คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวว่า “การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ระดับนานาชาติในศึก “ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024″ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศฯ และฝ่ายจัดการแข่งขันทำงานอย่างหนักทุกๆ ฝ่ายร่วมแรงร่วมใจมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) เป็นอย่างดี”
“ที่สำคัญที่สุดก็คือแฟนๆ แบดมินตันชาวไทยที่เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้นักกีฬาแบดมินตันไทยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านเข้าไปถึงในรอบรองชนะเลิศได้มากถึง 4 ประเภท จากหญิงเดี่ยว “เม” ศุภนิดา เกตุทอง , “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ,หญิงคู่ “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด , ชายคู่ “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล, “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย”กิตตินุพงษ์ เกตุเรน, คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เชื่อมั่นว่าหากมีกำลังใจที่ดีจำนวนมากจากแฟนๆ ชาวไทยจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับนักกีฬาแบดมินตันไทยทำผลงานได้ดีเหมือนกับในปี 2018 ที่กวาดแชมป์มาครองได้มากถึง 3 ประเภท”
โดยประเภทหญิงคู่ สองพี่น้อง “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด แชมป์เก่า ที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ลุ้นเข้าไปป้องกันแชมป์ในรายการนี้ได้อีกครั้ง ก็จะพบกับ เฟบี้ เซเทียนินกัม กับ เจสซิก้า พรูตี เมนโตโร คู่มืออันดับ 22 ของโลกจากอินโดนีเซีย
ด้านฝั่งประเภทหญิงเดี่ยวที่กำลังขับเคี่ยวกันแย่งโควต้าหญิงเดี่ยวคนที่ 2 ของไทย ในการไปเล่นโอลิมปิคเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก็ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ทั้ง 2 คน ทั้ง “เม” ศุภนิดา เกตุทอง จะพบกับ อาชมีตาร์ ชาลีฮา มืออันดับ 61 ของโลกจากอินเดีย และ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ จะพบกับ อายะ โอโฮริ มืออันดับ 15 ของโลกจากญี่ปุ่น
ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่ผ่านเข้าเล่นในโอลิมปิคเกมส์แน่นอนแล้ว ก็ทำผลงานยอดเยี่ยมลุ้นเก็บคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นเพื่อลุ้นขยับอันดับโลกไปอยู่ใน 4 อันดับแรกของโลก ก็จะพบกับ ดิจาล เฟอร์ดินานยาท กับ กลอเรีย เอ็มมานูเอล วิจจาจ้า คู่มืออันดับ 20 ของโลกจากอินโดนีเซีย
ขณะที่ประเภทชายคู่ 2 คู่ของไทย ทั้ง “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล, และ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน, ที่จะต้องมาพบกันเองในรอบรองชนะเลิศนั้นก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถชนะมืออันดับโลกที่เหนือกว่าทั้ง 2 คู่จนผ่านเข้าถึงรอบนี้ได้สำเร็จ
“โดยในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มทำการแข่งขันในเวลา 12.00 น. ขอเชิญชวนแฟนๆ กีฬาแบดมินตันมาช่วยกันส่งเสียงเชียร์ในสนามไปพร้อมๆกัน ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตรเข้าชมก็สามารถมาซื้อได้ที่หน้าสนามแข่งขัน” คุณหญิงปัทมา กล่าวทิ้งท้าย