fbpx

เปิดไทม์ไลน์อดีต ตร.คลั่ง กราดยิง ตายแล้ว 38 ราย

หนองบัวลำภู 6 ต.ค. – เปิดไทม์ไลน์เหตุสะเทือนขวัญ อดีตตำรวจกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 38 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กเล็กกว่า 20 คน


เหตุการณ์ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ (ตร.นอกราชการ) ใช้อาวุธปืนยิงประชาชน และเด็กเล็ก ที่ศูนย์เด็กเล็ก ใน อ.นากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู รวมถึงใน อบต.นากลาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก่อนขึ้นรถกระบะ สีขาว ทะเบียน 6 กธ 6499 กทม. หลบหนี ระหว่างทางได้ขับรถชนและทำร้ายชาวบ้าน

ตัวเลขผู้เสีย ล่าสุดอยู่ที่ 38 คน แบ่งเป็น


  • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 24 คน เป็นเด็กเล็ก 22 คน ผู้หญิง 2 คน
  • ที่ทำการ อบต.อุทัยสวรรค์ เสียชีวิต 2 คน เป็นเด็กชาย 1 คน ผู้ใหญ่เพศชาย 1 คน
  • บ้านท่าอุทัย ซึ่งเป็นบ้านผู้ก่อเหตุ เสียชีวิต 5 คน แยกเป็นเด็กชาย ลูกผู้ตาย 1 คน ผู้ชาย 2 คน 1 ในนั้นคือผู้ก่อเหตุ และผู้หญิง 2 คน
  • กลางบ้านท่าอุทัย มีหญิงเสียชีวิต 1 คน
  • บ้านหนองกรุงศรี ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน
  • เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 5 คน

และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู จนทางโรงพยาบาลต้องประกาศรับบริจาคเลือดทุกกรุ๊ปด่วน ปรากฏว่าหลังประกาศไปไม่นาน มีประชาชนแห่ไปบริจาคจำนวนมาก เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ในเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก รพ.หนองบัวลำภู ได้ประกาศปิดการรับบริจาค เนื่องจากเลือดเพียงพอกับความต้องการแล้ว และมีผู้บาดเจ็บสามารถกลับบ้านได้แล้ว 3 คน ส่งต่อโรงพยาบาลอื่นอีก 7 คน รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด 47 คน

ขณะที่มีครูที่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด โดยเพื่อนโดนยิง แต่ปีนกำแพงหนีออกมาได้ทัน เล่าถึงวินาทีคนร้ายบุกเข้ามาในศูนย์เด็กเล็ก เข้าไปสังหารโหดเด็กและเพื่อนร่วมงาน เป็นครูท้องแก่ต่อหน้าต่อตา

โดยช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่เด็กนอนกลางวัน ครูได้ยินเสียงดังเหมือนประทัด แต่เมื่อได้ยินหลายนัด จึงรู้ว่าเป็นเสียงปืน เมื่อเดินไปดู เห็นคนร้ายกำลังใส่กระสุน ชุดใหม่ จึงวิ่งหนีไปหลบ พร้อมตะโกนบอกเพื่อนครูคนอื่นให้หลบเอาตัวรอด ลักษณะคนร้าย เหมือนคนเมายา ไม่ฟังใคร หลังใช้ปืนยิงแล้ว ยังเอามีดฟันครู 2 คน บาดเจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม ได้พบหนูน้อยรอดชีวิตมาได้ 1 คน ซึ่งไม่ได้วิ่งไปหลบที่ไหน แต่นอนหลับอยู่ในห้อง คาดว่าคนร้ายน่าจะไม่เห็น


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่า จนสืบทราบว่า ส.ต.อ.ปัญญา กลับไปที่บ้านพัก ที่บ้านท่าอุทัย อำเภอนาวัง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร จึงเข้าปิดล้อม เจรจา ก่อนพบว่า ส.ต.อ.ปัญญา ฆ่าตัวตายพร้อมลูกชายและภรรยา ในสภาพนอนกอดลูกและภรรยาบนที่นอน ส่วนด้านนอกบ้านพัก พบรถยนต์ที่ใช้ขับหลบหนีถูกเผาทำลาย ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ และชนิดปืนที่ใช้ก่อเหตุ ว่าเป็นปืนของรัฐ ปืนส่วนตัว หรือเป็นปืนเถื่อนนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ย้อนดูไทม์ไลน์เหตุการณ์

  • เวลาประมาณ 12.10 น. คนร้ายเข้ามาใช้ปืนกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู ก่อนขึ้นรถกระบะ วีโก้ 4 ประตู สีขาว หลบหนี ระหว่างทางได้ขับรถชนและทำร้ายชาวบ้าน
  • เวลา ประมาณ 14.00 น. เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองหนองบัวลำภู ประกาศติดตามตัว นายปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุ
  • เวลา 14.29 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. บินด่วนลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.
  • 14.41 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ยืนยัน คนร้ายเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ อ.นาวัง ห่างจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้สกัด และอยู่ระหว่างการปิดล้อมและเจรจา ก่อนพบคนร้ายตัดสินใจปลิดชีพ พร้อมลูกเล็กและภรรยาภายในบ้านพัก

สำหรับ ส.ต.อ.ปัญญา เคยรับราชการตำรวจมาเป็นเวลา 10 ปี ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2555 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เป็น ผบ.หมู่ ป้องกันปราบปราม สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ในยศสิบตำรวจตรี ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาวัง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562

เมื่อย้ายมาที่ สภ.นาวัง เริ่มมีปัญหาทะเลาะกับแฟน เนื่องจากแฟนไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และเริ่มมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจนร่างกายซูบผอม มีอารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเพื่อนข้าราชการตำรวจต่างทราบดีและไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคาร ส.ต.อ.ปัญญา ไม่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ กลับไปนอนอยู่ในรถซึ่งจอดไว้หน้าธนาคาร เมื่อผู้จัดการธนาคาร ได้ขอความช่วยเหลือโดยให้คุ้มกันการเคลื่อนย้ายนำเงินเข้าเครื่อง ATM กลับแสดงอาการไม่พอใจ ทำท่าจะชักปืนขู่ ทำให้ผู้จัดการต้องโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

สภ.นาวัง ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตามโครงการตำรวจสีขาว ไม่ให้ข้าราชการตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังได้รับรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญา ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และต่อมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าตรวจค้นจับกุม ปรากฏหลักฐานตามบันทึกจับกุม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ส.ต.อ.ปัญญา ให้การรับสารภาพ

เมื่อถูกจับกุมได้ซักถาม ส.ต.อ.ปัญญา ได้ให้ถ้อยคำว่า “สูบยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมียาบ้าเป็นร้อยๆ เม็ด ไม่เห็นมีใครมาจับกุม” อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.ปัญญา รับสารภาพว่ายาบ้าของกลางที่ชุดจับกุมพบเป็นของตนเอง โดยได้รับมาจากอดีตตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง