อุดรธานี 5 ก.ค. – ตำรวจเรียกสอบ “อดีตลูกสะใภ้” หญิงวัย 54 ปี ปมน้ำเขียวมรณะ พร้อมนำตัวตรวจหาสารเสพติดและพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อเปรียบเทียบกับลายนิ้วคนร้ายบนขวดน้ำเขียว
จากกรณีนางสาริณี อายุ 54 ปี ดื่มน้ำอัดลมสีเขียวที่ไม่รู้ว่าใครนำวางไว้หน้าบ้าน 2 ขวด ก่อนทำให้น้ำลายฟูมปากและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายศุภชัย อายุ 37 ปี ลูกชาย ดื่มน้ำอัดลมสีเขียวขวดเดียวกัน แต่อาการไม่รุนแรง ช่วยเหลือตัวเองด้วยการล้วงคออาเจียน แต่ไม่สามารถช่วยแม่ไว้ได้ เพราะกว่านายถวัลย์ อายุ 53 ปี สามีจะกลับมาจากวางตาข่ายดักปลากลางทุ่งนาหลังบ้าน ก็พบภรรยานอนน้ำลายฟูมปาก พูดไม่ได้ และหนักกว่านั้นคือไม่มีรถพาไปโรงพยาบาล กว่าจะแจ้งญาติให้นำรถพาภรรยาไปส่งโรงพยาบาล นางสาริณีก็เสียชีวิตแล้ว เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุตำรวจนำศพนางสาริณีส่งชันสูตรหาสารพิษที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ก่อนนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดทุ่งสว่าง ต.อูบมุง อ.หนองวัว จ.อุดรธานี
ด้านตำรวจอุดรธานีประชุมทีมสืบสวนและแบ่งชุดทำงาน 2 ชุด ลงพื้นที่ติดตามพยานบุคคลในพื้นที่ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะลูกสะใภ้ และพยานแวดล้อมจากเพื่อนบ้านข้างเคียง
โดยตำรวจตั้งปมไว้ 2 ประเด็น 1.ความขัดแย้งภายในครอบครัว คือปมปัญหากับลูกสะใภ้ สำหรับลูกสะใภ้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามมาสอบปากคำ เพราะหลังทะเลาะกับครอบครัวนี้ก็หายออกจากบ้านไป แต่ได้ข้อมูลว่ายังวนเวียนในหมู่บ้าน 2.ความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน เนื่องจากครอบครัวผู้ตายเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ผู้สื่อเดินทางที่บ้านเกิดเหตุ และตรวจหาภาพวงจรปิดบ้านที่อยู่ติดริมถนน ก่อนถึงบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบว่าเวลา 20.18-22.00 น. มีรถจักรยานยนต์ขับผ่านไปทางบ้านผู้เสียชีวิต 4 คัน คาดว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นรถชาวบ้านที่ไปหาปลา และนายถวัลย์ขอความช่วยเหลือ รวมถึงบางคันอาจจะเป็นรถต้องสงสัยที่ขับมาก่อเหตุ จากนั้น เวลา 00.09 น. มีรถจักรยานยนต์ขับเข้าหมู่บ้าน กระทั่งเวลา 00.44 น. จะเห็นรถกู้ชีพเทศบาลตำบลอูบมุง ขับไปที่เกิดเหตุ
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.หนองวัวซอ เพราะตำรวจได้เชิญสามีและลูกชายผู้เสียชีวิต รวมถึง น.ส.น้อง อายุ 34 ปี อดีตลูกสะใภ้ มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อไปเปรียบกับลายนิ้วคนร้ายบนขวดน้ำเขียว
ด้านสามีผู้ตาย บอกว่า ตนไม่สงสัยลูกชาย แต่ลูกสะใภ้ตนก็สงสัย แต่ตนไม่เคยเห็นผู้ตายกับลูกสะใภ้ทะเลาะกัน แต่ลูกสะใภ้จะชอบเที่ยวเตร่ ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน มีแต่ตนออกไปหาปลามาทำกับข้าวให้กิน อยู่กินกับผู้ตายมา 3 ปี ผู้ตายเป็นทั้งเพื่อนนักเรียน เรียนหนังสือมาด้วยกัน และมาเป็นสามีภรรยากัน รู้สึกเสียใจ หลังจากนี้ตนจะกลับไปอยู่บ้านตัวเอง
ส่วนลูกชายผู้ตาย เล่าว่า บ้านจะเลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว จะเห่าคนแปลกหน้า บางครั้งก็เห่าเจ้าของบ้าน วันเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงสุนัขเห่าเลย คาดว่าจะเป็นคนที่สุนัขคุ้นเคยก็ได้ ตนและภรรยาจะทะเลาะกันประจำ เรื่องภรรยาชอบเที่ยวเตร่ หายจากบ้านไปหลายวัน ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนกับใคร ส่วนแม่กับภรรยาตนจะทะเลาะมีปากเสียงกัน เรื่องภรรยาตนชอบเที่ยว ไม่ทำงานบ้าน ไม่ดูแลครอบครัว แต่ทะเลาะไม่รุนแรง และจะดีกันเหมือนเดิม ภรรยาตนจะพูดว่าไม่โกรธแม่เลย ส่วนน้ำอัดลมสีเขียว แม่ไม่ซื้อมาแน่นอน เพราะแม่ไม่ชอบน้ำอัดลม
ส่วนผลตรวจหาสารพิษในร่างกายของผู้ตาย อีกประมาณ 30 วัน จึงจะทราบว่าเป็นสารพิษชนิดใด จากนั้นจะนำไปหาเบาะคนร้าย ว่าซื้อน้ำอัดลมจากร้านชำในหมู่บ้าน หรือร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงยังไม่ทราบว่าน้ำอัดลมที่ยังไม่ได้เปิดขวดจะมีสารพิษเหมือนกันหรือไม่ ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ขณะเดียวกันจะต้องพิสูจน์ลายนิ้วมือบนขวดน้ำอัดลม ว่าตรงกับลายมือผู้ใดด้วย.-สำนักข่าวไทย
