กทม. 15 ส.ค.-ผู้ว่าฯ กทม. ประชุมเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำใกล้ชิดต่อเนื่อง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 17/2565 โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมและวางแผน (WAR ROOM)
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังจากการประชุมว่า วันนี้มีเรื่องสำคัญ 3 เรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ เรื่องการตรวจสถานบริการ จุดเสี่ยงความปลอดภัย และสถานการณ์น้ำ โดย นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำว่า สำนักการระบายน้ำได้รายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำและเฝ้าติดตามน้ำทางฝั่งตะวันออก ที่คิดว่าจะมีจุดเสี่ยง ซึ่งน้ำทางด้านตะวันออกส่วนใหญ่จะมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กทม. ได้ประสานกับกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยสถานีสูบน้ำของกรมชลประทานที่เกี่ยวข้องกับ กทม. มีอยู่ 2 สถานี คือ สถานีคลองหกวาสายล่างมีกำลังการสูบประมาณ 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และสถานีหนองจอก กำลังสูบที่ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทุกวันนี้ได้รับความร่วมมือกับกรมชลประทานเป็นอย่างดีในการเดินเครื่องสูบน้ำทั้ง 2 สถานีเพื่อเร่งระบายน้ำออก แต่ปัจจัยหนึ่งคือ น้ำทางด้านตะวันออกจะเข้ามาเติมในส่วนของคลองแสนแสบ ทำให้คลองแสนแสบมีระดับน้ำนอกประตูระบายน้ำมีนบุรีค่อนข้างสูง จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมคลองในเขตหนองจอก ลาดกระบัง ให้ยกของขึ้นที่สูง ซึ่งจะมีน้ำเอ่อล้นในพื้นที่บางส่วน ตอนนี้เฝ้าระวังด้านตะวันออกเป็นพิเศษ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ต้องดูปริมาณน้ำในเขื่อนทางภาคเหนือที่ปล่อยมาสู่ กทม. ด้วย ทั้งเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำสูงกว่าปีที่แล้ว ประมาณ 10% แต่ไม่ถึงวิกฤต ในปี 54 มีน้ำประมาณ 70-75% แต่ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 45% ก็สูงกว่าปีที่แล้ว แต่ตัวเลขที่สูงคือด้านตะวันออก เมื่อวานนี้มีน้ำประมาณ 46% ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะที่เดือนนี้เมื่อปีที่แล้วมีประมาณ 6% ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วมาก แต่ไม่ต้องตกใจเพราะยังรับน้ำได้อีก น้ำที่ไหลลงมาประมาณ 161 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กำลังของคลองประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงอาจจะมีจุดที่เอ่อล้นตลิ่งบ้าง ทาง กทม. ได้ประสานกรมชลประทานอย่างใกล้ชิดในการปล่อยน้ำ
น้ำในกรุงเทพฯ มี 4 ส่วน คือ น้ำเหนือ น้ำหนุน น้ำท่าที่มาตามทุ่ง และน้ำสวนในพื้นที่ ซึ่งกทม. ก็ได้เดินหน้าเต็มที่ โดยซ่อมแซมจุดฟันหลอนอกคันกั้นน้ำ ยังมีจุดท่วมบ้างนิดหน่อย เช่น พระราม 3 มีจุดที่น้ำซึมจากกระสอบทรายออกมา เป็นจุดที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ได้ดำเนินการแก้ไขอยู่ ในเรื่องน้ำสถานการณ์ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรน่าห่วงอะไร มีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำที่อยู่ในเขื่อนซึ่งจะเป็นน้ำที่ลงมาสมทบกับน้ำฝนในอนาคต.-สำนักข่าวไทย