“ชัชชาติ” ชมนายกฯ ไม่ติดใจช่วงรัฐประหาร

ทำเนียบ 17 มิ.ย.- “ชัชชาติ” ชมนายกฯ เป็นคนเมตตา ปัดเคลียร์ใจปมคลุมถุงดำ-มัดมือ​ช่วงรัฐประหาร​ ขอมองอนาคต เน้นทำงานยึดประโยชน์ประชาชน ยันพร้อมลงพื้นที่แจงปัญหา กทม. ระบุ 1 เดือนสัมปทาน BTS สายสีเขียวต้องคืบหน้า​


นายชัชชาติ​ สิทธิพันธ์​ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ​ ศบค. ถึงบรรยากาศการร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีครั้งแรกว่า นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีกับตนเอง และนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์  นายกเมืองพัทยา ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ทั้งสองคน  ขอให้ทำงานร่วมมือกัน โดยนายกรัฐมนตรียังได้พาเดินชมตึกภักดีบดินทร์ ซึ่งเป็นตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้น

ส่วนได้ฝากงานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น​ นายชัชชาติ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีขอให้ช่วยกันทำงาน ถือเป็นสิ่งที่ดี​เพราะผู้ว่าฯ กทม. อยู่ภายใต้การกำกับของ ศบค.​ และวันนี้ถือว่าได้พบนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก ก็ถือว่าดี​ หลังเคยพบกันนานแล้ว​ และนายกรัฐมนตรี​ เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตา​ โดยเน้นการประสานและทำงานเป็นหลัก​ ตนเองก็ต้องร่วมงานกับรัฐบาลอยู่แล้ว เนื่องจากกรุงเทพฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย


นายชัชชาติ​ ยังระบุว่า​ วันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีปัญหาอยู่​ ส่วนเรื่องหนังสือตอบคำถามจากกระทรวงคมนาคมนั้น ทางปลัด กทม.ได้ไปพูดคุยกับกระทรวงคมนาคม​เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของตัวเลขหนี้มีการพูดคุยมานานแล้ว ยอมรับว่ามีเงื่อนไขทางการเงินที่ต้องวิเคราะห์จำนวนมาก ส่วนจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อใดนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังหารือกับทางสภา ​กทม. ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันหรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ต้องใช้เวลา แต่กำหนดเบื้องต้น 1 เดือนจะต้องมีความคืบหน้ามารายงานให้ประชาชนรับทราบ

เมื่อถามว่าจะต้องมีการรื้อสัญญาที่​ คสช.ได้เจรจาไว้หรือไม่นั้น นายชัชชาติ​ ยอมรับว่า มีหลายสัญญา ตั้งแต่สัญญาสัมปทานเดิมปี 2572 สัญญาจ้างเดินรถ สัญญาที่จะขยายไปถึงปี 2602 ซึ่งมีหลายอย่างที่ต้องดู ส่วนสัญญาที่ทำไปแล้วก็ต้องดูว่าจะรื้ออย่างไร ขณะเดียวกัน สัญญาในอนาคตที่ยังไม่ได้ทำก็คงไม่มีอะไร เพราะยังไม่ได้ทำสัญญา ยอมรับว่าจะพยายามเร่งการดำเนินการเนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก

มีการเตรียมแผนสำรองหรือไม่ หากรัฐบาลไม่รับข้อเสนอของ​ กทม. นายชัชชาติ​ ระบุว่า​ จริง ๆ แล้วไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายก็ต้องสิ้นสุดอยู่ที่คณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว กทม.เป็นเพียงผู้เสนอความเห็นเข้าไป แต่ก็จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่มีอะไร คงต้องร่วมหารือกับกระทรวงมหาดไทยก่อน โดยต้องนำประโยชน์ของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง


ขณะที่เรื่องรถดับเพลิงที่มีปัญหาอยู่​ นายชัชชาติ​ กล่าวว่าต้องค่อย ๆ สางกันไป เมื่อเอกชนฟ้องร้องอยู่ในกระบวนการศาลก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องมีการไล่สางหลายเรื่อง ทั้งท่อร้อยสาย โรงงานกำจัดขยะ ซึ่งมีคณะทำงานอยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการเคลียร์ใจกับนายกฯ หรือไม่ในการใช้ถุงดำคลุมหัวและเชือกมัดมือในสมัยรัฐประหารปี 2557 นายชัชชาติ ระบุว่า “โอ้ย” ไม่เกี่ยว ไม่มี ๆ อย่างที่บอกว่าตนไม่ได้คิดอะไร ต้องมองไปในอนาคต ทำงานร่วมกัน กทม.ก็อยู่ใต้มหาดไทยอยู่แล้ว หน้าที่เราก็คือทำเพื่อผลประโยชน์ให้ประชาชนให้ดีที่สุด ถ้าเราร่วมมือกันให้ดีสุดท้ายผลประโยชน์ก็อยู่กับประชาชนหลาย ๆ เรื่อง และเมื่อสักครู่ก็ได้พูดคุยกับนายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์มีเชาว์​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน​ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ อย่างน้อยถ้าเราร่วมมือกันได้ กทม.กับรัฐบาล เช่น มาตรการประหยัดพลังงาน หาก กทม.สามารถเริ่มได้ ก็ทำเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจจากถนนคนเดิน ก็อาจมีความร่วมมือกับรัฐบาลได้ ซึ่งต้องนำโครงการมาพูดคุยกัน ว่าทางรัฐบาลจะสนับสนุนอะไรได้บ้าง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เราในฐานะท้องถิ่นร่วมมือกับรัฐบาล สุดท้ายเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่ประชาชนแน่นอน

นายชัชชาติ ​ยังยืนยันว่า​ จะมีลงพื้นที่ร่วมกับนายกรัฐมนตรีแน่นอน​ พร้อมยังชี้แจงถึงการลงพื้นที่เปิดท่าเรือท่าช้าง-สาทร​ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า​ไม่ทราบจริง ๆ ซึ่งก็ได้ฝากบอกไปยังนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาลว่า ต่อไปหากมีอะไรก็แจ้งตนเองได้ และก็พร้อมที่จะไปพบนายกรัฐมนตรีและชี้แจงปัญหาในทุกพื้นที่ ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามนายชัชชาติ ว่าคิดถึงทำเนียบรัฐบาลหรือไม่​ นายชัชชาติ ร้องโอ๊ยและระบุว่า ไม่ใช่บ้านผม​ แต่ทำเนียบรัฐบาล​ ก็เปลี่ยนแปลงไปมาก​ มีความสวยงามมากขึ้น และได้เจอสื่อที่คุ้นเคยคนเก่า ๆ ก็ดีใจ.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]