ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อเพิ่มความสุขของสังคม

บทความเนื่องในวันความสุขสากล 20 มีนาคม 2564 โดย ผศ.ดร. เสาวลักษม์ กิตติประภัสร์ เครือข่ายงานวิจัยนานาชาติเพื่อสังคมอยู่เย็นเป็นสุข (ไอร่าห์) ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อเพิ่มความสุขของสังคม : ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมีการพูดถึงมาอย่างยาวนาน มีการวิเคราะห์สาเหตุทางวิชาการกันมามากมาย   แต่การแก้ไขในระดับโครงสร้างอย่างจริงจังยังไม่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิผล เราจึงเห็นปัญหานี้ยังคงอยู่แบบไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นได้ในเร็ววัน ตรงกันข้ามดูเหมือนจะปัญหานี้จะมากขึ้น โดยความเหลื่อมล้ำในสังคมจะรุนแรงขึ้นรื่อยๆ โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่อย่างรวดเร็ว หรือมี technological disruption และยิ่งซ้ำเติมด้วยการระบาดของของโควิด 19 ที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะต่อแรงงานไร้ฝีมือและคนด้อยโอกาสที่ไม่มีทางเลือกในการทำงานมากนัก ซ้ำเติมโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่น้อยอยู่แล้ว ปัญหาในสถานการณ์เช่นนี้ ที่มีช่องว่างทางเทคโนโลยี รวมทั้งช่องว่างทางรายได้และโอกาสในการทำมาหาเลี้ยงชีพ ยิ่งจะทำให้ความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ  อย่างไรก็ตามบทความนี้ไม่ได้มาวิเคราะห์สาเหตุของความเหลื่อมล้ำที่มีการพูดกันมากในวงวิชาการและวิจัยอย่างมากมาย แต่จะพูดถึงประเด็นนี้ในอีกมุมหนึ่งคือ ความเหลื่อมล้ำสัมพันธ์กับความสุขอย่างไรในทางวิชาการและทำไมเราจึงควรลดการเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อเพิ่มความสุขในสังคมอย่างจริงจัง


มีการศึกษาวิจัยโดยนักวิชาการด้านความสุขจากนานาประเทศรวมทั้งจากงานของผู้เขียนเอง พบว่า ในประด็นเรื่องรายได้ บทบาทของรายได้โดยเปรียบเทียบหรือรายได้สัมพัทธ์ (relative income) มีความสัมพันธ์ต่อความสุขอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ารายได้สัมบรูณ์ (absolute income) อาจจะไม่มีผลมากนักต่อความสุขก็ตาม จากการทดสอบเชิงประจักษ์จากงานศึกษาวิจัยต่างๆพอจะสรุปได้ว่า ในสังคมที่มีช่องว่างของรายได้แตกต่างกันน้อย ระดับความสุขของคนในสังคมจะสูงกว่า เมื่อเทียบกับสังคมที่มีช่องว่างของรายได้แตกต่างกันมาก ในขณะที่ระดับรายได้โดยตัวมันเองหรือรายได้สัมบูรณ์อาจจะไม่มีผลต่อความสุขเลย หมายความว่า ถึงแม้บุคคลหรือประเทศมีระดับรายได้ที่เป็นตัวเงินหรือ GDP สูงขึ้นเรื่อยๆ ความสุขของคนหรือประเทศ ไม่จำเป็นต้องสูงขึ้นตามหรืออาจไม่มีผลต่อความสุขมากนัก แต่ช่องว่างของความแตกต่างทางรายได้ของคนในสังคม หรือความไม่เท่าเทียมกันในสังคมต่างหาก ที่มีผลต่อความสุขอย่างจริงจัง

ซึ่งปรากฎการณ์นี้ อธิบายได้จากทฤษฎีการเปรียบเทียบทางสังคม (social comparison) ซึ่งมีผลเชิงลบต่อความสุข การที่ระดับรายได้ของประเทศสูงขึ้นทุกปี แต่คนมีความรู้สึกแตกต่างกันในสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจมาก ความสุขของคนในประเทศจึงไม่ได้สูงขึ้นตาม (เช่น กรณีศึกษาจากข้อมูลระยะยาวในประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น รวมทั้งอีกหลายกรณีศึกษา) นอกจากนั้น ช่องว่างของความแตกต่างที่มากขึ้นนี้ ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม การเมือง และการเข้าถึงฐานทรัพยากร อันนำไปสู่ความขัดแย้งต่างๆอีกมากมาย


ดังนั้น การลดความแตกต่างของรายได้โดยเปรียบเทียบหรือการลดความเหลื่อมล้ำจึงมีความสัมพันธ์กับความสุขของสังคมที่เพิ่มมากขึ้นมากกว่าการเพิ่มระดับของรายได้โดยตัวเงินเท่านั้น ถ้าผู้จัดทำนโยบายเข้าใจเรื่องนี้ ควรออกแบบนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ (ซึ่งต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างด้วย) มากกว่าเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วๆไปที่ต้องการให้ตัวเลขจีดีพีดีขึ้นเท่านั้น

นอกจากนั้น ในทางทฤษฎี มีกฏของการลดน้อยถอยลงต่อหน่วยของความสุขต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น (Role of diminishing return of happiness to income) หมายความว่า เมื่อมีระดับรายได้ที่ต่ำ การเพิ่มขึ้นของรายได้จะมีผลทำให้มีความสุขต่อหน่วยเพิ่มขึ้นมาก แต่ในระดับรายได้ที่สูงขึ้น ความสุขต่อหน่วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะค่อยๆลดลง กล่าวคือ การได้รายได้เพิ่มขึ้นที่เท่ากันในขณะที่รายได้ต่ำมีผลต่อความสุขมากกว่าในขณะที่มีรายได้สูงขึ้น  ดังนั้น นโยบายที่เพิ่มรายได้ให้แก่คนรายได้น้อยจะเพิ่มความสุขต่อหน่วยมากกว่านโยบายที่เพิ่มรายได้ที่เท่ากันให้คนรายได้สูง นัยเชิงนโยบายก็คือ  หากรัฐจะกระจายงบประมาณจำนวนหนึ่งไปให้คนรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสที่ขาดแคลนปัจจัยสี่ งบประมาณที่กระจายไปนั้นจะทำให้ความสุขต่อหน่วยรายได้ของคนกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากกว่ามาก (อีกทั้งปริมาณของคนกลุ่มรายได้น้อยนี้มีจำนวนมากกว่ามากมาย)   หากพิจารณาในด้านความสุขมวลรวมของประเทศ การกระจายรายได้ไปสู่คนยากจนและผู้มีรายได้ต่ำจะเพิ่มความสุขมวลรวมของประเทศมากกว่า การเอื้อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้สูง ดังนั้น หากต้องการจัดทำนโยบายที่จะเพิ่มความสุขของสังคม จึงต้องลดการกระจุกตัวของรายได้และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้มีการกระจายรายได้ไปสู่คนรายได้น้อยมากขึ้น

นอกจากแง่มุมทางทฤษฎีความสุขแล้ว ในด้านของการพัฒนามนุษย์ การจัดสรรทรัพยากรไปสู่คนยากจนและด้อยโอกาสเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นสิทธิพื้นฐานของการดำรงชีวิตและสิทธิมนุษยชน มนุษย์ทุกคนควรได้รับสิทธิพื้นฐานในการดำรงชีวิต เช่น ปัจจัยสี่อย่างเพียงพอ ได้รับโอกาสขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาค เพื่อที่จะพัฒนาตนเองยิ่งๆขึ้นไปได้ ทุกคนจึงจำเป็นต้องพ้นจากความยากจนและความขัดสนทางกายภาพ เพื่อการพัฒนามนุษย์ในระดับสูงขึ้นไป และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป การเพิ่มศักยภาพให้คนยากจนและคนรายได้น้อย จะเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและส่งผลทำให้ความเหลื่อมล้ำลดลงรวมทั้งเพิ่มผลิตภาพของประเทศด้วย


ในด้านการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและปํญหาสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำทางสังคมเศรษฐกิจที่สูง จะนำไปสู่การใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและซ้ำเติมปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก เช่น ปัญหาโลกร้อน และมลพิษ จากตัวเลขทางสถิติที่พบว่าคนและประเทศที่มีรายได้สูงมาก ใช้ทรัพยากรและพลังงานของโลกในสัดส่วนที่สูงมาก มีส่วนทำให้เกิดปัญหาโลกร้อนมากกว่าคนและประเทศที่มีรายได้น้อย เพราะยิ่งมีรายได้มาก ก็ยิ่งบริโภคมากและมีวิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือย ใช้ทรัพยากรของโลกอย่างสิ้นเปลือง ดังนั้น การพัฒนาที่ยิ่งทำให้ช่องว่างของการกระจายรายได้เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลดีต่อความสุขของคนในสังคม

ดังนั้น การลดความเหลื่อมล้ำจึงมีความสำคัญต่อการเพิ่มความสุขในสังคม หากต้องการเพิ่มความสุขให้คนในประเทศ แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ ก็สามารถกระทำได้ด้วยการกระจายรายได้และโอกาสทางสังคมให้เท่าเทียมกันมากขึ้น ซึ่งจะมีผลดีต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว ดีกว่าการทุ่มเททรัพยากรของประเทศไปเพื่อการเติบโตในระยะสั้นเท่านั้น เพราะรายได้ที่เป็นตัวเงินหรือจีดีพีเพียงอย่างเดียว อาจไม่มีผลต่อการเพิ่มความสุขมวลรวมของคนในประเทศมากเท่ากับการลดความเหลื่อมล้ำ หากเป้าหมายของการพัฒนาคือเป็นไปเพื่อความสุขของคนในสังคมแล้ว มาตรการทางเศรษฐกิจควรเน้นและเป็นไปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำเป็นหลัก เพิ่มความเท่าเทียมกันของโอกาสทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง มากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น การแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างและการพัฒนาทักษะฝีมือให้คนทำงานที่จะสามารถทำงานได้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วต่อไปในยุคหลังโควิด 19 เป็นสิ่งที่จะต้องเตรียมอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว เมื่อเทคโนโลยีมาแทนที่แรงงานไร้ฝีมือและบางภาคการผลิตอาจต้องล้มเลิกไป จะมีคนจะว่างงานมากขึ้น หรือทำงานนอกระบบ ทำงานอิสระที่ไม่มีความมั่นคงมากขึ้น แนวคิดในการพัฒนามนุษย์และพัฒนาแรงงานควรจะเป็นอย่างไร แนวคิดความมั่นคงในชีวิตคืออะไร การใช้ชีวิตรวมทั้งการพัฒนาที่สมดุลควรเป็นอย่างไร จะสามารถกระจายทรัพยากรให้คนทุกกลุ่มตามแนวคิดการพัฒนาอย่างทั่วถึง ได้อย่างไร จะมีโครงสร้างสังคมที่เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติต่างๆรวมทั้งโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นอีกอย่างไร จะวางแผนการพัฒนาให้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริงได้อย่างไร  การพยายามหาคำตอบกับประเด็นเหล่านี้จะช่วยให้จัดลำดับความสำคัญ วางทิศทางการพัฒนาและกระบวนการ รวมทั้งมาตรการที่เกี่ยวข้องและการ)ฎิบัติการเพื่อนำไปสู่เป้าหมายเหล่านั้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะยกระดับความสุขมวลรวมของสังคมให้เพิ่มขึ้นได้

ผศ.ดร. เสาวลักษม์ กิตติประภัสร์
เครือข่ายงานวิจัยนานาชาติเพื่อสังคมอยู่เย็นเป็นสุข (ไอร่าห์)
วันความสุขสากล 20 มีนาคม 2564
อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

อ้างอิง

Clark, A.E., P. Frijters, and M.A. Shields  (2008). Relative Income, Happiness and Utility: An Explanation for the Easterlin Paradox and Other Puzzles. Journal of Economic Literature, 46(1), 95-144 · 

Easterlin, R (1974). Does Economic Growth Improve the Human Lot? Some Empirical Evidence in P.A. David and M.W. Reder (Eds.), Nations and Households in Economic Growth: Essays in Honor of Moses Abramowitz, New York and London: Academic Press, 89-125.

Kittiprapas, S. (2020).   ‘ Happiness determinants in a Buddhist community: Where Inner Happiness Matters’, Thammasat Review of Economic and Social Policy (TRESP), 6 (1), 84-134.

Kusago, T. (2006). Rethinking of Economic Growth and Life Satisfaction in Post-WWII Japan – A Fresh Approach. Social Indicator Research, 00: 1-24.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]