แรงงานเมียนมาทนหิวไม่ไหว ยอมให้ จนท.จับ

ประจวบคีรีขันธ์ 17 พ.ย. – จับแรงงานเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง บริเวณทางช่องทางธรรมชาติ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เผยมาพักคอยรอนายหน้ามารับ 2 วัน 2 คืน เปียกฝนและอดอาหารจนทนไม่ไหว จึงพร้อมใจกันเดินเท้าลงมา หวังไปตายเอาดาบหน้า


ชายแดน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงพบปัญหาการลักลอบข้ามแดนเข้ามาต่อเนื่อง ล่าสุดแรงงานเถื่อนเมียนมาที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ายอมออกมาให้เจ้าหน้าที่จับ หลังคอยนายหน้าไม่มารับ อดอาหารหลายวัน

พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่ พร้อมฝ่ายปกครอง ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองจำนวน 86 คน เป็นชาย 52 คน หญิง 34 คน บริเวณทางช่องทางธรรมชาติ แนวรอยต่อระหว่างช่องสิบศพ ช่องหุบตาหลี ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยควบคุมตัวส่งศูนย์พักคอยที่หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร โดยมีสาธารณสุขจังหวัดเข้าตรวจหาเชื้อโควิด


จากการสอบถามแรงงานชาวเมียนมา ระบุว่ามาพักคอยรอประสานนายหน้ามารับอยู่ที่ป่าแนวสันแดนเทือกเขาตะนาวศรี 2 วัน 2 คืน เปียกฝน และอดอาหาร อิดโรยจนทนไม่ไหว จึงพร้อมใจกันเดินเท้าลงมา หวังไปตายเอาดาบหน้า หากโดนเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยจับได้อย่างน้อยก็มีอาหารให้กิน ขณะนี้ยังมีเพื่อนร่วมชาติรออยู่ที่บ้านมูด่องอีกกว่า 1,000 คน ซึ่งได้เดินทางมาจากเมืองต่างๆ และพร้อมจะเดินทางเข้ามาไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยอ้างว่ามีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมา

สำหรับการจ่ายค่านายหน้าให้ขบวนการค้าแรงงานเถื่อน หากไม่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจับกุมระหว่างเดินทาง แรงงานเมียนมาจะจ่ายค่านำพาให้นายหน้าหลังจากได้ทำงานที่จังหวัดปลายทางแล้วคนละ 18,000-20,000 บาท จากนั้นรอขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาลไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีข้อมูลจากฝั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ระบุว่าที่ผ่านมากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สามารถเดินทางไปตรวจสอบการลักลอบเข้าเมืองบนภูเขาหรือแนวช่องทางธรรมชาติ แต่มีบางหน่วยงานมีข้อห้าม ไม่ทราบว่าวิตกกังวลเรื่องใดกับการทำงานของผู้นำท้องที่ ทำให้นายอำเภอในขณะนั้นต้องเรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งให้ดำเนินการตามคำสั่ง และต่อมากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้จับกุมแรงงานเถื่อนหนีเข้าเมืองได้ต่อเนื่องบริเวณแนวชายเขา จึงมีข้อสงสัยว่าแรงงานเถื่อนเหล่านั้นเดินเท้าเข้ามาในประเทศได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย