แม่น้ำยมล้นตลิ่งท่วมบ้าน จ.พิจิตร กว่า 100 หลังคาเรือน

ภูมิภาค 25 ก.ย. – แม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้าน หมู่ 8 ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กว่า 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 50-60 ซม. ชาวกังวลพายุโนรูเติมระดับน้ำท่วมให้สูงขึ้น


ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพไหลหลากมาตามลำห้วยลงสู่คลองระบายน้ำในตัวเมือง น้ำเอ่อล้นออกมาจากท่อระบายน้ำและคูคลองเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และท่วมผิวการจราจรย่านถนนสิรินทร ชาวบ้านต้องขนของไว้บนที่สูง และนำรถไปจอดไว้บนถนน

เตือนประชาชนระวังน้ำป่าดอยอินทนนท์
ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามธารน้ำตกแม่กลาง เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มเฝ้าระวัง


ขณะที่ส่วนอุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ แจ้งเตือน อ.เมือง หลังพบฝนตกหนักบนดอยปุย ฝนตกติดต่อกันต่อเนื่องในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้เฉลี่ย 29-90 มิลลิเมตร ในห้วง 24 ชั่วโมง ทำให้มวลน้ำป่าหลากไหลลงสู่ธารน้ำตก โดยเฉพาะน้ำตกแม่กลาง ต.บ้านหลวง สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทำให้เช้านี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากและมีสีขุ่นแดง

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้เฝ้าระวัง พร้อมเตือนประชาชน ไม่ให้เข้าไปในบริเวณน้ำตกต่างๆ ภายในอุทยานฯ โดยน้ำป่าหลากลงสู่น้ำตกแม่กลาง

ฝนตกหนัก กำแพงเมืองเชียงใหม่พังถล่ม
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้เกิดเหตุประตูช้างเผือก ซึ่งเป็นประตูเมืองโบราณด้านทิศเหนือของเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พังถล่มเสียหายเป็นแนวยาวเกือบ 10 เมตร เศษก้อนอิฐแตกกระจัดกระจายทั่วบริเวณ ส่วนป้ายข้อมูลที่อธิบายถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์พังลงมาด้วยเช่นกัน


ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าปิดกั้นพื้นที่และเก็บเศษซากก้อนอิฐ เพื่อป้องกันอันตรายกับประชาชนและนักท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

นายอัศนี บอกว่า จากการสำรวจพบกำแพงเมืองในส่วนประตูเสียหายค่อนข้างมาก สาเหตุมาจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำซึมเข้าไปภายในจนดินอ่อนตัวเกิดพังถล่ม หลังจากนี้จะปิดพื้นที่ไปก่อนระหว่างเข้าตรวจสอบและบูรณะ

ชาวบ้านถูกน้ำท่วมกังวลพายุเติมระดับน้ำท่วม
แม่น้ำยมจาก จ.สุโขทัย ผ่าน จ.พิษณุโลก ยังคงไหลเข้าสู่พื้นที่ จ.พิจิตร และฝนที่ยังตกต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านย่านยาว หมู่ 8 ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร โดยน้ำเอ่อท่วมบริเวณชั้นล่างของบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูง 50-60 เซนติเมตร

ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมต้องหนุนของใช้ภายในบ้านให้สูงพ้นน้ำ เนื่องจากพายุโซนร้อนโนรูที่จะเข้าปกคลุม ทำให้น้ำที่ท่วมขังมีระดับเพิ่มสูงขึ้น

นางมะลิ ชาวบ้าน ต.วังจิก ระบุว่า ทุกวันต้องเดินลุยน้ำเข้าออกไปซื้อของกิน ยารักษาคนป่วยในบ้าน ซึ่งยังกังวลกับพายุที่จะเข้ามา เพราะจะทำให้เกิดฝนตกหนักและระดับน้ำท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น เกรงจะเหมือนรอบที่ผ่านมาที่ระดับน้ำท่วมสูงเกือบถึงบ้านชั้นสอง

วอนช่วยผู้ป่วยติดเตียงน้ำท่วมขัง 2 เดือน
ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เอ่อท่วมบ้านเกือบ 10 หลังคาเรือน ยายวัย 79 ปี ป่วยติดเตียง และน้องชายวัย 67 ปี ป่วยโรคเท้าช้าง ต้องใช้ชีวิตกินนอน อุจจาระ ปัสสาวะในน้ำที่ท่วมขัง 2 วัน เดือดร้อนหนัก วอนหน่วยงานช่วยเหลือ เพราะน้ำท่วมเกือบมิดเตียงนอนแล้ว

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูพบว่ามีน้ำท่วมตั้งแต่ปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน สอบถามชาวบ้านบอกว่ามีบ้านเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้เกือบ 10 หลังคาเรือน แต่ที่น่าเห็นใจมากที่สุดคือบ้านของนางจาก อายุ 79 ปี ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง อาศัยอยู่กับนายอ่ำ อายุ 67 ปี น้องชาย ซึ่งป่วยเป็นโรคเท้าช้าง ทั้งสองพี่น้องต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เพราะน้ำท่วมทั้งภายในบ้าน ห้องน้ำ ห้องครัว เตียงนอน สูงเกือบมิดที่นอน และรอบบริเวณบ้าน นอกจากจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแล้ว ยังเสี่ยงอันตรายทั้งจากสัตว์มีพิษและไฟฟ้าด้วย

จากการสอบถามนายอ่ำ บอกว่า น้ำเอ่อท่วมบ้านมา 2 วันต่อเนื่องแล้ว ทำให้ใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เพราะพี่สาวป่วยติดเตียง ส่วนตนเป็นโรคเท้าช้าง ต้องคอยหาข้าวหาน้ำและยาให้พี่สาวกิน

ขณะที่ทางเทศบาลได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังในชุมชนดังกล่าวให้ลดลงโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

อุตุฯ เตือนพายุโนรูเข้าไทย 28 ก.ย.นี้
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ได้ติดตามพายุหมุนเขตร้อน “โนรู” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา ทวีกำลังแรงขึ้นจากพายุโซนร้อนเป็นพายุไต้ฝุ่น คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะลูซอนวันนี้ และลงสู่ทะเลจีนใต้เช้าวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) จากนั้นจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย.65 และมีโอกาสเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออกของไทย บริเวณ จ.มุกดาหาร หรืออุบลราชธานี ในวันที่ 28 ก.ย.

อิทธิพลของพายุ “โนรู” จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะตอนกลางและตอนล่าง มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรง หลังจากนั้นกลุ่มฝนจะเลื่อนมาตกบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ตลอดจนภาคกลาง รวมถึง กทม. และปริมณฑล ตามแนวการเคลื่อนตัวของพายุ โดยมีผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้

ด้าน ปภ. รายงานสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัด ทำให้ตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก และปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ระหว่างวันที่ 13 ส.ค.-25 ก.ย. 65 ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 7 จังหวัด คือ ตาก อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และปทุมธานี รวม 21 อำเภอ 138 ตำบล 710 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย