กทม.เร่งเชื่อมต่อข้อมูลน้ำท่วมจุดเส้นเลือดฝอยในภาพรวม

กรุงเทพฯ 4 ส.ค. – “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของ กทม.ครั้งที่ 8/2565 โดยมีคณะผู้บริหาร กทม. และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ย้ำให้เร่งเชื่อมต่อข้อมูลน้ำท่วมจุดเส้นเลือดฝอยในภาพรวม กำชับสำนักงานเขตให้บริการประชาชนอย่างเท่าเทียม รวดเร็ว


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมีเรื่องน้ำท่วม เชื่อว่า ผู้อำนวยการเขตทุกคนทำงานหนัก ปัญหาคือข้อมูลของส่วนกลางยังไม่เชื่อมกับเขตซึ่งเป็นเส้นเลือดฝอย ควรมีการรวบรวมจุดอ่อนน้ำท่วมจากเขตมาอยู่ที่ส่วนกลาง ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว เพราะเขตทำงานหนัก มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่พอข้อมูลไม่ได้มารวมกับส่วนกลาง ทำให้ส่วนกลางมองไม่เห็นปัญหา ทำให้การวางแผนระยะยาวไม่ได้รับการแก้ไข บางจุดอาจจะท่วมซ้ำซาก แต่ศูนย์จะพบว่าน้ำแห้งหมดแล้ว เพราะสำนักการระบายน้ำจะมีข้อมูลเฉพาะถนนสายหลัก ทำอย่างไรให้ข้อมูลทางเขตมาปรากฏในภาพรวม ซึ่งจะแก้ปัญหาระยะยาวได้ ต้องมีการอัปเดตจุดน้ำท่วมซ้ำซาก จะต้องมีการนำข้อมูลมารวมที่ส่วนกลาง โดยอาจใช้โปรแกรมทำงานร่วมกันระหว่างสำนักการระบายน้ำ สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ทำให้เห็นภาพรวม เรามีหลายหน่วยงานอยากจะช่วยให้ กทม. ดีขึ้น ถ้าเรามีข้อมูลส่วนกลางที่ชัดเจนขึ้น เราจะสามารถแจกงานได้ ผอ.เขตย่อมรู้เรื่องภายในพื้นที่เขตตนเองดี ก็รายงานข้อมูลเข้ามาที่ส่วนกลาง เพื่อให้ทราบว่ามีน้ำท่วมที่ซอยไหน

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักการระบายน้ำ ได้รายงานการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำหนุน ในปี 2565 โดยเตรียมแผนรับมือรับน้ำหลากและน้ำทะเลหนุน ดำเนินการตรวจสอบจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วม ริมแม่น้ำเจ้าพระยาคลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ความยาว 79.63 กม. เรียงกระสอบทรายในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันถาวรและบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำ ยาว 2,918 เมตร ติดตามสถานการณ์น้ำเหนือกับกรมชลประทาน และกำหนดเกณฑ์การร่วมบริหารจัดการน้ำผ่านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง และส่งเจ้าหน้าที่ตรวจตราจุดที่คาดว่าจะมีปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 85 สถานี ให้พร้อมทำงานตลอดเวลา รวมทั้งแผนรับมือสถานการณ์ฝน ควบคุมระดับน้ำในคลอง เตรียมความพร้อมของอุโมงค์ระบายน้ำ แก้มลิง Water Bank บ่อสูบน้ำและสถานีสูบน้ำ ระบบคลอง ระบบท่อระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าสำรอง เครื่องผลักดันน้ำ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและปริมณฑล ในส่วนของศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และสถานการณ์ฝน ตลอด 24 ชม. และรายงานตรวจวัด ติดตาม แจ้งเตือนจากเรดาร์ตรวจวัดสภาพอากาศ 2 แห่ง (หนองแขม และหนองจอก) ซึ่งรายงานทุก 15 นาที ในแต่ละวัน พร้อมทั้งประสานแจ้งหน่วยปฏิบัติการเข้าแก้ไขสถานการณ์ เตรียมความพร้อมจุดตรวจวัดน้ำท่วม และให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนสำนักงานเขตด้วย


เรื่องที่ 2 คือ การปฏิบัติงานเรื่องการขอใบอนุญาตต่างๆ ที่เขต เช่น ขอใบอนุญาตก่อสร้าง ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าดำเนินการล่าช้า แจ้งปัญหาไปแต่ยังไม่มีอะไรปรับปรุง จริงๆ แล้วไม่ต้องรอให้มีใครมาบอกว่าให้ช่วยหน่อย เพราะทุกคนคือประชาชนเท่าๆ กัน นี่คือพลังของ Traffy Fondue คือทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะไม่จำเป็นต้องทราบว่าใครแจ้ง ต่อไปการขอใบอนุญาตจะต้องเป็นแบบนี้ ทุกคนต้องมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ขอให้ ผอ.เขต ช่วยดูเรื่องกระบวนการต่างๆ ต้องทำงานแบบ One Stop Service ต้องเร่งรัด ไม่ทำงานแบบเก่าๆ เดิมๆ นี่คือการทำงานยุคใหม่ เป็นยุคของความโปร่งใสของการบริการประชาชน เรามีหน้าที่ในการบริการ ไม่ใช่เบียดเบียนประชาชน ดังนั้น จึงต้องฝากในกระบวนการอนุญาตต่างๆ ต้องให้รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นบริการเพื่อประชาชนจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะเร่งรัดต่อไป เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 อย่างแท้จริง

ในที่ประชุม สำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ได้รายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่มารับบริการ ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ และโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ข้อมูล ณ วันที่ 2 ส.ค. 65 เวลา 20.00 น. โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ในวันที่ 2 ส.ค. 65 จำนวน 3,317 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 91,666 ราย ด้านสถานการณ์เตียงในพื้นที่ กทม. ยังมีเตียงรองรับเพียงพอ ข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค. 65 เวลา 08.00 น. มีเตียงรวมในโรงพยาบาล จำนวน 5,888 เตียง ใช้ไป 2,555 เตียง คิดเป็นอัตราการครองเตียงทั้งหมด ร้อยละ 43.39 ในส่วนของศักยภาพเตียงสำนักการแพทย์และวชิรพยาบาล จำนวน 1,148 เตียง ครองเตียง 440 คิดเป็นร้อยละ 38.33 เตียงว่าง 708 คิดเป็นร้อยละ 61.67 โดยจำแนกเป็นประเภทสถานพยาบาล แบ่งเป็นโรงพยาบาลหลัก 448 เตียง ครองเตียง 333 คิดเป็นร้อยละ 74.33 เตียงว่าง 115 คิดเป็นร้อยละ 25.67 และโรงพยาบาลสนาม 700 เตียง ครองเตียง 107 คิดเป็นร้อยละ15.29 เตียงว่าง 593 คิดเป็นร้อยละ 84.71

สำหรับการเตรียมรับสถานการณ์โรคฝีดาษวานร ได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ และถอดบทเรียน กรณีผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรรายแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเชิญชวนสถานพยาบาลในกรุงเทพมหานครทั้งหมด 203 แห่งโรงพยาบาลที่เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังโรคกับกองควบคุมโรคติดต่อ และมีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 190 แห่ง นอกจากนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการรักษาพยาบาล การส่งต่อ และการป้องการติดเชื้อฝีดาษวานร ในสถานพยาบาล รวมทั้งการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อด้วย


ในส่วนของความคืบหน้าการบูรณาการข้อมูลจุดเสี่ยงความปลอดภัย เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลดิจิทัล BKK Risk Map โดยการดำเนินงานที่ผ่านมาได้มีการลงพิกัดสถานีดับเพลิงและกู้ภัย 47 สถานี และจำนวนหัวจ่ายน้ำดับเพลิง 23,598 หัว นอกจากนี้จะมีการรวบรวมฐานข้อมูลจุดมืด สถิติอาชญากรรม อุบัติเหตุ น้ำท่วม พื้นที่ต่ำ โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชนที่เกิดอัคคีภัยบ่อยๆ รวมถึงในอนาคตจะมีการเก็บข้อมูลถังดับเพลิงในชุมชน รวมทั้งจุดเปราะบางในพื้นที่ ทั้งเชิงกายภาพและระบบสังคม เช่น ศูนย์เด็กเล็ก ผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนอว่าควรมีแพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมความเสี่ยงในหลายมิติ ซึ่งมอบให้สำนักการวางผังและพัฒนาเมืองเป็นเจ้าภาพหลักในการพัฒนา และทำรูปแบบที่เขตสามารถนำเข้าข้อมูลได้ง่ายและสะดวก แต่ในระยะสั้นให้สำนักงานเขตอัปเดตข้อมูลเป็นปัจจุบันก่อน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย