“ศุภมาส” เชิญ “จุฬาฯ-อุเทนถวาย” ประชุมปมย้ายอุเทนถวายออกจากพื้นที่

อว. 25 ต.ค. – “ศุภมาส” เชิญ “จุฬาฯ-อุเทนถวาย” ประชุมหาทางออกร่วมกันตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้ย้ายอุเทนถวายออกจากพื้นที่เดิม เผยเข้าใจความรู้สึกของทุกฝ่าย สั่งทำแผนการย้ายเพื่อไม่ให้กระทบนักศึกษา


นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อดำเนินการตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. รักษาราชการแทนปลัดกระทรวง อว. ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนกรมธนารักษ์ ผู้แทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เข้าร่วมประชุม

นางสาวศุภมาส เปิดเผยหลังการหารือว่า การประชุมหารือครั้งนี้ถือเป็นการหาทางออกร่วมกัน ภายหลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออกจากพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 โดยจะต้องดำเนินการภายใน 60 วัน หลังจากมีคำสั่ง ตนในฐานะรัฐมนตรีที่มีหน้าที่กำกับดูแลทั้งสองสถาบันอุดมศึกษาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน รู้สึกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าของอุเทนถวาย แต่เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปตามหลักนิติรัฐ ที่ยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กระทรวง อว. จำเป็นต้องยึดคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่จะให้ทางอุเทนถวายส่งมอบพื้นที่เดิมและหาพื้นที่ใหม่สำหรับจัดการเรียนการสอน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการผ่อนปรนมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ตนจะดูแลให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงจะดูแลในมิติทางสังคม โดยเฉพาะอัตลักษณ์ของอุเทนถวายที่มีมายาวนานกว่า 93 ปี


ขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องและ มทร.ตะวันออก ทำแผนการย้ายเพื่อไม่ให้กระทบนักศึกษา ขณะที่การจัดหาพื้นที่ใหม่ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. และหน่วยงานรัฐจะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ และจะช่วยเร่งดำเนินการประสานงานไปยังหน่วยงาน เช่น กรมธนารักษ์ ในการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสม เป็นที่พึงพอใจกับทุกฝ่ายต่อไป โดยวันนี้ได้มีการสั่งการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) และคำสั่งศาล รวมถึงจัดทำแผนในการขยับขยายและจัดหาพื้นที่ใหม่ โดยจะเชิญศิษย์เก่าอุเทนถวายเข้าร่วมเป็นคณะทำงานชุดนี้ด้วย ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะมีการจัดประชุมในสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]