fbpx

กรมอนามัย ตรวจเข้มร้านจำหน่ายสมุนไพรควบคุม ต้องได้รับใบอนุญาต

สธ. 9 ก.พ. – กรมอนามัย ตรวจเข้มร้านจำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ต้องได้รับใบอนุญาตและต้องกำชับลูกค้าไม่ให้สูบกัญชาในบริเวณสถานประกอบกิจการส่งกลิ่นเหม็นและควันก่อเหตุรำคาญ


เจ้าหน้าที่กรมอนามัย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีคลิปวิดิโอลูกค้าชาวต่างชาติยืนต่อแถวรอซื้อกัญชาและรวมกลุ่มสูบกัญชาในบริเวณสถานประกอบการแห่งหนึ่งในย่านลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการจำหน่ายเพียงช่อดอกกัญชา ไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มผสมกัญชา ย้ำ ต้องได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมีการสูบกัญชาส่งกลิ่นเหม็นและควันรบกวนผู้อื่น อาจเข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ และถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นำโดย เจ้าหน้าที่จากกองกฎหมาย สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ โดยมี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจลุมพินี ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบกิจการจำหน่ายกัญชาแห่งหนึ่ง ย่านลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พบว่าสถานประกอบกิจการดังกล่าวมีการจำหน่ายกัญชา ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้า (ภท.11) จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแล้ว และไม่พบว่ามีการทำ ปรุง ประกอบ หรือการจำหน่ายอาหารประเภทปรุงสำเร็จหรือเครื่องดื่มที่ผสมกัญชาแต่อย่างใด


นพ.อรรถพล กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่กรมอนามัยยังได้เน้นย้ำอีกว่า นอกจากการขออนุญาตของสถานประกอบการให้ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ควรแจ้งผู้รับบริการห้ามสูบกัญชาในพื้นที่บริเวณสถานประกอบการ เนื่องจากหากพบว่ามีการสูบกัญชาส่งกลิ่นเหม็นและควันที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนหรือผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงจะถือว่าเข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ซึ่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มีอำนาจออกคำแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไขและระงับเหตุรำคาญ หากยังไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม สามารถออกคำสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารสถานที่ นั้น ระงับเหตุรำคาญภายในระยะเวลาอันสมควร และกำหนดวิธีการเพื่อป้องกันมิให้มีเหตุรำคาญเกิดขึ้นในอนาคตได้

“ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 28 ดังกล่าวข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนร้านอาหารที่ใช้กัญชาในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารประเภทปรุงสำเร็จเพื่อการจำหน่าย ต้องติดข้อความหรือป้ายสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการใช้กัญชาที่ชัดเจน แสดงเมนูอาหาร และแสดงข้อแนะนำในการบริโภคอาหารที่มีกัญชา และต้องขอรับใบอนุญาต หรือขอรับหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มาตรา 38 กำหนดให้ผู้ใดจะจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารในอาคารหรือพื้นที่ใดซึ่งมีพื้นที่เกิน 200 ตารางเมตร และไม่ใช่เป็นการขายของในตลาด ต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนการจัดตั้ง ถ้าสถานที่ดังกล่าวมีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเพื่อขอรับหนังสือรับรองการแจ้งก่อนการจัดตั้ง หากไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือกรณีไม่มีหนังสือรับรองการแจ้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท เช่นเดียวกัน” . -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้