ทัพเพาะกายไทยเก็บอีก 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง ส่งท้ายชิงแชมป์เอเชีย

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – ทัพเพาะกายไทยเก็บอีก 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง ส่งท้ายเพาะกายชิงแชมป์เอเชีย ด้านสมาคมฯ เตรียมส่งนักกีฬาแข่งชิงแชมป์โลก ที่เกาหลีใต้ เดือน พ.ย.นี้


การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 55 ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ณ ลัลบา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยในวันสุดท้ายนี้มีการจัดการแข่งขันอีก 9 รุ่น สำหรับนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยที่ลงทำการแข่งขันในวันนี้ประกอบด้วย

เพาะกายชาย น้ำหนักไม่เกิน 100 กก. พันธวัช นิมิตภาคภูมิ ได้เหรียญเงินอันดับที่ 2 โดยเหรียญทองอันดับที่ 1 เป็นของอินเดีย ส่วนอันดับ 3 เป็นนักกีฬาจากอุซเบกิสถาน


แอธเลติกฟิสิคชาย ความสูงเกิน 182 ซม. ดำรงค์ศักดิ์ สร้อยศรี ได้อันดับที่ 4 โดยอันดับที่ 1 เป็นของนักกีฬาจากอินเดีย อันดับที่ 2 จากภูฏาน และอันดับที่ 3 จากเนปาลเจ้าภาพ

แอธเลติกฟิสิคหญิง ความสูงไม่เกิน 165 ซม. ศิรินทิพย์ อินทรีย์ คว้าเหรียญทองอันดับที่ 1 โดย รพิชา เยาวนารถ ได้อันดับที่ 5 อันดับที่ 2 เวียดนาม เป็นของ อันดับที่3 นักกีฬาจากเมียนมาร์และอันดับที่ 4 เป็นของเนปาล

แอธเลติกฟิสิคหญิง ความสูงเกิน 165 ซม. สิมรา ชุ่มชื่น ได้อันดับที่ 2 คว้าเหรียญเงิน โดยเหรียญทองอันดับที่ 1 เป็นนักกีฬาจากเวียดนาม อันดับที่ 3 เหรียญทองแดง เป็นของ ธัญญารัตน์ แจ่มใส นักกีฬาไทยอีกคน


โมเดลหญิง ความสูงเกิน 165 ซม. ชัญญาภัสร์ ก่อพาราภิรมย์ คว้าเหรียญทองอันดับที่ 1 วดีฑารัศมิ์ ทูลธรรม ได้เหรียญทองแดงอันดับที่ 3 โดยอันดับที่ 2 เหรียญเงินเป็นของนักกีฬาจากเกาหลีใต้

สรุปเหรียญรางวัลผลงานของนักกีฬาทีมชาติไทยที่ทำได้ในการแข่งขันครั้งนี้ 15 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลถ้วยคะแนนรวมทีมหญิงอันดับที่ 1 ส่วนอันดับที่ 2 เป็นของทีมชาติเวียดนาม อันดับที่ 3 เป็นของฮ่องกง และคะแนนรวมทีมชายไทยได้อันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 1 เป็นของอินเดีย และอันดับที่ 3 เป็นของเนปาลเจ้าภาพ

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย กล่าวว่าผลงานความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากความทุ่มเทของนักกีฬาทีมชาติไทยทั้ง 41 คนที่มีความมุ่งมั่นและฝึกซ้อมตามแผนงานที่ทีมสตาฟฟ์โค้ชได้วางแผนแนะนำ นักกีฬาทีมชาติไทยชุดนี้เป็นการผสมผสานรวมทีม ทั้งนักกีฬารุ่นเก่าและรุ่นใหม่ซึ่งทุกคนก็ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทุ่มเทให้เกิดเป็นผลสำเร็จดังที่ปรากฏในการแข่งขันครั้งนี้ หลังจากกลับถึง กทม. สมาคมก็จะเตรียมนักกีฬาสำหรับการแข่งขันกีฬาเพาะกายชิงแชมป์โลก ที่ประเทศเกาหลีใต้ในเดือน พ.ย.นี้ต่อไป ทางสมาคมต้องขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้อนุญาตให้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันและขอขอบคุณกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

คณะนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ย.นี้ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 18.15 น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย