝรั่งเศส ซึ่งมีฉายามวยไทย “โจเดิ้น รร.เมืองพญาแล” ขึ้นสังเวียนเผชิญหน้ากับ เตมูร์ มัคห์มูดอฟ กำปั้นจากอุซเบกิสถาน ซึ่งผลปรากฏว่า โจเดิ้น ดูทอยท์ โดนนักชกอุซเบกิสถานไล่ตะบันร่วงกองกับพื้น และพ่ายอาร์เอสซีในยกที่สอง ทำให้ตกรอบแรกไปอีกคน
สรุปผลงานของนักกีฬามวยไทยเยาวชนทีมชาติไทยในการชิงชัยวันแรก ขึ้นสังเวียนทั้งหมด 6 คน สามารถคว้าชัยชนะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ถึง 4 คน และตกรอบแรกไป 2 คนด้วยกัน