กาตาร์ 14 ธ.ค.- แฟนบอลอาร์เจนไตน์นับหมื่นคนสวมเสื้อสีฟ้าขาวร่วมฉลองชัยชนะ หลังอาร์เจนตินา ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ไปลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 3
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่แรก ที่ลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม “ทีมฟ้าขาว” อาร์เจนตินา อดีตแชมป์โลก 2 สมัย พบ “ทีมตราหมากรุก” โครเอเชีย นาทีที่ 32 ฮูเลียน อัลวาเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนดีดบอลยกข้าม โดมินิค ลีวาโควิช นายทวารโครเอเชีย ก่อนถูกรวบล้มลงไปเขตโทษ ผู้ตัดสิน ให้อาร์เจนตินาได้จุดโทษ และเป็นลีโอเนล เมสซี ที่ซัดเข้าไปให้อาร์เจนตินา ขึ้นนำ 1-0 พร้อมขึ้นนำดาวซัลโวร่วมกับ คิลิยัน เอ็มบัปเป ของฝรั่งเศสที่ 5 ประตู
นาทีที่ 39 ฮูเลียน อัลวาเรซ ได้บอลจากแดนตัวเอง เลี้ยงเดี่ยวกระชากเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนถูก โยซิป ยูราโนวิช สกัดจังหวะแรกไปติดขา บอลไปเข้าทาง บอร์นา โซซา สกัดไม่ขาดไปติดตัว อัลวาเรซ ดีดด้วยขวาเข้าไปให้ อาร์เจนตินา นำห่าง 2-0 และเป็นประตูที่ 3 ของเขาในรายการนี้
ครึ่งหลังนาทีที่ 69 ลีโอเนล เมสซี ได้บอลบริเวณกลางสนาม ก่อนกระชากบอลหนี ยอชโก กวาร์ดิโอล ก่อนจ่ายหักข้อให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ แปโล่งๆ เข้าไปเป็นประตูที่ 2 ในนัดนี้และเป็นประตูที่ 4 ในรายการนี้ เป็นประตูปิดท้ายช่วยให้อาร์เจนตินา ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 3 พบ “ทีมตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์เก่า หรือ โมร็อกโก ในคืนวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เวลา 22.00 น.
หลังจบเกม ลิโอเนล สกาโลนี กุนซือทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 44 ปี ได้ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า เขาอยากเจอทีมไหนระหว่าง ฝรั่งเศส หรือ โมร็อกโก ซึ่งสกาโลนี บอกว่าทั้ง 2 ทีมเป็นทีมที่สมควรจะมาพบกับอาร์เจนตินา ทั้ง 2 ทีมคือคู่แข่งที่น่ากลัวมาก เพราะเราจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ 1 ใน 2 ทีมนั้นอยู่แล้ว พวกเขาทั้งคู่สมควรได้อยู่ตรงนั้น
สลัตโก ดาลิช เฮดโค้ชทีมชาติโครเอเชีย บอกว่า ลูกทีมไม่สมควรเสียจุดโทษ โดยดาลิช มองว่า ก่อนที่อาร์เจนตินา จะได้จุดโทษ โครเอเชีย ควรจะเป็นฝ่ายได้ลูกเตะมุมจากจังหวะที่ อิวาน เปริซิช เปิดบอลไปแฉลบผู้เล่นอาร์เจนไตน์ลอยข้ามคานออกหลังไป แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าเป็นลูกตั้งเตะ และทำให้อาร์เจนตินา ทำเกมรุกจนทีมมาเสียจุดโทษ แต่ก็ได้แสดงความยินดีกับอาร์เจนตินาที่เป็นฝ่ายชนะ และอยากขอบคุณนักเตะทุกคน และหวังคว้าอันดับ 3 ให้ได้ พร้อมยืนยันจะทำทีมต่อไปจนถึงศึกยูโร 2024
สำหรับชัยชนะนัดนี้ทำให้อาร์เจนตินา เข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกสมัยที่ 6 หลังจาก 5 ครั้งที่ผ่านมา ชนะ 2 แพ้ 3 ขณะที่ลิโอเนล เมสซี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงและจ่ายในนัดเดียว 4 ครั้ง นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติตั้งแต่ปี 1966 และทำให้เมสซี เป็นดาวซัลโวสูงสุดของอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก ด้วยผลงาน 11 ประตู แซง กาเบรียล บาติสตูตา ที่ยิง 10 ประตู พร้อมทำแอสซิสในฟุตบอลโลกมากที่สุด 8 ครั้ง เท่ากับ ดิเอโก มาราโดนา และลงสนามในศึกฟุตบอลโลกมากที่สุด 25 นัด เท่ากับ โลธาร์ มัทเธอุส ของเยอรมนี และทำให้ เมสซี ลงเล่นในฟุตบอลโลกไปแล้ว 2,194 นาที มีโอกาสแซง เปาโล มัลดินี ของอิตาลี ที่ลงเล่นไปมากที่สุด 2,217 นาที หากได้ลงสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศ และมีโอกาสทำสถิตินำทีมชนะนัดที่ 17 เทียบเท่า มิโรสลาฟ โคลเซ ของเยอรมนี
โดยแฟนบอลอาร์เจนไตน์นับหมื่นคน ที่รวมตัวกันใส่เสื้อสีฟ้าขาวชมการถ่ายทอดสด ได้ร่วมฉลองชัยชนะอย่างมีความสุขบริเวณอนุสาวรีย์โอเบลิสค์ ในกรุงบัวโนสไอเรส ของอาร์เจนตินา หลังจากทีมฟ้าขาว ผ่านเข้ารอบชิงไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 3 หลังจากรอคอยมาตั้งแต่ปี 1986 ที่เม็กซิโก โดยแคเธอรีน เบลาสเกซ หนึ่งในแฟนบอลชาวอาร์เจนไตน์ บอกว่า พวกเราจะชนะอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้ และนี่คือปีของเมสซี
ส่วนแฟนบอลอาร์เจนตินา ที่ชมการถ่ายทอดสดอยู่ที่แฟนโซนในกรุงโดฮาและสนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ต่างโห่ร้องแสดงความดีใจกับชัยชนะในนัดนี้ โดยกาเบรียลา แฟนบอลชาวอาร์เจนตินา วัย 49 ปี บอกว่า มันเป็นเกมที่ตื่นเต้น น่าติดตาม นักเตะทุกคนแข็งแกร่งและมีสมาธิกับเกม เมสซีกับทุกคนเป็นอัจฉริยะ พวกเราทุกคนต้องการชัยชนะ และหวังทีมจะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 .-สำนักข่าวไทย