แม่สุดเศร้า รพ.วินิจฉัยโรคผิด-ล่าช้า ทำลูกวัย 3 เดือน เสียชีวิต

นนทบุรี 15 ม.ค. – แม่สุดเศร้า! ร้องโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี วินิจฉัยโรคผิดและรอตรวจนาน 8 ชั่วโมง ทำลูกวัย 3 เดือน เสียชีวิต ครอบครัวติดใจขั้นตอนการทำงานของแพทย์ จึงอยากให้โรงพยาบาลรับผิดชอบ


นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เข้าพบ น.ส.วารินทร์ อายุ 36 ปี แม่ของน้องเมย์ อายุ 3 เดือน เพื่อสอบถามรายละเอียด หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า น.ส.วารินทร์ พาน้องเมย์เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี แพทย์วินิจฉัยว่าน้องเมย์เป็นโคลิก จ่ายยาแล้วให้กลับบ้าน แต่ น.ส.วารินทร์ ขอร้องให้ตรวจลูกอย่างละเอียด ซึ่งแพทย์ให้นั่งรอตรวจนานเกือบ 8 ชั่วโมง สุดท้ายน้องเมย์เสียชีวิต ครอบครัวติดใจขั้นตอนการทำงานของแพทย์และโรงพยาบาล ที่ใช้เวลานานเกินไป และยังวินิจฉัยโรคผิด ทำให้เด็กไม่ได้รับการรักษา จึงอยากให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบ

น.ส.วารินทร์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.30 น. ลูกสาววัย 3 เดือน กินนมได้น้อย กินนมนานผิดปกติ ดูดแล้วปล่อย จึงพาน้องเมย์ไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง แพทย์แจ้งว่าน้องท้องอืด ให้ยาและให้พากลับบ้าน แต่ตนแจ้งแพทย์ว่าลูกหายใจแรง สังเกตเห็นใต้ซี่โครงยุบผิดปกติ แพทย์บอกว่าโรงพยาบาลตรวจละเอียดไม่ได้ เพราะไม่มีประวัติเด็ก ถ้าต้องการตรวจให้ละเอียดต้องพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่น้องคลอด จึงพาน้องเมย์กลับบ้าน เพราะเย็นแล้วคิดว่าไปที่โรงพยาบาลคงไม่มีหมอ


พอรุ่งเช้าพบว่าลูกมีอาการหายใจแรงมากขึ้น และไม่ยอมกินนม จึงถ่ายคลิปให้แฟนดู แฟนจึงให้พาลูกไปโรงพยาบาล เมื่อมาถึงโรงพยาบาล กดบัตรคิวรอ เห็นอาการลูกไม่ดีจึงบอกกับพยาบาลขอลัดคิวได้ไหม แต่ได้รับคำตอบว่ารอตามคิว นั่งรอพบแพทย์จนถึงเวลา 17.00 น. หลังตรวจร่างกาย แพทย์แจ้งว่าน้องเมย์ปกติ บอกว่าเป็นโคลิก โดยให้รับยาแล้วกลับบ้าน แต่ตนเห็นอาการลูกเหนื่อยมาก ไม่ยอมให้อุ้มพาดบ่า เจ้าหน้าที่พาไปตรวจแล้วนำเอกสารมาให้เซ็น แจ้งว่าต้องให้น้องนอนโรงพยาบาล พยาบาลรีบถอดเสื้อผ้าออก พ่นยาให้ลูกที่มีอาการหอบ

จากนั้นพยาบาลเจาะเลือดไปตรวจ ตอนแรกขึ้นไปบนเตียงดูลูกเห็นลูกตากลิ้งไปกลิ้งมา แขนไม่มีแรง มีอาการกระตุก จึงเรียกพยาบาลมาดู แต่เขาแค่มองแล้วก็ปิดประตูกลับไป จนป้าที่อยู่เตียงข้างๆ วิ่งไปบอกพยาบาล เขาจึงออกมาดูสายน้ำเกลือ สายพ่นจมูกเขาก็บอกว่าปกติ แต่เด็กพยายามจะเอาออก จนครั้งที่ 2 ลูกชักกระตุกอีก จึงเรียกหมอและพยาบาลมาวัดไข้ แต่ไม่มีไข้ จนเวลา 21.00 น. มือน้องเมย์เริ่มเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้าห้องไอซียู

ผลเอกซเรย์ออกปรากฏว่าน้องเมย์หัวใจโต แพทย์แจ้งว่าต้องผ่าตัด และต้องรอหมอเฉพาะทาง เพื่อเปลี่ยนหัวใจ และต้องอาศัยปาฏิหาริย์ กระทั่งเวลา 02.00 น. น้องเมย์หัวใจล้มเหลว แพทย์ต้องปั๊มหัวใจกลับมา แต่หลังจากนั้นน้องหายใจได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ พอน้องเริ่มตัวเขียว มือและเท้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง ทราบว่าน้องหัวใจล้มเหลวครั้งที่ 2 จากการปั๊มหัวใจรอบสอง แต่หัวใจน้องไม่ดีขึ้นแล้ว สุดท้ายน้องเสียชีวิตเวลา 02.40 น. ตนติดใจระยะเวลารักษาที่รอนานเกิน แถมเจ้าหน้าที่กลับมาว่าตนเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดอีก หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลโทรมาหลายครั้ง แต่ไม่มีคำขอโทษ


นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่อไปจะพาแม่เด็กไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี ไปหา ดร.ธนกฤต ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และแพทยสภาต้องเข้ามาดูแล ต้องฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ต้องลงมากำกับดูแล ตรวจสอบโรงพยาบาลแห่งนี้

ส่วนบรรยากาศที่วัดไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ครอบครัวและญาติร่วมกันทำพิธีฌาปนกิจศพน้องเมย์ วัย 3 เดือน ท่ามกลางความโศกเศร้าและสะเทือนใจอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน