ศรีสะเกษ 13 ส.ค. – ชาวบ้านศรีสะเกษไม่ประมาท เก็บของใช้ที่จำเป็นใส่รถไว้ หากเกิดเหตุปะทะขึ้นมาอีกพร้อมอพยพรอบ 2 ส่วนที่อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้จรวด BM-21 ลูกที่ 11
ชาวบ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะบริเวณฝั่งเขาพระวิหาร เริ่มเก็บข้าวของ สิ่งของจำเป็นใส่รถไว้ เตรียมพร้อมหากต้องอพยพอีกเป็นครั้งที่ 2 บางส่วนย้ายออกจากพื้นที่ไปก่อนแล้ว เพื่อความสบายใจ
ทีมข่าวคุยกับคุณเพ็ง เล่าว่า กังวลว่าอาจจะมีการปะทะอีก ครอบครัวจึงเตรียมพร้อมขนของขึ้นรถ กลัวว่าถ้าเกิดเหตุอีกจะเตรียมตัวไม่ทัน วางแผนว่าคงอพยพไปอยู่บ้านญาติที่อยู่อีกอำเภอ เพราะที่บ้านมีหลานเพิ่งคลอด อายุแค่เดือนกว่าๆ ตอนนี้ลำบากมาก จะอยู่ที่นี่ต่อก็กังวลสถานการณ์ จะไปอยู่ที่อื่นก็ไม่มีเงิน เพราะช่วงนี้ประกอบอาชีพไม่ได้ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินซื้อนมให้หลาน ยอมรับว่าถ้าต้องอพยพอีกก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนใช้กินอยู่ในครอบครัว ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านก็เตรียมตัวอพยพกันออกไปเกือบหมดแล้ว

EOD ทำลายระเบิดกลางสวนยาง แค่ 2 ตำบล พบถึง 22 ลูก
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ ชุดอีโอดี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำลายระเบิดชนิด PG7 ที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งตกกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง ทั่วสวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก โดยวานนี้ (12 ส.ค.) ทำลายทั้งหมด 7 ลูก
นายสมพงษ์ อายุ 38 ปี เจ้าของสวนยาง บอกว่า คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายให้หมดก่อน ค่อยเข้ามากรีดยางต่อไป ซึ่งในพื้นที่นี้เป็นพื้นที่สู้รบ ด้านปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ทำให้ 2 ตำบล คือ ต.บักได และ ต.ตาเมียง มีการตรวจพบลูกระเบิดที่ยังไม่ทำงาน 22 ลูก
EOD เก็บกู้ BM-21 เชื่อพื้นที่ 90% ปลอดภัยแล้ว
ที่ จ.อุบลราชธานี EOD พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบจรวด BM-21 ที่ทางกัมพูชายิงเข้ามาแต่ไม่ทำงาน จมอยู่ในโคลนลึกประมาณ 1.30 เมตร บริเวณทุ่งนา ต.ศรีวิเชียร อ.น้ำยืน เจ้าหน้าที่จึงใช้ระเบิด 4 ปอนด์ อัดทำลาย ทำให้เกิดหลุมกว้าง 3.80 ซม. ลึก 1.50 เมตร โดยไม่มีทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งจรวดลูกนี้เป็นลูกที่ 11 ของการเก็บกู้ทำลาย โดยรวมแล้วจะเป็นจุดที่ 69 และยังมีจุดต้องสงสัยอีก 1 จุด
บุรีรัมย์พบปืนใหญ่กัมพูชาตกกว่า 200 ลูก
ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบปืนใหญ่และจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชาตกลงมาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ไม่ต่ำกว่า 221 ลูก และคาดว่าน่าจะมีจำนวนมากกว่านี้อีก เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ร่วมกับตำรวจ EOD ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จึงต้องลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และผู้นำชุมชนเกี่ยวกับอันตรายของทุ่นระเบิด และวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด โดยห้ามไม่ให้ทำการหยิบจับหรือเคลื่อนย้าย และแนะนำให้ประชาชนสำรวจพื้นที่ หากมีจุดไหนผิดปกติไปจากเดิม หรือเห็นวัตถุระเบิด วัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย