พ่อค้าแม่ค้าโอด! “ห้ามนั่งกินในร้าน” หวั่นยอดขายลดฮวบ

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- เสียงของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า หลังมีคำสั่งห้ามนั่งรับประทานในร้าน ต่างพากันโอดครวญเป็นเสียงเดียวกันว่าหวั่นยอดขายลดฮวบ หากเปิดให้เฉพาะซื้อกลับบ้าน 


นายนิกูล ไชยวงศ์ พ่อค้ารถเข็นย่านห้วยขวาง เผยว่าเข้าใจถึงสถานการณ์การระบาดรอบนี้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการ “ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ” เพราะกระทบยอดขายอย่างมาก โดยล็อกดาวน์รอบที่แล้วการขายแบบใส่ถุงกลับบ้านยอดขายหายไปกว่า 70 % เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมนั่งรับประทานในร้าน ไลฟสไตล์เป็นคนทำงาน ไม่สะดวกใส่ถุงกลับไปรับประทาน

ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบสินค้าและค่าเช่าที่ไม่ได้ลดลงตามไปด้วยต้องผ่อนผันทยอยจ่าย ส่วนลูกค้าก็ลดลงไปด้วยเพราะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ลูกค้าบางส่วนว่างงาน ตกงานก็มารับประทานน้อยลง โดยยอมรับว่าล็อกดาวน์กรุงเทพฯ รอบนี้แย่แน่ๆ ยอดขายคงเหลือไม่ถึง 30% แม้จะมีการเปิดขายผ่านแอปพลิเคชั่นและเข้าร่วมโครงการของรัฐ เช่น คนละครึ่ง เราชนะ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็ไม่ช่วยกระตุ้นยอดขายมากนัก


ทั้งนี้ อยากเสนอให้เปิดนั่งรับประทานได้โต๊ะละ 1 คน เว้นระยะ 2 – 3 เมตรต่อโต๊ะ เพื่อพยุงกิจการให้ดำเนินต่อไปได้ และถ้าปิดนาน 1 ถึง 2 เดือน เจ๊งแน่นอน พร้อมวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและภาครัฐลงมาดูพื้นที่สำรวจความลำบากของพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้านจริงๆ ว่าเขาต้องการอะไร เกิดปัญหาตรงจุดไหนเพื่อแก้ไขให้ตรงจุด เพราะถ้ายืดเยื้อกว่านี้อาจจะต้องปิดกิจการ เนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายมานานนับปีแล้ว

อีกหนึ่งเสียงของ นายธวัชชัย แก้วคำ พ่อค้าร้านอาหารย่านดินแดงบอกว่า ลำบากแน่ถ้ากลับมาล็อกดาวน์อีก แต่ถ้าปิดแล้วจบก็ยินดีโดยอยากให้ปิดทีเดียว 3 – 6 เดือนแล้วปัญหาจบไปเลย ยอมเจ็บครั้งเดียว ดีกว่าเปิดๆ ปิดๆ กระทบการค้า ซึ่งการล็อกดาวน์ครั้งที่ผ่านมายอดขายหายไปกว่าครึ่ง ซึ่งพอกลับมาเปิดอีกครั้งบรรยากาศที่ร้านก็ยังเงียบๆ โดยมีการขายผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มยอดขาย

ขณะที่เสียงสะท้อนจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างบอกว่า ทำงานหาเช้ากินค่ำ การให้ซื้อใส่ถุงกลับไปกินค่อนข้างลำบากเสียเวลา กินที่ร้านสะดวกกว่ากินเสร็จแล้วก็ไปทำงานวิ่งวิน จะกลับไปกินที่บ้านก็ต้องใช้เวลาขับรถไปถึง 20 นาที จะให้ไปหาที่นั่งกินตามสถานที่ต่างๆ ก็ไม่สะดวก อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเดือดร้อนของประชาชนและไม่อยากให้ล็อกดาวน์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]