เชียงใหม่ 11 ก.พ.- ครูสาวพร้อมเด็กนักเรียนพิเศษวัย 8 ขวบ ออกเดินศึกษาธรรมชาติ เส้นทางดอยสุเทพ บ้านขุนช่างเคี่ยน เชียงใหม่ แต่หลงป่านาน 8 ชั่วโมง สุดท้ายครูพาเดินป่าฝ่าความมืดออกมาได้ ทีมกู้ภัยโล่งอก
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งมีครูและเด็กนักเรียนวัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ หลงป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย บริเวณบ้านขุนช่างเคี่ยน เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อ.เมือง เชียงใหม่ ขณะเดินกลับจากเดินท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้านกว่า 100 นาย ปูพรมค้นหาในป่าบริเวณดังกล่าวทันที
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลทราบว่า ได้มีกลุ่มครูและนักเรียนจากศูนย์การเรียนรู้พอดีพอดี อ.เมืองเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเดินป่า โดยมีครู 3 คน และนักเรียนที่เป็นเด็กพิเศษอีก 7 คน ออกเดินจากบริเวณศูนย์พุทธธรรมหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ขึ้นไปตามเส้นทางเดินป่าไปยังหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ที่อยู่บนดอย ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. ของวานนี้ (10 กุมภาพันธ์) จากนั้นเวลา 14.30 น. คุณครูได้พาเด็ก ๆ เดินกลับ แต่เมื่อมาถึงในเวลาประมาณ 17.00 น. ก็พบว่าน้องอะตอม เด็กชายวัย 8 ขวบ พร้อมกับนางสาวสาลินี เอื้อกิตติกุล คุณครูผู้ดูแลหายไป เมื่อรอนานกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังมาไม่ถึง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ คาดว่าหลงป่า เนื่องจากเป็นช่วงกลางคืนและไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์มือถือได้
เจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านได้ช่วยกันค้นหานานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัว จนกระทั่งเวลา 22.30 น. พบว่านางสาวสาลินีได้พาน้องอะตอมเดินลงมาถึงบริเวณศูนย์พุทธธรรมหนองฮ่อ สร้างความดีใจให้กับกลุ่มครูที่รออยู่ด้านล่าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กูภัยและตำรวจที่กำลังวางแผนออกตามหาในคืนนี้ โดยทั้งสองมีท่าทีอิดโรยจากการเดินป่าหลายชั่วโมง แต่ยังมีกำลังใจดีและไม่มีอาการตื่นตระหนก โดยนางสาวสาลียกมือไหว้ขอบคุณทุก ๆ คนที่เป็นห่วงและออกติดตาม ขณะที่น้องอะตอมร้องไห้ขอโทษทุกคนที่มาถึงช้าจนทำให้ทุกคนเป็นห่วงในเวลาเดียวกันนางจุฑารัตน์ สิทธิสันติกุล แม่ของน้องอะตอมพร้อมด้วยพ่อของน้อง โผเข้ากอดน้องอะตอมทันทีที่เดินทางมาถึงและพบหน้าลูกชาย พร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันออกตามหาและขอบคุณคุณครูที่ดูแลลูกชายและพาเดินกลับมา
นางสาวสาลินี เล่าว่า หลังจากเดินไปถึงหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยนในช่วงบ่าย กลุ่มครูได้พาเด็ก ๆ เดินกลับ แต่น้องอะตอมปวดขาทำให้เดินช้าไม่ทันกลุ่ม ประกอบกับโทรศัพท์มือถือแบตหมด จึงไม่สามารถติดต่อกับครูคนอื่นได้ จึงสอบถามเส้นทางจากชาวบ้านและค่อย ๆ พาน้องอะตอมเดินลงมาช้า ๆ เนื่องจากมีอาการปวดขาและได้หยุดพักเป็นช่วง ๆ ทำให้มาถึงช้า โดยบอกว่าไม่ได้หลงทางแต่ต้องเดินช้าและหยุดพัก
นางสาวสาลินี บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยพาเด็กออกเดินป่าขึ้นดอยสุเทพมาแล้ว แต่ไปคนละเส้นทางกิจกรรมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้เด็กได้มีประสบการณ์การเดินป่า เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ และได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองทุกคนแล้ว
นางจุฑารัตน์ สิทธิสันติกุล แม่ของน้องอะตอม บอกว่า หัวใจแทบสลายทันทีที่ทราบข่าว รู้สึกตกใจมากจนร้องไห้ไม่หยุด ก่อนตั้งสติออกมาจากบ้าน ยิ่งมืดยิ่งกลัว ลูกเป็นโรคหอบหืดและเป็นเด็กขี้กลัว แต่ก็ยังวางใจได้บ้างที่ไปกับครู แต่ก็อดห่วงไม่ได้ ไม่เคยคิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง และรู้สึกดีใจมากที่ลูกกลับมาได้และขอโทษเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ต้องเดือดร้อนออกมาช่วยกันตามหา.-สำนักข่าวไทย