ภารกิจสำเร็จ! นำเด็ก 10 เดือน ผ่าตัดหัวใจด่วนที่ รพ.จุฬาฯ

กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – ภารกิจสำเร็จ! นำเด็ก 10 เดือน จากหนองคายเข้ากรุงเทพฯ ผ่าตัดหัวใจด่วนที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ผอ.โรงพยาบาลหนองคาย ขอบคุณผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนที่เอื้ออำนวยให้รถรีเฟอร์เดินทางได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กปลอดภัย


ภารกิจช่วยเหลือเด็กชายวัย 10 เดือน โลกโซเชียลช่วยกันโพสต์ ช่วยกันแชร์ตั้งแต่เช้า ทั้งเพจเฟซบุ๊กหน่วยงานราชการและสมาคมกู้ภัยต่างๆ ที่แจ้งประชาสัมพันธ์ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสนับสนุนการจราจรในเส้นทางหนองคาย-กรุงเทพฯ เพื่อให้รถพยาบาลฉุกเฉินนำตัวเด็กน้อยเดินทางไปผ่าตัดหัวใจเร่งด่วนที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ให้ทันเวลา มีรายงานว่าสาเหตุที่ต้องเดินทางโดยรถยนต์เพราะเป็นเคสด่วน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ เพราะภาวะกดอากาศมีผลต่ออาการผนังหัวใจรั่วของเด็ก

เฟซบุ๊กถนนมิตรภาพ-รถติดบอกด้วย
เป็นเด็กชายอายุ 10 เดือน น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ใช้รถรีเฟอร์ ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ หมายเลขทะเบียน 2ขห-1873 กรุงเทพมหานคร เดินทางออกจาก รพ.หนองคาย เวลา 07.15 น. วิ่งเข้าพื้นที่ จ.อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์ ทางด่วนขั้นที่ 1 ลงพระราม 4 และมาถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ เวลา 13.20 น. รวมเวลา 6 ชั่วโมง 5 นาที ที่ภารกิจสำเร็จลงอย่างสมบูรณ์


ภารกิจนี้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ ในระหว่างทางมีรถจักรยานยนต์ฉุกเฉินทางการแพทย์ หรือ “ม้าเร็ว” มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จ.อุดรธานี ขับทำความเร็ว 160 กม./ชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้รถตำรวจทางหลวงและขบวนรถกู้ชีพปฏิบัติภารกิจนำหนูน้อยเข้ารับการผ่าตัดหัวใจให้ทันเวลา และมีรถตำรวจทางหลวงนำขบวนแข่งกับเวลาที่ต้องไปถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อเข้ารับการผ่าตัดก่อน 14.00 น.

ผอ.รพ.หนองคาย เผยสาเหตุส่งตัวเด็กลาวผ่าตัดด่วน
นพ.สมศักดิ์ ประฎิภาณวัตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย เปิดเผยว่า เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างเอกอัครราชทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลจุฬาฯ คณะแพทย์จุฬาลงกรณ์ มูลนิธิเพื่อการสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก กระทรวงสาธารณสุข สปป ลาว โรงหมอมะโหสถ นครหลวงเวียงจันทน์

โดยทำการคัดกรองผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจแต่กำเนิดใน สปป ลาว ให้ได้รับการผ่าตัดรักษาในประเทศไทย เคสแรกทางโรงพยาบาลหนองคาย เป็นผู้นำส่งผู้ป่วย ได้รับการผ่าตัดไปแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 66 ขณะนี้อาการปกติ กลับไปใช้ชีวิตที่ สปป ลาวได้แล้ว เคสที่เดินทางวันนี้เป็นเคสที่ 2 เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว แพทย์จุฬาฯ ประเมินแล้วว่าปลอดภัยก็จะมาพักฟื้นที่โรงพยาบาลหนองคายต่อ จนผู้ป่วยอาการปกติก็จะส่งตัวกลับ สปป ลาว


เคสที่ 2 เด็กชายอายุ 10 เดือน เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด มีภาวะเขียวแต่กำเนิด เมื่อร้องจะตัวเขียว มีความผิดปกติของเส้นเลือด มีภาวะเส้นเลือดผิดปกติ ถ้าร้องเมื่อไรก็จะเขียว ถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดส่วนใหญ่จะเสียชีวิต จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขตั้งแต่เด็ก ครอบครัวผู้ป่วยไม่มีค่าใช้จ่าย (และมีเคสที่ 3 เป็นหญิง อายุ 1 ขวบ เป็นลักษณะเหมือนกับเคสที่ 2 หัวใจผิดปกติแต่กำเนิด โรงพยาบาลจุฬาฯ จะประเมินผู้ป่วยอีกทีว่าจะผ่าตัดแบบใด เพื่อให้เด็กปลอดภัยที่สุด และจะได้นัดคิวส่งต่อไปรักษา)

โรงพยาบาลหนองคาย เป็นที่รับส่งต่อ แต่เนื่องจากไม่มีหมอหัวใจเด็ก จึงทำการคัดกรองร่วมกับทีมจุฬาที่นครหลวงเวียงจันทน์ แล้วทำรายชื่อผู้ป่วยที่พิจารณาเข้ารับการรักษาเข้าคิวรอการผ่าตัด ประเมินว่าจะสามารถเดินทางด้วยรถยนต์เข้ารับการผ่าตัดได้เมื่อไร เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด ตอนนี้มีรายชื่อทั้งหมด 37 คนเข้าคิวไว้แล้ว 3 คน เด็กกลุ่มนี้มีความเขียวพิการแต่กำเนิด การเดินทางที่ใช้เวลานานจะมีปัญหาอุปสรรค กลุ่มนี้อยากให้เดินทางไปถึงเร็วที่สุด ซึ่งไม่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ เพราะบางทีถ้าขึ้นเครื่องบินแล้วมีความกดอากาศ ถ้าเด็กร้องก็จะเขียวมาก หากเขียวบนเครื่องจะไม่ปลอดภัยกับเด็ก

พร้อมขอบคุณตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจร ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนที่เอื้ออำนวยให้รถรีเฟอร์เดินทางได้อย่างรวดเร็ว เด็กปลอดภัย ทุกคนมีส่วนร่วมในการรักษาชีวิตเด็ก คาดว่าเด็กที่ตรวจอาการแล้วทั้ง 37 คน จะได้รับการเข้าคิวผ่าตัดแล้วเสร็จภายในปี 2567 เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วเด็กจะได้รับการติดตามอาการจากโรงหมอมะโหสถของลาว หากมีอาการผิดปกติก็จะมีการหารือกับโรงพยาบาลหนองคาย พิจารณาเป็นรายๆ ไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]