ทำเนียบรัฐบาล 3 ก.พ.-นายกรัฐมนตรี ไม่ยืนยันเลือกตั้งใหญ่ก่อนหรือหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เผยยังไม่คิดปรับครม. อ้าง “บิ๊กป้อม” บอก 21 ส.ส. ถูกขับ ยังหนุนรัฐบาล ยังกั๊กนั่งหัวหน้าพปชร. พร้อมชูกำปั้นยังสู้อยู่
เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นครั้งแรกภายหลังกักตัวครบ 7 วัน จากการเดินทางกลับจากการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยได้ทักทายกับสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า “สวัสดีนะจ๊ะ ตรุษจีน ปีใหม่ ประเทศไทยก็ปีใหม่ได้ตลอดอยู่แล้วเพราะเรามีคนหลายเชื้อชาติในประเทศไทย”
เมื่อถามว่า ในฐานะผู้นำรัฐบาลและเป็นนายกฯ คาดการณ์และการวิเคราะห์เรื่องการยุบสภาขณะนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่ตนต้องติดตามสถานการณ์ปรึกษาหารือกับคนที่เกี่ยวข้องทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่านายกฯ ตัดสินใจเพียงผู้เดียว มันต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีอะไร สิ่งสำคัญที่สุด ในวันนี้รัฐบาลต้องการทำงานให้ได้ บ้านเมืองมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อน ก็ต้องทำงานให้ได้ การเมืองก็ต้องไปว่าทางการเมือง สิ่งที่ต้องเผชิญในวันนี้คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ก็เตรียมความพร้อมในการชี้แจง
เมื่อถามย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจและการรับมือจากฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าพร้อม ก็ไม่เห็นมีอะไรในญัตติ เป็นการถามรายวันอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าตอนนี้คิดว่าเสียงในรัฐบาลมีเพียงพอ ไม่ต้องเอาพรรคใหม่มาร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ โดยเฉพาะพรรคที่มีการแยกไป 21 เสียง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็อยู่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เพราะเขายังยืนยันว่าร่วมรัฐบาลอยู่ พล.อ.ประวิตร บอกมาอย่างนั้น และยืนยันว่า ยังไม่มีความคิดที่จะปรับครม. สถานการณ์ยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น
เมื่อถามว่าสถานการเมืองในขณะนี้มีความจำเป็นต้องไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าก็ยังไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น อะไรจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนกระทั่งแย่ไปทั้งหมด การเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อม และตนก็ยังเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจ ไว้เมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่ ค่อยว่ากันอีกที
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กับการเลือกตั้งใหญ่ อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องรอดูทั้งเรื่องกฎหมาย สถานการณ์การเมืองต่างๆ เป็นส่วนประกอบ แต่เรื่องการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. คือ ส่วนของกทม. ตนบอกแล้วว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 65 พูดมาตั้งนานแล้ว และเป็นเรื่องของการเตรียมการของกกต. และกระทรวงมหาดไทย ก็มีการเตรียมการทุกอย่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หรือมีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่คาดหมายก็เป็นไปตามนั้น ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องรอรัฐธรรมนูญในเรื่องของกฎหมายลูก ซึ่งการพูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี วานนี้ (2 ก.พ.) ก็ไม่ได้มีอะไร เหลือเพียงขั้นตอนการดำเนินการ หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นก็แล้วกัน
เมื่อถามย้ำว่านายกฯ ยืนยันใช่หรือไม่จะไม่ยุบสภา ตอนกฎหมายลูกเลือกตั้งยังไม่เสร็จ เพื่อให้บัตรไปตั้ง 2 ใบตกไป ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมยังไม่ยืนยัน นอนยันอะไรทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวไม่ต้องมาตั้งคำถามสมมติว่าอย่างนั้นอย่างนี้จะสมมติอะไรนักหนา ถ้าจะให้ประเมินก็มีทั้งตกและไม่ตก มีทั้งได้และไม่ได้ 2 ใบ หรือใบเดียว มันยังไม่ถึงขั้นตอนการพิจารณา ก็อย่าเพิ่งไปลงความเห็นว่ามันจะตกหรือไม่ตก เราต้องเตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน ว่าจะต้องทำอย่างไร มันมีกระบวนการทำอยู่แล้ว สื่อเข้าใจการเมืองมากกว่านายกฯ เสียอีก”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีจากกลุ่ม 21 ส.ส. ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมยังไม่เห็นมีใครขออะไร ยืนยันยังไม่มี และยังไม่อยู่ในแนวทางที่จะปรับ ครม. ในเวลานี้ผมบอกแล้วไงว่าผมทำงานก่อน”
เมื่อถามว่า คิดว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 และการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐพ่ายแพ้มาตลอดเป็นเพราะกระแสความนิยมรัฐบาล และพลเอกประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงใช่หรือไม่ และมาเพราะจากการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐเอง นายกฯ กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมก็เป็นเรื่องของการเลือกตั้งซ่อม เรามีกี่เขตตามรัฐธรรมนูญใหม่ 400 เขต ใช่หรือไม่ มันจะแพ้เขตสองเขต การแพ้ชนะก็เป็นเรื่องของการแพ้ชนะว่ากันตามความนิยมของประชาชน
“ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะกระแสความนิยมรัฐบาลและชื่อพลเอกประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าขาลงหรือขาขึ้น ผมก็เหมือนขึ้นบันไดลงบันไดทั้งวันนั่นแหละ ตัวอย่างมันขึ้นอยู่กับการทำงานมากกว่า การเมืองก็คือการเมือง ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐ ผมก็ให้กำลังใจในการทำงาน พยายามทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่มีอะไร ผมยืนยันผมพูดกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมให้กำลังใจกับทุกคนที่ทำงานร่วมกัน ตราบใดที่ทำงานร่วมกัน ทำความดีร่วมกัน ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะประสานการทำงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างไรเพื่อรักษาเสถียรภาพและสิ่งของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าเป็นการประสานงานโดยพรรคการเมือง ซึ่งก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันอยู่แล้ว เข้าใจตรงกันว่าเรากำลังทำงานเพื่อประเทศชาติ ให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติให้ได้เร็วที่สุดก่อน
ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า “ศัตรูของศัตรูคือมิตร” จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลายเป็นหนามที่คอยทิ่มตำรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะพูดคำกล่าวอะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ใช่คนเจ้าคารี้สีคารมอะไรแบบ ใครพูดอะไรก็ฟังไปก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯ มีไม้เด็ดอะไรในมือบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ามีกระดาษนี่ไงพร้อมชูกระดาษขึ้นมาก่อนกล่าวว่าไม่มีอะไรหรอก มีแต่ความมั่นใจ ตั้งใจจริง และทำเพื่อประชาชน ประเทศชาติมีแค่นั้น และไม่มีความกังวลอะไรเมื่อถามว่ามองสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมก็รู้สึกเฉยๆ” สำหรับปัญหาที่มีอยู่กับระยะเวลาของรัฐบาลที่เหลือส่วนตัวก็คิดว่าปัญหาจะแก้ในรัฐบาลเดียวไม่ได้ ต้องแก้หลายรัฐบาล ต้องช่วยกันสานต่อไป ใครเป็นรัฐบาลก็ทำต่อกันไปนั่นแหละ วันนี้ตนก็เอาของเก่ามาแก้ได้ตั้งเยอะแล้ว วันนี้มันยังไม่เสร็จหรอกประเทศไทย เพราะมันเปลี่ยนแปลงทุกวัน
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ยังสู้หรือไม่ นายกฯได้หันมาถามสื่อมวลชนกลับว่า วันนี้วันอะไร ผู้สื่อข่าวตอบว่าวันทหารผ่านศึก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชูกำปั้นมือขวาพร้อมกล่าวว่า “ทหารผ่านศึก” จากนั้นเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า.-สำนักข่าวไทย