ผู้ป่วยเครื่องบินตกหลุมอากาศยังรักษาตัวที่ รพ.สมิติเวช 40 ราย

รพ.สมิติเวช 23 พ.ค. – ผอ.รพ.สมิติเวชศรีนครินทร์ อัพเดตอาการผู้ป่วยเครื่องบินตกหลุมอากาศยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 40 ราย


นพ.อดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ แถลงความคืบหน้าในการรักษาคนไข้ กรณีการเกิดอุบัติภัยหมู่เครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ซึ่งเดินทางจากลอนดอนมุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ระหว่างเส้นทางเครื่องบินลำดังกล่าวจึงเปลี่ยนเส้นทางไปกรุงเทพฯ และตกหลุมอากาศ ว่า จำนวนผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ มี 41 ราย เพศชาย 19 ราย เพศหญิง 22 ราย ประกอบด้วย สัญชาติอังกฤษ 10 ราย, ออสเตรเลีย 9 ราย, มาเลเชีย 7 ราย, ฟิลิปปินส์ 4 ราย, สหรัฐอเมริกา 2 ราย, นิวซีแลนด์ 2 ราย, เมียนมา, ไอร์แลนด์, อิสราเอล, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, สเปน สัญชาติละ 1 ราย ซึ่งใน 41 ราย อาการทุเลาลงและให้กลับบ้านแล้ว 1 ราย เหลือผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวอยู่ 40 ราย

นพ.อดินันท์ กล่าวด้วยว่า มีผู้บาดเจ็บของกระดูกสันหลังและไขสันหลัง 22 ราย, บาดเจ็บของกระโหลกศีรษะและสมอง 6 ราย บาดเจ็บของกระดูก กล้ามเนื้อ และอื่น ๆ 13 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดไปแล้ว 17 ราย เป็นการผ่าตัดกระดูกสันหลังช่วงคอ 5 ราย ผ่าตัดกระดูกสันหลังช่วงอก 4 ราย และซ่อมแซมแผลส่วนที่ฉีกขาด 8 ราย ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดและรักษาโดยการประคับประคอง


ทั้งนี้ คนไข้ที่รักษามีหลายรายที่ค่อนข้างรุนแรงอาการยังหนักอยู่ แต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงจนอันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึง และได้ระดมทีมแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยอาการหลักๆ จะเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาคอยดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด ซึ่งตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.67 มีผู้ป่วยสีแดง 6 คน ทั้งนี้ คนไข้บางรายมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแต่เร็วไปที่จะบอกว่าผู้ป่วยแต่ละรายจะต้องรักษาตัวนานเท่าไหร่ แพทย์จะมีการประเมินอาการทุกวัน คนที่สามารถให้กลับบ้านได้ก็จะให้กลับ ซึ่งในวันนี้แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านไปแล้ว 1 ราย และการดูแลผู้ป่วยจะยึดหลักสิทธิของผู้ป่วยเป็นหลัก ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนหรือผู้เยี่ยมจะเข้าไปพบผู้ป่วยจะต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ป่วยเป็นหลัก

นพ.อดินันท์ กล่าวถึงผู้ป่วยที่อาการหนักที่สุดว่า มีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังส่วนคอ ซึ่งมีการผ่าตัดไปแล้ว ส่วนการประเมินการรักษาจะต้องประเมินอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามีอายุตั้งแต่ 2-83 ปี ซึ่งในอาการของผู้ป่วยที่เป็นเด็กไม่น่าเป็นห่วง

ส่วนการประเมินว่าผู้ป่วยจะพิการหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะจำเป็นจะต้องมีการประเมินจากแพทย์และติดตามอาการรายวัน ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับกระดูกสันหลังจะต้องมีการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดเพราะอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจได้ ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยรักษาจนหายดีแล้วและจะเดินทางกลับประเทศต้นทางนั้นได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดในการดำเนินการส่งตัวกลับประเทศต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ