ประกาศ 1 ต.ค.นี้ ดีเดย์ขึ้นค่าแรงทุกภาคส่วนเป็น 400 บาท

กรุงเทพฯ 1 พ.ค. – รมว.แรงงาน ประกาศ 1 ต.ค.นี้ ดีเดย์ปรับขึ้นค่าแรงทุกภาคส่วนเป็น 400 บาทต่อวัน พร้อมเดินหน้าสานต่อ 600 บาทต่อวัน ด้าน “อนุทิน” ย้ำนโยบายนี้สำคัญไม่แพ้ดิจิทัลวอลเล็ต


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงาน ร่วมเปิดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2567 และเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรี รับข้อเรียกร้องจากผู้นำแรงงาน 10 ข้อ ประกอบด้วย
1.รัฐบาลต้องรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98
2.ให้รัฐบาลตราพระราชบัญญัติ หรือประกาศเป็นกฎกระทรวงให้มีการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง เพื่อเป็นหลักประกันในการทำงานของลูกจ้าง
3.ให้รัฐบาลปฏิรูปแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม เช่น ปรับฐานการรับเงินบำนาญให้เริ่มต้นที่ 5,000 บาท เมื่อผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพแล้ว ขอให้คงสิทธิรักษาพยาบาลได้ตลอดชีวิต
4.ให้กระทรวงแรงงานจัดสร้างโรงพยาบาลประกันสังคม และจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อผู้ใช้แรงงาน
5.ให้ใช้มาตรการเคร่งครัดให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 11/1

6.เร่งรัดให้ได้ข้อสรุปแนวทางจัดระบบสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหลังเกษียณอายุ ให้ลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจได้มีระบบสวัสดิการจากรัฐเทียบเคียงกับข้าราชการบำนาญ และลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33
7.เพิ่มหลักประกันความมั่นคงให้ลูกจ้าง โดยเร่งให้ พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
8.ยกระดับกองความปลอดภัยแรงงานขึ้นเป็นกรมความปลอดภัยแรงงาน
9.เมื่อลูกจ้างบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง ให้กองทุนเงินทดแทนจ่ายค่ารักษาส่วนที่เกินให้กับลูกจ้างจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาล
10.ให้ รมว.แรงงาน แต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติปี 2567


นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะตัวแทนนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลยินดีและพร้อมพร้อมที่จะสนับสนุนให้พี่น้องแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รายได้ที่ดีขึ้น สวัสดิการที่ดีขึ้น

กระทรวงแรงงานจะนำข้อเสนอทั้ง 10 ข้อจากตัวแทนลูกจ้าง มาสานต่อและทำงานอย่างเป็นระบบ ยืนยันจะนำทุกข้อเสนอ ปรับปรุง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องแรงงาน

ขอประกาศข่าวดีให้กับพี่น้องแรงงานทุกภาคส่วนว่าเตรียมประกาศปรับเพิ่มค่าแรงเป็น 400 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ต้องขออภัยที่อาจจะต้องใช้เวลานาน เพราะจะต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับทุกๆ ฝ่าย ยืนยันนโยบายนี้สำคัญไม่น้อยไปกว่าดิจิทัลวอลเล็ตที่จะช่วยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


ด้านนายพิพัฒน์ กล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการปรับขยับค่าแรงเป็น 400 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากยังติดปัญหาการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจกับหลายๆ หน่วยงาน โดยเฉพาะภาคเอกชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่หากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่หลังจากที่มีการประกาศนำร่องไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่าจะให้ปรับค่าแรงเป็น 400 บาท ให้กับผู้ทำงานในโรงแรม ตั้งแต่ 4 ดาวก่อน ก็ได้รับการประสานจากสมาคมโรงแรมว่าทุกโรงแรมทั่วประเทศพร้อมจะปรับค่าแรงขึ้นเป็น 400 บาท เพียงแต่อยากจะขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องของการอบรมมาตรฐานและทักษะการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางกระทรวงพร้อมรับข้อเสนอไปพูดคุยในคณะรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณในส่วนนี้ ยืนยันว่าค่าแรง 400 บาท ที่จะประกาศปรับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป จะได้พร้อมกันทุกภาคส่วน ทุกกิจการ และในทุกจังหวัดไม่มีการแบ่งแยกหรือนำร่องแต่อย่างใด จะเป็นการประกาศใช้พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากที่มีประกาศจะเข้าสู่กระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะขยับเพิ่มเป็น 600 บาท ภายในระยะเวลาที่รัฐบาลชุดนี้ได้ประกาศไว้ ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 3 ปี ให้ศึกษาความเป็นไปได้

ถามว่ามีความกังวลเรื่องอะไรกับการประกาศขึ้นค่าแรง 400 บาท นายพิพัฒน์ ระบุว่า ค่อนข้างมีความกังวลเรื่องของการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ถ้าหากเทียบกับค่าแรงในรอบอาเซียน ประเทศไทยถือว่ามีค่าแรงค่อนข้างสูง รวมทั้งการขยับขยายของกิจการในประเทศต้องมีการเพิ่มทุนอีกจำนวนมาก ตรงนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 6 เดือน ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ในการออกไปพูดคุยกับเจ้าของกิจการทั้งในและต่างประเทศ ว่าต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในส่วนใดบ้าง ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการสนับสนุนส่วนนี้คาดว่าจะต้องหารือกับหลายหน่วยงาน เพราะจากการประเมินน่าจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล

นอกจากนี้ยังกังวลเกี่ยวกับผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการอิสระที่จำเป็นจะต้องมีการจ้างแรงงาน ส่วนนี้จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นมาพอสมควร และอาจจะกระทบต่อธุรกิจของคนกลุ่มนี้ได้ช่วงเวลาที่เหลือก่อนถึงเดือนตุลาคม จะให้ทุกหน่วยงานเข้าไปพูดคุยศึกษาว่าหากประกาศจะติดขัดในเรื่องอะไรบ้าง และอยากจะให้รัฐบาลช่วยเหลือในประเด็นใดบ้าง.-611-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ เดินหน้าผลักดันนโยบายการเงิน ควบคู่กับนโยบายการคลัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากครบกำหนด นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 กันยายน 2568 ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป หลังจากพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 21 สิงหาคม 2563 หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการ ครม.ให้ทำหนังสือถึง ปปง., ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ให้ชัดเจนมากขึ้น ตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายกำหนด การประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงการคลังจึงส่งเอกสารเพื่อบรรจุในวาระพิจารณา […]

17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือถึง ครม. ขอผู้ว่าฯ ธปท.เป็นอิสระ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- 17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-ครม. ระบุผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ย เพจเฟชบุ๊ก “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” โพสต์หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี เรื่อง ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรียน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า กรณีการเสนอชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ขอแสดงความห่วงใยและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะเข้าใจได้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว รัฐบาลต้องการการเจริญเติบโตของประเทศในระยะสั้น ซึ่งประสบการณ์การของผู้ทำงานธนาคารของรัฐ อาจจะเคยชินในการสนองตอบต่อนโยบายของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศชาติต้องการการเติบโตที่มีเสถียรภาพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่สามารถประคับประคอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล 2.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ถูกกดดันเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ เพราะจะทำให้นักการเมืองและคนบางกลุ่ม สามารถแสวงหาประโยชน์ในบางโอกาสจนร่ำรวย แต่ประเทศชาติเสียหาย 3.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเป็นอิสระจากการกดดันของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ แต่จะต้องกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ของประเทศระยะยาว 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการยอมรับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและสถาบันของต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะทำธุรกิจและพันธสัญญาในระยะยาว 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเข้าใจการพัฒนาประเทศในระดับมหภาค และการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน […]

กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง

กกต. 21 ก.ค.-กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง ให้ได้มาซึ่งการลงคะแนนเลือก สว. ไม่พบหลักฐานได้รับแต่งตั้ง หลังมีมติยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญา เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.รวม 13 หน้า ที่มีมติเมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.เกศกมล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561มาตรา 77 (4) กรณีใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ในการยื่นสมัครและแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้มีผู้ร้อง น.ส.เกศกมล รวม 7 รายร้องใน 6 ประเด็น ซึ่งมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกันว่า น.ส.เกศกมล สมัครรับเลือกเป็น สว. กลุ่มที่ 19 โดยระบุในข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]